svasdssvasds

ครม.ทุ่มงบกว่า 105 ล้านให้ "กรมประชาสัมพันธ์" ตั้งเป้าปราบ "เฟคนิวส์โควิด"

ครม.ทุ่มงบกว่า 105 ล้านให้ "กรมประชาสัมพันธ์" ตั้งเป้าปราบ "เฟคนิวส์โควิด"

เปิดแผนใช้เงิน 105 ล้านกรมประชาสัมพันธ์ ใช้สื่อประชาสัมพันธ์โควิดหลัง ครม.อนุมัติงบกลางฯให้ใช้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ผลิต-เผยแพร่ทุกช่องทาง วิทยุ โทรทัศน์ สปอร์ตโฆษณา สื่อออนไลน์ เผยที่มามุ่งปราบเฟคนิวส์โควิด-19 ที่แพร่ทางช่องทางโซเชียลมีเดีย

 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (30 ส.ค.) อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 105,592,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เอาชนะโควิดตามมาตรการเร่งด่วน (Thailand Prevention) สำหรับผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์เพื่อการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์อันมีผลกระทบอันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)

 โดยการดำเนินงานจากงบประมาณนี้ให้มีดำเนินการในระยะเร่งด่วน (ภายในเดือนธันวาคม 2564) ก่อน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  2 กิจกรรม ดังนี้

• ผลิตและเผยแพร่ สปอตทางวิทยุ และโทรทัศน์ จำนวน 51,592,000 บาท

• ผลิตและเผยแพร่ผ่านสื่อโฆษณา Online จำนวน 54,000,000 บาท 

 สำหรับกิจกรรมอื่นเห็นสมควรให้กรมประชาสัมพันธ์พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีผลใช้บังคับ โดยพิจารณาดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 ในโอกาสแรก ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โควิดวันนี้ เสียชีวิตเพิ่ม 190 ราย สะสม 11,589 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 14,666 ราย

• ​กรมอนามัย  เผยเด็ก 0-5 ขวบติดโควิดพุ่งกว่า 3 หมื่นราย แนะตรวจโควิดด้วย ATK

• ผู้เชี่ยวชาญพบ โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจดื้อวัคซีน

 กรมประชาสัมพันธ์รายงาน ครม.รับทราบว่าความเป็นมาของเรื่องที่จะเสนอจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า (Delta) ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งด้านสาธารณสุขเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา การประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิต ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

 ซึ่งศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์อุดม คชินทร รองประธานคณะที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไรรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ศบค.) ได้กล่าวในการประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ๒๕๖๔ ว่า "ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทั่วทั้งโลกมีการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) อย่างมากแพร่กระจายถึง 96 ประเทศ สถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อ 2 เดือนที่แล้วมีการระบาดสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) ประมาณ 85-90 % ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม มีการระบาดสายพันธุ์เดลต้าภาพรวมประเทศอยู่ที่ 30 % ถือว่าเร็วมากถ้านับเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลคิดเป็น 50 % ของเชื้อที่พบ

 ทั้งนี้รัฐบาลจึงควรมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ที่นำเสนอประเด็นแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และประเด็นอื่น พร้อมกับสื่อสารให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการแก้ไขสถานการณ์หรือประเด็นที่เกี่ยวข้อง

โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะมีมาตรการและการดำเนินงานเพื่อแก้ไขเยียวยา และบรรเทาผลกระทบของประชาชนออกมาเป็นจำนวนมาก แต่จากความรุนแรงของสถานการณ์ รวมทั้งการเผยแพร่ข่าวปลอมการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร (Fake News) จากผู้ที่ขาดความรู้ที่ถูกต้อง หรือผู้ที่ไม่พึงพอใจต่อการดำเนินงานของ ภาครัฐ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิดและอาจเกิดปัญหาความชัดแย้งบานปลายได้

 ซึ่งประเด็นปัญหาเหล่านี้ได้นำมาหารือในการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 22กรกฎาคม 2565โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครื่องาม) เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้เร่งรัดให้รัฐบาลเร่งสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสาร และมาตรการแก้ไขปัญหาของประเทศตลอดจนวิธีการปฏิบัติตนในช่วงสถานการณ์วิกฤตรุนแรงในปัจจุบัน ดังนั้น การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง หรือผู้ที่ไม่พึงพอใจต่อการดำเนินงานของภาครัฐ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิดและอาจเกิดปัญหาความชัดแย้งบานปลายได้

 

related