โอลิมปิก 2020 นักมวยโคลอมเบียชกเจ้าภาพญี่ปุ่นจนนั่งรถเข็น แต่แพ้ค้านสายตา

ค้านสายตา! เกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นไวรัลโอลิมปิก 2020 เมื่อนักมวยสากลสมัครเล่นโคลอมเบีย โชว์ฟอร์มสุดโหด ต่อยนักกีฬาเจ้าภาพ ญี่ปุ่น ในรอบชิงเหรียญทองแดง จนนักมวยญี่ปุ่นถึงกับต้องนั่งรถเข็น แต่บทสรุปของการแข่งขันนั้นคือนักมวยโคลอมเบียแพ้คะแนน 1-4 เสียง

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิก 2020 เกิดเรื่องราวดราม่าขึ้นและกลายเป็นกระแสไวรัลโอลิมปิก เพราะเกิดผลการแข่งขันที่เรียกได้ว่า ค้านสายตา โดยเหตุการณ์ที่กลายเป็น ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินของกีฬามวยสากลสมัครเล่น เกิดขึ้นในรุ่นฟลายเวท 52 กิโลกรัมชาย ซึ่งเป็นมวยรุ่นเล็กสุดในโอลิมปิก 2020 ครั้งนี้ โดยคู่ระหว่าง ริวาส มาร์ติเนซ จากโคลอมเบีย ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้เหรียญเงินในรุ่น 49 กก.ไลท์ฟลายเวท พบกับ เรียวเม ทานากะ จากญี่ปุ่นเจ้าภาพ ในรอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งเปรียบเสมือนรอบชิงฯเหรียญทองแดง เพราะใครชนะการันตีเหรียญทองแดงทันที
.
โดย คะแนนจากกรรมการ ในยกแรก ปรากฏว่า ริวาส มาร์ติเนซ นักมวยโคลอมเบีย ทำคะแนนนำไปก่อน 4-1 เสียง แต่ยกที่สอง นักมวยจากญี่ปุ่น ตีตื้นขึ้นมาก่อนชนะไป 3-2 เสียง และในยกที่สาม กรรมการกลับให้ทางทานากะ ชนะทั้ง 5 คน ส่งผลให้ ทานากะ พลิกชนะนักชกจากโคลอมเบีย ไปด้วยคะแนน 4-1 เสียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรียวเม ทานากะ เข้ารอบรองชนะเลิศและการันตีเหรียญทองแดง ท่ามกลางความงุนงงของนักมวยโคลอมเบียที่คิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้ชนะ เนื่องจากบนเวที มีจังหวะที่ต่อยเข้าเป้าอยู่หลายครั้ง หลังการชก ทานากะ ไม่สามารถลุกเดินได้ เนื่องจากยังมึนหมัดบนสังเวียนของนักชกโคลอมเบีย จนต้องใช้รถเข็นในการนำตัวเขาออกจากสนาม
.
ขณะที่ ริวาซ มาร์ติเนซ วัย 29 ปี จากโคลอมเบีย ที่ฝันสลาย เปิดใจด้วยความเจ็บปวดว่า "ผมคิดว่าผมชนะแน่ๆ ผมต่อยเข้าเป้าตลอด ผมไม่รู้ว่ากรรมการไม่เห็นได้ไง ยกสุดท้าย แม้ผมจะเหนื่อย แต่ผมว่า ผมยังต่อยดีกว่าเขา และควรเป็นผู้ชนะทั้ง 3 ยก ผมเตรียมตัวมาหลายปีสำหรับการแข่งขัน เพื่อพบว่า ผมไม่ชนะใจกรรมการบนเวที ผมเสียใจมากครับ"

ทั้งนี้ เรียวเม ทานากะ จะเข้าไปพบกับ คาร์โล พาลัม นักชกจากฟิลิปปินส์ ในรอบรองชนะเลิศต่อไป ขณะที่ ริวาซ มาร์ติเนซ ต้องกลับบ้านมือเปล่าไป