"ครูก้อย นัชชา" ภรรยาคนเก่งดีกรีครูวิทยาศาสตร์ คู่ชีวิตของ "เจมส์ เรืองศักดิ์" หลังจากเคยมีประสบการณ์ด้านมีบุตรยาก จนประสบความสำเร็จจากการศึกษาค้นคว้างานวิจัยเกี่ยวกับการบำรุงเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ตั้งครรภ์ "น้องเมดา" ด.ญ. อันโดรเมดา ลอยชูศักดิ์ ลูกสาวคนแรก
ตอนนี้น้องเมดา อายุ 2 ขวบครึ่งแล้ว มีพัฒนาการดีสมวัย เป็นเด็กมีความสุข ชอบร้องเพลงเหมือนพ่อเจมส์ ช่างพูด ช่างจินตนาการ ตอนนี้ก็ซ้อมช่วยแม่เลี้ยงน้อง พร้อมมีน้องแล้ว ทั้งแม่ก้อย พ่อเจมส์ หลงลูกหนักมาก เลี้ยงเอง ดูแลเองมาโดยตลอด เพราะทำงานออนไลน์
พร้อมกับช่วงนี้ย้ายไปพักกับครอบครัวที่นครศรีธรรมราชในช่วงโควิด จึงทำให้ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเต็มที่ สูดอากาศบริสุทธิ์ ริมหาดส่วนตัว ทราบมาว่าตั้งชื่อหาดเป็นชื่อสูกสาวว่า หาดอันโดรเมดา พอลูกหลับ แม่ก้อย พ่อเจมส์ ก็แว๊บมาไลฟ์ ให้ความรู้แม่ๆ เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่มีบุตรยาก และแชร์เคล็ดลับดีๆ ผ่านเพจ babyandmom.co.th
ครูก้อยเล่าว่า "ตอนนี้หลังจากได้กระตุ้นไข่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้ตัวอ่อนเกรด เอบี คัดโครโมโซมผ่านแล้ว 2 ตัว เป็นชาย 1 หญิง 1 เตรียมใส่ตัวอ่อนต้นปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ครูก้อยได้รับวัคซีนครบเข็ม 2 เรียบร้อยแล้ว และต่อเติมบ้านเสร็จพอดี พอคลอดลูกคนที่2 น้องเมดาก็อายุ 4 ขวบแล้ว ซึ่งเป็นวัยที่คุยรู้เรื่อง เข้าใจแล้วว่าแม่กำลังจะน้องให้เมดาอีกคน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โบวี่ อัฐมา เผยเคยมีอาการซึมเศร้า ทุกวินาทีที่หายใจมีแต่ความทุกข์
ส่องแฟชั่นลุคเข้าป่าของ 6 ตัวเต็ง Miss Universe Thailand 2021
ป๊อก-มาร์กี้ พาทัวร์บ้านพักเมืองมาดริด สวยน่าอยู่ทุกซอกทุกมุม
"จริงๆพี่เจมส์อยากมีลูก 3 คน วางแผนว่าหลังจากท้องคนที่ 2 แล้ว หลังจากนั้นอีก 3 ปี จะไปรับตัวอ่อนที่ฟรี๊ซไว้อีก1ตัว ตอนนั้นคงอายุประมาณ 41 ปีแล้ว ดังนั้นก่อนไปใส่ตัวอ่อน จึงต้องเตรียมพร้อมของร่างกายให้ดี โดยเฉพาะโปรตีนต้องถึง เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และเสริมสารแอนตี้ออกซิเดนท์เพื่อไปต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ให้มาทำลายเซลล์ เพื่อให้มดลูกหนาตัวพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน"
และนอกจากนี้ ครูก้อย ยังแชร์เคล็ดลับบำรุงร่างกาย เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อได้ไข่และตัวอ่อนคุณภาพดี สำหรับแม่ๆ ที่มีปัญหาท้องยากว่า ต้องเน้นทานโปรตีนและสารแอนตี้ออกซิเดนท์ เนื่องจากเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิง เป็นเซลล์สืบพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย จำเป็นที่จะต้องได้รับโปรตีนที่เพียงพอ เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับเซลล์ไข่ให้เจริญเติบโตตามเกณฑ์ และควบคุมวงจรการตกไข่ให้เป็นปกติในทุกๆเดือน
นอกจากนี้แล้ว มดลูก ยังเป็นกล้ามเนื้อที่จำเป็นต้องได้รับโปรตีน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยให้ผนังมดลูกนั้นฟอร์มตัวหนาขึ้น พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน รวมทั้งโปรตีนยังช่วยในการผลิตสเปิร์มของฝ่ายชาย และลดความเสี่ยงการเป็นหมัน รวมถึงช่วยควบคุมฮอร์โมนเพศให้เป็นปกติทั้งชายและหญิงอีกด้วย
ครูก้อยจึงให้พี่เจมส์ทานโปรตีนบำรุงสเปิร์มเพิ่ม ก่อนไปเก็บสเปิร์มเพื่อให้ได้สเปิร์มที่มีคุณภาพ ก่อนไปจับเจาะกับไข่ที่มีคุณภาพของครูก้อย เพื่อให้ได้ตัวอ่อนคุณภาพดี เกรดเอ แบบที่ได้มา
แต่ในขณะเดียวกันร่างกายสลายโปรตีนและถูกนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆทุกวัน โดยสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าร่างกายขาดโปรตีน ได้แก่
1. มีอาการบวมน้ำ , 2. ผิวหนัง เล็บแห้ง เปราะบาง ผมขาดและหลุดล่วงง่าย , 3.ขาดมวลกล้ามเนื้อ , 4. กระดูกพรุน กระดูกเปราะบาง , 5. ติดเชื้อได้ง่าย ป่วยบ่อย หายช้า ,6. หิวบ่อย กินไม่อิ่ม , 7. นอนไม่หลับ , 8. ผนังมดลูกบาง ตัวอ่อนไม่ฝังตัว , 9. เซลล์ไข่ไม่เจริญเติบโต ไข่ใบเล็ก ท้องยาก
ดังนั้นร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับปริมาณโปรตีนที่เพียงพอทุกวัน ครูก้อยแนะนำ ผู้หญิงวางแผนท้องต้องทานโปรตีนให้เพียงพอต่อวัน คือเพียงพอต่อน้ำหนักตัว ซึ่งคนบำรุงต้องทานโปรตีนอย่างน้อย 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
โดยจากที่ครูก้อยได้ศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับผู้มีบุตรยากมีงานวิจัยหลากหลายฉบับรายงานว่า การทานโปรตีนช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และควรเลือกทานโปรตีนจากพืช ( Plant-Based Protein) เพราะมีการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ทานโปรตีนจากพืช ไขมันดี และวิตามินแร่ธาตุครบถ้วนมีความเสี่ยงเรื่องภาวะไม่ตกไข่ลดลงถึง 66%
และมีการศึกษาจาก Harvard School of Public Health พบว่า การทานโปรตีนจากสัตว์ที่อาจมีฮอร์โมนเร่งเนื้อแดงตกค้างและมีไขมันสูงทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงมีบุตรยากถึง 39%
ครูก้อย แนะนำว่าผู้หญิงบำรุงไข่ที่เตรียมเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ทำเด็กหลอดแก้ว หรือ เตรียมท้องธรรมชาติ นอกจากต้องเน้นโปรตีนแล้ว ต้องเน้นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ด้วย โดยจากการศึกษางานวิจัยพบว่า น้ำมะกรูดเป็นสมุนไพรไทยที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก โดยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่าเควอซิทีน ที่ช่วยปกป้องเซลล์ไข่ ลดอัตราไข่ฝ่อได้
ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงทำงานได้ดีขึ้น ผลิตไข่ที่มีคุณภาพ โดยครูก้อยได้อ้างอิงการศึกษางานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Oncotarget เมื่อปี ค.ศ. 2017 ศึกษาพบว่า สารเควอซิทินช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ไข่ โดยปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระ Quercetin ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์ความผิดปกติของเซลล์ไข่ลดลงอย่างมาก
โดยเฉพาะการเลี้ยงไข่ที่ 24 ชั่วโมง ยังพบอีกว่า หากไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เควอซิทิน ไข่จะฝ่อเสียเกือบ 80% แต่ในกรณีที่มีเควอซิทินเพียง 10 ไมโครโมลาร์ จะช่วยลดความเสียหายได้เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในความสำเร็จจนถึงระดับ
บลาสโตซีสต์ได้อีกเท่าตัว และน้ำมะกรูดคั้นสดยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ปรับสมดุลฮอร์โมน ทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอและดึงรอบวงจรการตกไข่ให้กลับมาเป็นปกติ
รู้อย่างนี้แล้วต้องปรับการทานอาหาร เน้นโปรตีนจากพืช เน้นสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่กับการพักผ่อนที่เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ บำรุงไข่ให้มีคุณภาพ แม้จะมีไข่น้อย แต่หากบำรุงให้เป็นไข่ทองคำก็สามารถท้องได้
นอกจากนี้ครูก้อยยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จการตั้งครรภ์ของคู่รักคนดังในวงการบันเทิงอีกมากมาย อาทิ "แอปเปิ้ล สีสะเหงียน-ฟลุค จิระ" , "เจม กาลย์กัลยา-เชน ธนาตรัยฉัตร" , "ครี พัสวีพิชญ์-ประเสริฐ เวชมัชฌิมาบุญ" , "บุ้ง ใบหยก-เวฟ สาริน", "บุ๋ม มินตยา-ต๊ะ บอยสเก๊าท์"
พร้อมกับให้คำปรึกษากับแม่ๆที่มีบุตรยากจำนวนมาก โดยสามารถติดตามผ่านทาง แฟนเพจเฟสบุ๊ค เว็บไซต์ ยูทูป และไลน์แอด ภายใต้ชื่อเดียวกันที่ babyandmom.co.th สำหรับใครที่มีปัญหาท้องยากและอยากประสบความสำเร็จเหมือนกับแม่ๆหลายๆคน สามารถเข้าไปติดตามครูก้อยได้เลยจ้า
เพิ่ม Spring News
ลงในหน้าจอหลักของคุณ