3 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี สำหรับนักลงทุนรายใหม่

พาอัพเดทความเคลื่อนไหววงการคริปโทเคอร์เรนซี

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงคริปโทเคอร์เรนซีกำลังถูกพูดถึงไปทั่วโลกเพราะในหลายประเทศก็เริ่มลงทุนได้แล้ว แต่… สำหรับในไทยยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่ต้องศึกษาหาข้อมูลให้มากขึ้นก่อนจะตัดสินใจลงทุน เพราะการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน

โดยสิ่งที่นักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีจะต้องรู้ คือ รูปแบบการลงทุนเป็นอย่างไร วิธีการต่างๆนานาทำกันอย่างไร เรียนรู้ความเสี่ยง เรียนรู้เทคนิค เรียนรู้เรื่องภาษีลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องเรียนรู้เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหม่มากในบ้านเรา โดยวันนี้ #สปริงนิวส์ ได้รวบรวมความเคลื่อนไหว และเกร็ดความรู้มาฝาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• รู้หรือไม่ ? ยื่นเสียภาษีคริปโทเคอร์เรนซี มีหลักฐานอะไรบ้าง ก่อนลงทุน

• เปิดเรื่องที่ต้องรู้ ! ภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ก่อนลงทุนจริง

• สรรพากรชี้แนวทางรีดภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล – เทรดคริปโทฯ มีอะไรบ้าง ?

แนะ 3 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนการลงทุน สำหรับรายใหม่

โดยข้อมูลจากรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เผยว่า ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex ประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลว่า แนะนำผู้ที่สนใจลงทุนในคริปโทฯ ดร.เอกลาภ แนะนำให้ติดตาม 3 ปัจจัย ดังนี้

1.ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เพราะปัจจุบันคริปโทฯ ใหญ่ขึ้นทำให้การเคลื่อนไหวเริ่มอิงปัจจัยพื้นฐาน

2. เทคโนโลยี ติดตามว่ามีเทคโนโลยีอะไรใหม่เกิดขึ้น รู้แนวโน้มอนาคตจะเป็นอย่างไร

3. ความเคลื่อนไหวของบิทคอยน์ ในฐานะเป็นเจ้าตลาด มีมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 40%

ในขณะที่ความเคลื่อนไหวอื่นๆ ของลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมามีจำนวนบัญชีผู้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลสูงถึง 1,979,847 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่มีจำนวนบัญชีเพียงหลักหมื่น นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวว่าปัจจุบันมีบริษัทที่ประกาศลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 22 บริษัท

กูรูมองตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ระหว่างการพักฐาน

อย่างไรก็ตาม Zipmex ประเทศไทย ยังมองว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังอยู่ระหว่างการพักฐาน หลังปีที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงที่หลายคนมองว่าเรียกเป็นปีทองของลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี และถูกจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก ทั้งนี้หลังธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ เพื่อรับมือเงินเฟ้อที่พุ่งสูงถึง 7% ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นและคริปโทเคอร์เรนซี เรียกได้ว่าต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดสำหรับเรื่องคริปโทเคอร์เรนซีในไทย