svasdssvasds

สธ. ยัน การฉีดวัคซีนแบบไขว้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบปมฉีดวัคซีนพลาด

สธ. ยัน การฉีดวัคซีนแบบไขว้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบปมฉีดวัคซีนพลาด

กระทรวงสาธารณสุข เผย ฉีดวัคซีนต่างยี่ห้อ มีประสิทธิภาพสูงกว่าการฉีดวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน ชี้การฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 มีประสิทธิผลป้องกันเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าได้ พร้อมเร่งติดตามผล ข้อผิดพลาดหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าฯให้ประชาชนรายหนึ่งในสมุทรปราการ 2เข็ม ห่างกันเพียง 20 วัน

21 ส.ค.64 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด19 ว่า ภาพรวมของโลกผู้ติดเชื้อโควิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประสบปัญหาเชื้อกลายพันธุ์ของสายพันธุ์เดลต้าที่เผชิญอยู่รวมถึงในประเทศไทย แต่มีข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตแนวโน้มค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แตกต่างจากในอดีตที่ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วเมื่อต้นปีที่แล้ว เมื่อดูรายละเอียดแต่ละประเทศผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมง จำนวน 6.5 แสนราย ประเทศที่มีจำนวนมากจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาแม้ว่าจะฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากแต่ก็ติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน ส่วนในประเทศไทยผู้ติดรายใหม่วันนี้ 20,571 ราย และผู้เสียชีวิตจำนวน 261ราย ส่วนหนึ่งเป็นผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและมีการรวบรวมตัวเลขที่ตกค้างมารวมด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์ในประเทศไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 2 หมื่นรายต่อวัน วันนี้มีจำนวน 20,322ราย มีแนวโน้มจะไม่พุ่งทะยานต่อ ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เฉลี่ย 8,000 กว่าราย  แนวโน้มคงที่มาหลายวัน ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ชายแดนใต้927ราย และในส่วนเรือนจำ 235ราย กทม.และปริมณฑลเสียชีวิต 141รายสมุทรปราการ1500 ราย สมุทรสาคร 1400กว่าราย และชลบุรี 1200กว่าราย 

ข้อมูลจากการตรวจ ATK การตรวจพบเชื้อมีแนวโน้มที่ดีขึ้น กทม. น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็น เมื่อวานนี้มีเพียง 5 เปอร์เซ็น ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มลดลงจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตมาจากปัจจัยเสี่ยง คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือด โรคอ้วน ผู้ป่วยติดติดเตียง ส่วนแหล่งโรคที่ทำให้ติดเชื้อมากที่สุดจะเป็นการติดเชื้อที่มีการระบาดอยู่แล้ว และคนรู้จัก ส่วนจากการติดเชื้อสมาชิกในครอบครัวลดลง

นพ.โสภณ ยังกล่าวอีกว่า ประสิทธิผลของการฉีดวัคซีน ที่มีการรายงานจากกรมควบคุมโรค เรื่องการศึกษาประสิทธิผลวัคซีน การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกัน 72เปอร์เซ็น   โดยภาพรวมคนที่ฉีดวัคซีนยังได้รับประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต การศึกษาผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม ในต่างประเทศป้องกันการป่วยหนักและป้องกันการเสียชีวิตได้ถึง 70-80เปอร์เซ็น 

การศึกษาจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับศิราราชพยาบาล พบภูมิคุ้มกันที่สำคัญ ของการฉีดซิโนแวคและตามด้วยแอสต้าเซเนก้า อยู่ในระดับป้องกันภูมิที่สูงขึ้น เมื่อเทียบ ซิโนแวคกับซิโนแวค หรือ แอสต้าฯกับแอสต้าฯ จึงอยากเชิญทุกคนไปฉีดวัคซีนโดยเร็วไม่ว่าจะสูตรไหน กระทรวงสาธารณะสุขแนะนำการฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสต้าเซเนก้า ควรห่างกัน 3 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันจะขึ้นเร็วและสูง

นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังตอบประเด็นคำถามการฉีดวัคซีนไขว้เป็นการฉีดซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้าห่างกัน 3 สัปดาห์ ขณะนี้มีการฉีดซิโนแวคและตามด้วยแอสตร้าเซเนก้ามากกว่า 1 ล้านคนแล้ว จากการติดตามดูมี 1 รายที่เสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าได้รับวัคซีนซิโนแวคและตามด้วยแอสตร้าช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นกรณีที่เกิดขึ้นเพียง1ในล้านรายที่เกิดขึ้นในสูตรนี้ ไม่ว่าจะฉีดสูตรใดก็มีส่วนเสียชีวิตได้ จากข้อมูลตัวเลขคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ที่เสียชีวิตมี 26ราย ส่วนใหญ่สูตรฉีดซิโนแวคกับซิโนแวคมี 24 ราย และเป็นแอสตร้าเซเนก้ากับแอสตร้าเซเนก้ามี  1 ราย แต่หากเป็นซิโนแวคกับแอสตร้าเซเนก้าจะมีเพียง 1 ราย ถ้าหากได้วัคซีนครบ2เข็มก็จะเสียชีวิตประมาณ 4ใน1ล้าน ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าในกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นประมาณเกือบ70-140ต่อล้านคน ดังนั้นการฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้าจะป้องกันการป่วยหนักและรุนแรงได้ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า

ส่วนการรับวัคซีนวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม ในช่วงเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นการกระตุ้นมากกว่า 5แสนราย เป็นไฟเซอร์และแอสตร้าเซเนก้า อีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับจะเป็นประชาชนทั่วไปที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น มีโรคประจำตัว ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการทางด้านวัคซีนจะหารือกลุ่มที่ได้รับซิโนแวคไปแล้ว2เข็ม มีโอกาสได้รับวัคซีนเข็ม3กระตุ้นไม่เกินปลายปีนี้ เพราะมีวัคซีนที่มีมากขึ้นทั้งแอสตร้าเซเนก้าและไฟเซอร์ 

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ในวันนี้ว่า วัคซีนที่ประเทศไทยนำมาใช้ มีหลากหลายบริษัทและหลากหลายยี่ห้อ แต่ทุกยี่ห้อได้รับการรับรองจากอย.และองค์การอนามัยโลก โดยยืนยันในประสิทธิภาพการป้องกันการเจ็บป่วย ถึงแม้ว่าวัคซีนจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้100 เปอร์เซ็น  แต่ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและที่สำคัญช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิต สรุปผลการฉีดวัคซีน ในรอบรายวัน วันนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว  609,435 โดส ยอดสะสมอยู่ที่26,428,101 โดส 

สำหรับยอดสะสมรายจังหวัด ในกทม.และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดสีแดงเข้ม มีแผนฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ50 อีกกลุ่มหนึ่งที่ได้เร่งรัดการฉีดคือกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ฉีดให้ได้ร้อยละ70 ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จำนวนวัคซีนที่เข้ามาในไทยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนสิงหาคม มีจำนวนกว่า30ล้านโดส  ส่วนแอสต้าเซเนก้าระยะหลังที่มีการนำเข้ามาก็มีการฉีดวัคซีนมากขึ้น สัญญาที่ลงนามจองวัคซีน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 การส่งมอบจะมีการเจรจาเป็นรายเดือนตามสัญญาที่กำหนดจะเริ่มส่งให้ไทยภายในเดือนมิถุนายนและตามรายเดือนที่ตกลงไว้ 

ขณะที่แผนการฉีดวัคซีนในปี 2565 แนวโน้มการฉีดวัคซีน มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เข็ม 3 บูสเตอร์โดส และการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก จากข้อมูลการฉีดวัคซีน 2 เข็มไปแล้วภูมิจะตกลง จึงจำเป็นที่จะต้องฉีดเข็ม 3 จะทำให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติจะต้องมีการหาวัคซีนเพิ่มขึ้น 120 ล้านโดส สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้หารือบริษัทวัคซีนที่มีการแจ้งเจตจำนง ว่าจะนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ 50ล้านโดส และแอสตร้าเซเนก้า อีก 50ล้านโดส 

นอกจากนี้กรณีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ มีการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ที่มีการระบุเป็นการฉีดซิโนแวคเข็มแรก และแอสตร้าเซเนก้าเข็ม 2 แต่ปรากฏว่าในผู้ที่ได้รับวัคซีนรายนี้ กลับได้ฉีดแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรก  และไปฉีดแอสตร้าเซเนก้าเข็ม 2 ซึ่งห่างกันเพียง 20วัน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนหลายชนิด บางครั้งผู้ปฎิบัติงานอาจเกิดความสับสน ถือเป็นความบกพร่องส่วนบุคคล อย่างกรณีนี้คงต้องไปตรวจสอบและติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการฉีดแอสตร้าเซเนก้าห่างกัน เพียง 20วัน จะส่งผลกระทบต่อการป้องกันภูมิคุ้มกันหรือไม่ เพราะการกำหนดให้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าและแอสตร้าเซเนก้า จะต้องฉีดห่างกัน 8-16 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลจะส่งผลต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง ถ้าฉีดใกล้กันติดกันภูมิคุ้มกันอาจขึ้นไม่ดีมากนัก

related