svasdssvasds

ส่องกระบวนการค้ารถหรู จากคดี ผู้กำกับโจ้ นำส่งรถหรู เงินค่านำจับกว่า 55%

ส่องกระบวนการค้ารถหรู จากคดี ผู้กำกับโจ้ นำส่งรถหรู เงินค่านำจับกว่า 55%

อัปเดต กรมศุลกากร ตรวจพบ ผู้กำกับโจ้ หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ นำส่งรถหรู เจ้าของสำนวน 368 คัน ยังขายไม่ออก อีก 5 คัน เงินค่านำจับสูง 40-55%

ความคืบหน้ากรณีรถหรูคดีดัง ล่าสุด กรมศุลกากร ตรวจสอบพบว่า ผกก.โจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นำส่งรถหรู เจ้าของสำนวน 368 คัน

ทั้งนี้ ผู้กำกับโจ้ เจ้าของสำนวนคดีนำส่งรถ พ.ศ. 2554-2560 กว่า 6 ปี นำจับ 368 คัน ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ยังขายไม่ออก อีก 5 คัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

"ผกก.โจ้" วัย 39 ปี จบเตรียมทหารรุ่นที่ 41 และ นรต. รุ่น 57 บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ยศ "ร.ต.ต." รับตำแหน่งรองสารวัตร เมื่อ 1 ก.พ. 2547 เติบโตในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว สมัยอยู่ในกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)

สมัยเป็น รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.4 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ทำคดียาเสพติดรายใหญ่จนสร้างชื่อให้ตัวเอง ในขณะที่นำส่งรถหรู เจ้าของสำนวน 368 คัน

มีรายงานด้วยว่า มีขบวนการค้ารถหรูที่ฝั่งมาเลเซียราคาถูกกว่าไทย ยกตัวอย่างรถหรูบีเอ็มฯ ประมาณ 4 แสนบาท ซื้อแล้วลักลอบเอาเข้าไทย ให้ถูกจับรถโดยไม่มีคนเกี่ยวข้องนำเข้าผิดกฎหมาย ทำให้รถถูกส่งให้ศุลกากร เมื่อคดีเสร็จนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล

หากราคารถบีเอ็มฯประมูลไป 2 ล้าน แบ่ง 1.รางวัลนำจับ และ 2.ค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้านบาท หรือ 9 แสนบาท เท่ากับว่า รถบีเอ็มฯ หักทุน 4 แสนบาทแล้ว จะได้กำไร 5 แสนบาท ซึ่งไม่แน่ใจว่า ผกก.ฉาว เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่

related