svasdssvasds

ศบค.เผยเปิดประเทศ 3 วัน นักท่องเที่ยวเข้าไทย 4,510 คน พบติดเชื้อโควิด 6 ราย

ศบค.เผยเปิดประเทศ 3 วัน นักท่องเที่ยวเข้าไทย 4,510 คน พบติดเชื้อโควิด 6 ราย

ศบค. เผย เปิดประเทศ 3 วัน พบนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 4,500 คน ติดโควิด เพียง 6 ราย ชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเที่ยวเยอะที่สุดเกือบ 400 คน

 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า พบผู้ติดเชื้อ 7,679 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 7,136 ราย จากเรือนจำ 536 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 ราย หายป่วย 8,482 ราย รักษาอยู่ 97,585 ราย อาการหนัก 2,205 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 483 ราย เสียชีวิต 56 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 19,394 ราย

โดยผู้เสียชีวิต 56 ราย เป็นชาย 28 ราย หญิง 28 ราย เป็นคนไทย 53 คน เมียนมา 2 คน และไม่ระบุอีก 1 คน อายุช่วง 37-94 ปี โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง รวม 95% ทั้งนี้ กทม. เสียชีวิตสูงสุด 7 ราย ปริมณฑล 3 ราย ภาคอีสาน 10 ราย ภาคเหนือ 6 ราย ภาคใต้ 16 ราย ภาคตะวันออก-กลาง 14 ราย

สำหรับแนวโน้มผู้ติดเชื้อในภาพรวมของประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ลดลงเช่นกัน

 ส่วน 10 จังหวัด ที่ติดเชื้อสูงสุดคือ กทม. 772 ราย ปัตตานี 484 ราย สงขลา 454 ราย ยะลา 326 ราย ชลบุรี 324 ราย เชียงใหม่ 322 ราย กลาง 249 ราย สมุทรปราการ 242 ราย นราธิวาส 207 ราย นครศรีธรรมราช 196 รายทั้งนี้ ถ้าดูแยกจังหวัดภาคใต้คือ ยะลา นราธิวาส และสงขลา ผู้ติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจน ในขณะที่ปัตตานียังทรงอยู่ และต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เริ่มแล้ว! เปิดประเทศวันแรก สุวรรณภูมิคึกคัก

• เช็กเลย! เพิ่มเติมเป็น 63 ประเทศ เข้าไทยได้ไม่ต้องกักตัว รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.

• "สุวรรณภูมิ" ซ้อมใหญ่รับเปิดประเทศ 1 พ.ย. ด้วยมาตรการป้องกันเข้มข้น

 สำหรับคลัสเตอร์ที่ จ.ชลบุรี มีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน คือทหารเกณฑ์ในกองทัพเรือ พบ 30 ราย ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ แคมป์ก่อสร้าง 17 ราย ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการผู้สูงอายุ 8 ราย ตรวจเชิงรุกในชุมชน 35 ราย นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์งานศพ หอพักนักเรียนใน จ.แม่ฮ่องสอน ขณะเดียวกัน ยังมีคลัสเตอร์ในเรือนจำทั้งที่ ขอนแก่น สุรินทร์ และ กทม. พร้อมกับพบผู้ติดเชื้อลักลอบข้ามแดนมาที่ จ.จันทบุรี อีก 4 ราย ซึ่งการติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ

ผลการฉีดวัคซีนวันนี้ในภาพรวมอยู่ที่ 77,014,092 โดส เป้าหมายการฉีดวัคซีนในเดือน พ.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าให้ได้ครบ 100 ล้านโดส

 ที่ประชุม ศบค. และ ที่ประชุมสาธารณสุขมีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนที่เดินทางมาเรียนและช่วงเย็นกลับบ้านอยู่กับผู้ปกครองหรือญาติที่เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวควรปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด กลับถึงบ้านแล้วควรรีบอาบน้ำ และให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน

 ส่วนกรณีเด็กนักเรียนอายุ 12 ปี ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ แล้วพบว่ามีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดง ขณะนี้ได้รับการรักษาแล้วที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โดยผลพบว่าไม่ได้เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จนทำให้มีลิ่มเลือดอุดตัน และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ พร้อมย้ำว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยปลอดภัยทุกตัว

 สำหรับสถานการณ์นักท่องเที่ยว และผู้เดินทางเข้าประเทศไทย จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วานนี้เข้ามาทั้งหมด 2,013 ราย สะสมตั้งแต่วันที่ 1-2 พ.ย. 64 รวม 4,510 ราย โดย 5 ลำดับประเทศแรกที่เข้าไทยคือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี กาตาร์ และจีน ซึ่งมีการตรวจคัดกรองวิธี PCR พบมีผู้ติดเชื้อ 3 รายคิดเป็น 0.07% ของผู้ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมด

 ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด ได้รับวัคซีนเข็ม 1 เกิน 50% แล้ว เหลือเพียง จ.หนองคาย ที่ฉีดได้ 47.3% จึงขอให้ประชาชนจังหวัดดังกล่าวมารับการฉีดวัคซีน ขณะที่ภาพรวมการฉีดเข็ม 2 ในกลุ่มเสี่ยงได้ 63.1% และขอให้มาฉีดเพิ่มเติมเพราะเป้าหมายในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงควรจะต้องได้รับการฉีดครอบคลุมเกิน 80% 

 นอกจากนี้ กลุ่มจังหวัดสีฟ้าที่น่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวัง คือ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์โรค โดยกรมควบคุมโรคพบว่าที่เชียงใหม่ระบาดเป็นวงกว้างในระดับชุมชน และครอบครัว ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ถัดมาเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ระบาดในตลาดสดคือ ตลาดเมืองใหม่ ตลาดวโรรส ตลาดประตูเชียงใหม่ และตลาดสันป่าข่อย ซึ่งต้องลดความแออัดลง จัดสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเท ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งเจ้าของกิจการที่มีแรงงานต่างด้าวควรจัดการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานด้วย เพื่อความปลอดภัย ซึ่งกรรมการโรคติดต่อเชียงใหม่ ได้มีการติดตามโรคอย่างใกล้ชิดมาตลอด มีแผนในการควบคุมการระบาด โดยการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกด้วยการตรวจ atk วันละ 3,000-5,000 ราย ในจุดตรวจ 4 มุมเมือง พร้อมปรับมาตรการลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านค้าและภัตตาคาร ซึ่งถือเป็นมาตรการเข้มงวดกว่าจังหวัดอื่นในกลุ่มจังหวัดสีฟ้า ทั้งจำกัดเวลาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ให้จำหน่ายในร้านสะดวกซื้อหลังเวลา 21:00 น. ไปแล้ว พร้อมขอให้ผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมโครงการ SHA Plus ที่ต้องได้รับวัคซีนมากกว่า 70%

 ส่วนงานกฐินและงานลอยกระทง ที่จัดขึ้นในช่วงที่มีการผ่อนคลายในประเทศ เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและให้ประชาชนได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติภายใต้วิถีชีวิตใหม่ ขอให้จัดตามความเหมาะสมและเคร่งครัด เพื่อทำตามแผนที่วางไว้ไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างปลอดภัยไร้โรค

related