หมอมนูญ ชี้ไทยจ่อเผชิญโควิดระลอกใหญ่ ติดเชื้อหลักหมื่น หวัง "โอไมครอน" สร้างภูมิคุ้มกันหมู่

 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ประเด็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (โอไมครอน) โดยระบุว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี หลังวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะก้าวกระโดดหลายหมื่นคนแต่ละวันในไม่ช้า แต่คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจมากเกินไป

 เชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ "โอไมครอน" มีวิวัฒนาการเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ปรับตัวเองให้เข้ากับคนได้ดียิ่งขึ้น แพร่จากคนสู่คนง่ายขึ้น ลดระยะฟักตัว และเปลี่ยนจากการก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบทั้งส่วนบนและส่วนล่างรุนแรงเฉียบพลัน กลายเป็นเชื้อโคโรนาไวรัสที่ทำให้เกิดหวัดเล็กธรรมดา ไม่รุนแรง เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ค่อยลงปอด เหมือนกับเชื้อโคโรนาไวรัสที่เรารู้จักมานานอย่างน้อย 50 ปีแล้ว ได้แก่ human coronavirus-229 E,  human coronavirus-NL63, human coronavirus-OC43 และ human coronavirus-HKU1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• "หมอมนูญ" ห่วงตรวจโควิด เจอผลบวกปลอม แนะตรวจสอบให้ชัวร์ อย่ารีบด่วนสรุป

• หมอยง ถอดบทเรียนโควิดรู้จัก “โอไมครอน” มากขึ้น อาจเข้ามาเป็นตัวช่วยปิดเกม

• จับตา 5 สัญญาณอันตรายหลังเทศกาลปีใหม่ "โอไมครอน" บุกหนักในหลายพื้นที่

 เชื้อโคโรนาไวรัสดั้งเดิม 4 ชนิดนี้ก่อให้เกิดโรคหวัดธรรมดาในเด็ก เป็นเองหายเอง ส่วนผู้ใหญ่มักไม่ติดเชื้อนี้ เพราะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติ เนื่องจากเกือบทุกคนเคยติดเชื้อนี้มาแล้วสมัยเป็นเด็ก ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม

 หลังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ "โอไมครอน" ครั้งใหญ่นี้ เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีน หรือเคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมมาก่อน จะได้รับเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" ไม่ช้าก็เร็ว เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หวังว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงจะจบลงสักที

 อนาคตเราคงไม่ต้องมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 กันอีก เพราะเราทุกคนได้รับเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" เปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติชนิดตัวเป็นอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดที่มีในปัจจุบัน อนาคตของบริษัทผลิตวัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด-19 คงไม่รุ่งเหมือนช่วงที่ผ่านมา