อึ้ง! ผู้ป่วยโควิด เล่นพนัน-เสพยาเสพติด-มีเซ็กส์ ในรพ.สนาม

27 ส.ค.64 พันเอก ประเทือง แก้วทุย รองผู้บัญชาการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี เข้าการตรวจค้นจัดระเบียบภายในโรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ WHA  ริมถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ  ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ วานนี้(26 ส.ค.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สวดยับ อบต. สั่งแคร่ไม้ไผ่ สร้าง รพ.สนาม แต่เขียนเบิกตัวละ 1,500 บาท!

• หนุ่มโพสต์รีวิว รพ.สนามบุษราคัม แนะ ถ้าอาการไม่หนัก home isolation ดีกว่า

• สุดซึ้ง! "พยาบาล" ทำเซอร์ไพรส์ ​มอบเค้ก​วันเกิดให้ผู้ป่วยโควิด ​ใน รพ.สนาม

พ.อ.ประเทือง กล่าวว่า ทราบว่าที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้หลายประการ ทั้งการฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งโรงพยาบาลสนาม ปัญหาบุคคลภายนอกแอบลักลอบส่งสิ่งของให้กับผู้ป่วย และการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ป่วย การทำร้ายร่างกาย และรวมถึงปัญหาด้านยาเสพติด เพื่อให้การดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อป้องปรามการกระทำผิดการฝ่าฝืนระเบียบคำสั่ง การทะเลาะวิวาท และปัญหาเรื่องยาเสพติด ภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้

เจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ จึงได้สนธิกำลังระหว่างตำรวจบางพลี และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นอาวุธ ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 WHA แห่งนี้ ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งชายและหญิงเข้ามาพักรักษาตัวอยู่ประมาณ 1 พันราย ผลการตรวจค้นพบเพียงการฝ่าฝืนลักลอบนำบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปสูบในโรงพยาบาลสนามเท่านั้นซึ่งสามารถตรวจยึดได้จำนวนหนึ่ง

ด้านพ.อ.กฤษภาณุ จำนงค์วงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว ส่วนปฏิบัติการกองบังคับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารร่วมทั้งฝ่ายปกครองเข้ามาจัดระเบียบในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เกิดปัญหาขึ้นภายในระหว่างกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน และมีการแอบนำยาเสพติดเข้าไปเสพ แต่เราก็จับอะไรไม่ได้ชัดเจนเพราะกล้องวงจรปิดไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ จึงได้แต่ป้องปรามส่วนในเรื่องที่มีผู้ป่วยผู้หญิงแอบไปนอนร่วมกับผู้ป่วยชาย หรือผู้ป่วยชายแอบไปนอนเตียงผู้ป่วยหญิง นั้นยอมรับว่ามันก็มี เขาอาจจะไปนอนคุยกันธรรมดาอะไรหรืออะไรก็ไม่รู้ เพราะภาพมันไม่ได้มีปรากฏ ที่เราทราบเพราะเรามีกล้องวงจรปิดจับภาพอยู่ทุกมุม ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ แต่ภาพก็ไม่ได้เห็นว่าเขาทำอะไรกัน ก็อยากให้มันเป็นระเบียบมากขึ้น