svasdssvasds

เตือนลงทุนเม็ดทองคำจิ๋วระวังได้ทองคุณภาพต่ำเปอร์เซ็นต์ทองไม่ครบ

เตือนลงทุนเม็ดทองคำจิ๋วระวังได้ทองคุณภาพต่ำเปอร์เซ็นต์ทองไม่ครบ

ราคาทองคำทะยานต่อเนื่องดันให้คนรุ่นใหม่หันไปออมทองคำขนาดเล็ก ประเภท "เม็ดทองคำ" ที่น้ำหนักต่ำสุดเพียง 0.5 กรัม แต่ร้านทองรายใหญ่ออกมาเตือนให้ระวังเรื่องคุณภาพของเม็ดทองที่อาจไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะเปอร์เซ็นต์หรือความบริสุทธิ์ของทองคำ

เพจ “ผู้บริโภค” เผยแพร่เทรนด์ฮิต ของคนรุ่นใหม่ ที่อยากจะออมทองคำ ด้วยการซื้อ “เม็ดทองคำ” น้ำหนักราวๆ 0.5-1 กรัม เพื่อสะสมทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงอย่างทองคำ คล้ายๆ เก็บเล็กผสมน้อย พร้อมระบุด้วยว่า ราคาเม็ดทองคำ หนึ่งเม็ดเฉลี่ยต่ำกว่าพันบาท จึงเป็นราคาที่น่าสะสมและเข้าถึงทองคำได้ง่าย พูดง่ายๆ ว่าตอบโจทย์คนงบน้อย ข้อสำคัญคือ เม็ดทองคำ สามารถซื้อขายได้เหมือนทองคำแท่ง 

ที่เก๋ ก็คือ ร้านค้าทองบางแห่งแถมโหลไว้ให้ใส่ทองคำ จูงใจให้ซื้อมาสะสม คล้ายๆ การหยอดกระปุก ไม่ต้องเก็บเงินก้อนโตก็เป็นเจ้าของทองคำได้  เตือนลงทุนเม็ดทองคำจิ๋วระวังได้ทองคุณภาพต่ำเปอร์เซ็นต์ทองไม่ครบ
 

สปริงนิวส์ สอบถามไปยังนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานสมาคมผู้ค้าทองคำ เล่าว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ สนใจออมทองที่มีน้ำหนักน้อยลง ด้วยความที่ทองคำราคาแพงขึ้นมาก ทำให้หลายคนนิยมซื้อทองขนาดเล็กๆ หรือ ชิ้นเล็กๆ ไว้สะสม หรือมอบให้กันเป็นของขวัญ ร้านค้าทองหลายแห่งหันมาผลิตทองคำไซส์เล็ก น้ำหนักราวๆ 1 กรัมออกมาจำหน่ายมากขึ้น อย่างห้างทอง “จินฮั้วเฮง” ที่นายจิตติ เป็นเจ้าของอยู่ ก็ผลิตทองคำแท่งขนาดเล็กที่สุด คือ  1.9 กรัม หรือครึ่งสลึง ออกมาขายในราคาราวๆ 3,700 บาท และ มีทองคำแผ่นน้ำหนัก 1 กรัมออกมาจำหน่ายด้วย เพราะมีโรงงานผลิตเอง ประกอบกับราคาไม่สูงราวๆ พันกว่าบาท จึงได้รับเสียงตอบรับที่ดี ซึ่งช่วงปีใหม่คาดว่าจะเห็นทองคำน้ำหนัก 1 กรัมออกมาหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเพราะทางร้านจะผลิตออกมา เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่นิยมออมทองขนาดเล็กๆ หรือซื้อไปมอบเป็นของขวัญ 
“ส่วนทองคำน้ำหนัก 0.5 กรัม มีขนาดเล็กมาก คิดในมุมของโรงงานจะทำยากเพราะต้องระบุเปอร์เซ็นต์เนื้อทองเช่น 96.5% และ ต้องประทับตราของร้านลงไปอีก ทองทุกชิ้นถ้าไม่มีเครื่องหมายร้านก็จะขายคืนยาก นอกจากนี้ทองคำขนาดเล็กมากๆ ต้นทุนค่าแรงก็แพงด้วยอย่างน้อยๆ ผู้ซื้อต้องจ่ายอีก 200-300 บาท” 
 

ขณะที่นพ.กฤชรัตน์ หิรัญยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มองว่า เทรนด์การออมทองคำขนาดเล็กๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหมาะกับเงินกระเป๋า เนื่องจาก “ทองแพง” ถ้าซื้อเม็ดทองคำ หรือออมทองขนาดเล็กๆ ราคากรัมละ 1,800 บาท ถ้า 0.5 กรัม หรือครึ่งกรัม ก็อาจจะเหลือแค่ 900 บาท จึงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่การออมทองด้วยการซื้อ เม็ดทองคำ ก็มีข้อควรระวังอยู่มาก 
“การซื้อขายหรือออมทองขนาดเล็กๆ ที่บางร้านทองผลิตออกมา สิ่งที่ผู้บริโภคต้องระวัง คือ ความบริสุทธิ์ของทองคำ เป็นเนื้อแท้จริงๆ หรือเปล่า ได้เปอร์เซ็นต์ทองตามมาตรฐานหรือเปล่า การจะซื้อต้องมีร้านทองที่ได้มาตรฐาน เป็นร้านทองขนาดใหญ่ที่เชื่อถือได้ หรือมีใบรับประกันจากร้านทอง เพราะทองเม็ดเล็กๆ เล็กนิดเดียวเท่ากับขนาดเมล็ดข้าว ขึ้นกับขนาดที่ท่านซื้อ การซื้อทองคำเม็ดเล็กๆ ท่านต้องระวังว่า มีการปลอมแปลงหรือเปล่า แล้วตราสัญลักษณ์ หรือ โลโก้ที่จะป้องกันการปลอมแปลงมีตอกไว้บนทองคำหรือไม่ ถ้าเม็ดเล็กๆ ถามว่าท่านถูกสลับเม็ดท่านจะรู้ไหม เพราะโลโก้หรือแบรนด์จะเล็กมากหรือไม่มีเลย เห็นเป็นเม็ดเล็กๆ น่ารักแล้วไปซื้อเก็บ แต่ต้องระวังว่าอาจจะไม่ได้มาตรฐานก็ได้”

นพ.กฤชรัตน์ เสนอทางเลือกให้ออมทองแบบดิจิทัล เพราะลงทุนต่ำสุดเพียง 150 บาท ผ่านเว็บไซต์ www.mts.gold เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออมทอง ทำได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน พอเก็บเงินได้ถึงระดับหนึ่ง สามารถแลกเป็นทองคำได้ ที่ร้านทองแม่ทองสุก หรือ ให้จัดส่งแบบมีประกันภัย 
นพ.กฤชรัตน์ บอกด้วยว่า ทองคำที่ซื้อขายผ่านระบบดิจิทัล สามารถทำกำไรได้เหมือนทองคำทั่วไป และ หากถามว่า ทำไมผู้คนจึงนิยมออมเงินผ่านทองคำมากขึ้น เพราะแต่ละปีราคาทองขยับขึ้น 3-5% หรือ 10% ตามราคาตลาดโลก ง่ายๆ คือ ได้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร 

related