svasdssvasds

WHO ยืนยัน 'โควิดเดลตาครอน' นี่คือสิ่งที่ทุกคนควรรู้

WHO ยืนยัน 'โควิดเดลตาครอน' นี่คือสิ่งที่ทุกคนควรรู้

องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยัน โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นลูกผสมของ 'เดลต้า' และ 'โอไมครอน' อย่าง 'โควิดเดลตาครอน' และต่อไปนี้คือสิ่งที่ทุกคนควรรู้

ดร.มาเรีย แวน เคอร์โคฟ (Maria Van Kerkhove, PhD) หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) แถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเดลตาครอน ซึ่งเป็นลูกผสมของโควิดเดลต้าและโควิดโอไมครอน ที่เริ่มแพร่ระบาดในยุโรปแล้ว ทั้งใน ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์

ขณะนี้มีการเฝ้าระวังที่ดีมากในหลายประเทศ และเป็นผลให้ผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาว่า "การตรวจจับนี้มีระดับต่ำมาก" แวน เคอร์โคฟ กล่าว

ทางกลุ่ม Global Initiative on Sharing All Influenza Data (GISAID) องค์กรนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก ได้เผยแพร่ข้อมูลจากสถาบันปาสเตอร์ของฝรั่งเศส (France's Pasteur Institute) โดยเผยว่า "หลักฐานที่แน่ชัดครั้งแรกสำหรับโควิดลูกผสมระหว่างเดลต้า-โอไมครอน" ซึ่งถูกระบุว่ามีการแพร่ระบาดครั้งแรกมาตั้งแต่ช่วงต้น ม.ค. 2022

แวน เคอร์โคฟ ทวีตข้อความว่า "สิ่งนี้เป็นที่คาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง [กับ] การหมุนเวียนที่รุนแรงของ #omicron & delta"

ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่าสิ่งนี้จะส่งผลต่อชีวิตประจำวันอย่างไร ด้านล่างนี้คือทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับโควิดเดลตาครอน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

โควิดลูกผสม (ไวรัสรีคอมบิแนนท์ : Recombinant Virus) คืออะไร?

ดร.นพ.อะเมช เอ อะดัลจา (Amesh A. Adalja, MD) นักวิชาการอาวุโสที่ศูนย์สุขภาพจอห์นฮอปกินส์ (Johns Hopkins Center for Health Security) ระบุว่า "ไวรัสลูกผสมคือไวรัสที่มาจากไวรัสสองตัวหรือมากกว่านั้นผสมเข้าด้วยกัน กล่าวคือ เมื่อสิ่งมีชีวิตติดเชื้อไวรัสสองสายพันธุ์พร้อมกัน จะทำให้ไวรัสผสมกันและเกิดเป็นไวรัสตัวใหม่"

ดร.นพ.โธมัส รุสโซ (Thomas Russo, MD) ศาสตราจารย์และหัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อแห่งมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล (University at Buffalo) เผยว่า โควิดเดลตาครอน นั้นน่าจะเป็นผลมาจากคนคนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสองสายในเวลาเดียวกัน ทำให้ไวรัสทั้งสองอยู่ในร่างกายภายในเวลาเดียวกัน"

ดร.นพ.วิลเลียม แชฟฟ์เนอร์ (William Schaffner, MD) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและศาสตราจารย์แห่งคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ (Vanderbilt University School of Medicine) กล่าวว่า ไวรัสลูกผสมไม่ได้มีลักษณะเฉพาะของโควิด-19 "นี่เป็นเรื่องธรรมดามากในไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสรวมตัวกันใหม่ตลอดเวลา"

เดลตาครอนถูกค้นพบเมื่อไหร่ ?

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานการค้นพบผู้ป่วยเดลตาครอนครั้งแรกในต้นเดือนมกราคมหลังจากที่ ลีออนดิโอส คอสไตรกิส (Leondios Kostrikis) นักไวรัสวิทยาในไซปรัส กล่าวว่า ทีมของเขาได้ค้นพบโควิด-19 ที่ดูเหมือนการรวมกันของสายพันธุ์เดลต้า และสายพันธุ์โอไมครอน พร้อมบัญญัติชื่อให้ว่า "เดลตาครอน" ซึ่งผู้ป่วยกว่า 25 รายที่พบเจอ สังเกตเห็นได้ว่าจะพบในผู้ป่วยที่อาการหนักจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าผู้ที่อาการไม่รุนแรง

ซึ่งไม่นานหลังจากการประกาศงานวิจัยของคอสไตรกิส เขาถูกล้มล้างโดยนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ว่า เป็นความผิดพลาดในห้องทดลองของทีมวิจัยเองเมื่อทำการศึกษาต้นกำเนิดของโควิดเดลตาครอน แต่ตอนนี้ ดร.นพ.รุสโซ กล่าวว่า "ผู้คนพูดกันว่าเป็นการปนเปื้อนในห้องแล็บ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้อาจไม่ใช่แล้ว"

มีการรายงานผู้ป่วยเดลตาครอนกี่ราย และที่ไหนบ้าง ?

ยังไม่มีการรายงานตัวเลขที่แน่นอน แต่โควิดเดลตาครอนได้ปรากฏขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยนิตยสารทางการแพทย์เตรียมตีพิมพ์ว่า พบกลุ่มผู้ป่วย "เดลตาครอน" จำนวน 3 ราย ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส

นักวิจัยได้จัดลำดับตัวอย่างโควิด-19 กว่า 29,719 ตัวอย่าง ที่รวบรวมจากทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2021 ถึงวันที่ 13 ก.พ. 2022 พวกเขาพบว่ามีการติดเชื้อ 2 รายที่ติดเดลตาครอน นอกจากนี้พวกเขายังสามารถระบุผู้ที่ติดเชื้อทั้งเดลต้าและโอไมครอน ได้อีก 20 ราย และมีผู้ป่วยรายหนึ่งที่ติดเชื้อทั้ง เดลต้า , โอไมครอน และ เดลตาครอน

เดลตาครอน เป็นอันตรายหรือแพร่เชื้อได้มากกว่าโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ๆ หรือไม่ ?

มีหลายสิ่งที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับเดลตาครอน ซึ่ง ณ จุดนี้ ดร.นพ.รุซโซ กล่าวว่า ยังไม่มีผู้ป่วยเดลตาครอนมากนักเมื่อเทียบกับการระบาดของโควิดเดลต้า และโควิดโอไมครอน แต่เป็นไปได้ที่ปัจจุบันนี้อาจจะมีผู้ติดเชื้อเดลตาครอนมากกว่าที่นักวิทยาศาสตร์ทราบ

"แทบไม่มีการระบุถึงเคสผู้ป่วยโควิดเดลตาครอนตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ดังนั้นมันจึงไม่มีข้อที่ได้เปรียบมากกว่า" ดร.นพ.รุสโซ กล่าว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าเดลตาครอนจะแพร่ระบาดได้มากกว่าโอไมครอน ซึ่งตอนนี้เป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก เดลตาครอนคงจะแทนที่โอไมครอนไปแล้วในตอนนี้

ดร.นพ.แชฟฟ์เนอร์ กล่าวว่า ณ จุดนี้มันยากมากที่จะพูดว่าเดลตาครอนนั้นอันตรายแค่ไหน "มันยังค่อนข้างใหม่ ดูเหมือนว่าโควิดสายพันธุ์เดลตาครอนนี้จะยังสามารถป้องกันได้โดยวัคซีนชุดปัจจุบันที่เรามี แต่จะแพร่กระจายได้มากเพียงใดและจะทำให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้นได้หรือไม่ก็ยังไม่อาจทราบได้"

แวน เคอร์โคฟ แบ่งปันข้อความที่คล้ายกันในการแถลงข่าวของเธอและเสริมว่านักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาสายพันธุ์นี้ "เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในด้านระบาดวิทยา ความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงไป แต่มีการศึกษาจำนวนมากที่อยู่ระหว่างดำเนินการ"

คำเตือน โควิดยังระบาดไม่จบ และไวรัสจะยังกลายพันธุ์ต่อไป

แม้ว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ยกเลิกข้อจำกัดด้านความปลอดภัยจำนวนมาก แต่โควิด-19 ยังคงเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก และแพทย์เตือนว่าไวรัสจะยังคงกลายพันธุ์ต่อไป โดย ดร.อะดัลจา กล่าวว่า "ในขณะที่ SARS-CoV2 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง มันจะสร้างสายพันธุ์ใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ"

อย่างน้อยก็ยังมีข่าวดี ดร.นพ.แชฟฟ์เนอร์  อธิบายว่าวัคซีนโควิด-19 ดูเหมือนจะปกป้องผู้คนจากการเกิดโรคร้ายแรง การรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตในทุกรูปแบบที่พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน "จนถึงตอนนี้ สายพันธุ์ทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในขอบเขตที่วัคซีนของเราสามารถป้องกันได้ ในขณะที่เราจะดูพวกเขาต่อไป มันดีมาก"

related