svasdssvasds

สธ. ยัน โอมิครอน BA.2 ไม่ร้ายแรง แต่ต้องฉีดวัคซีน สูตรไหนก็กระตุ้นภูมิสู้ได้

สธ. ยัน โอมิครอน BA.2 ไม่ร้ายแรง แต่ต้องฉีดวัคซีน สูตรไหนก็กระตุ้นภูมิสู้ได้

หลังจากการกลายพันธุ์ของ เชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับความร้ายแรงของสายพันธุ์นี้ บ้างก็ว่ามันจะหลบภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าตัวอื่น แต่ผลวิจัยล่าสุดพบว่า สายพันธุ์นี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ต้องฉีดวัคซีนเข็ม 2-3

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน พบว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 เริ่มกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการแพร่ระบาดอยู่ โดยช่วงวันที่ 2-8 เม.ย. พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดโควิดสายพันธุ์ BA.2 ถึง 95.9% และ BA.1 เหลือเพียง 4.1% นั่นหมายความว่าหลังจากนี้ สายพันธุ์โอมิครอน จะแพร่เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 เกือบทั้งหมด ส่วนสายพันธุ์เดลต้าก็จะแทบไม่หลงเหลือในไทยเลย

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข รายงานผลการวิจัย เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 ในผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว โดยการนำเลือดของผู้ที่ได้รับวัคซีนมาทดลองกับเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่เพาะในห้องทดลอง พบว่า ภูมิคุ้มกันในเลือดของผู้ที่ได้รับวัคซีนสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับผลวิจัยในประเทศอื่น ๆ

สธ. ยัน โอมิครอน BA.2 ไม่ร้ายแรง แต่ต้องฉีดวัคซีน สูตรไหนก็กระตุ้นภูมิสู้ได้

อ่านข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

วัคซีนสูตรไหน 2 เข็ม หรือ 3 เข็ม ก็ช่วยได้

การทดลองดังกล่าว ทดลองกับเลือดของผู้ที่ได้รับวัคซีนทั้ง 2 เข็ม และ 3 เข็ม หลังจากได้รับวัคซีนแล้ว 2 สัปดาห์ โดยทำการทดลองกับสูตรต่าง ๆ ตั้งแต่ ซิโนแวค (Sinovac) เข็มแรก และ แอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มสอง หรือ ซิโนแวค (Sinovac) สองเข็มแล้วกระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า ก็ล้วนแต่สามารถกระตุ้มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้กับโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้ นอกจากนี้ยังสามารถต่อสู่มากกว่าสายพันธุ์ BA.1 ได้อีกด้วย

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า อย่างไรก็ตาม จากการทดลองใช้เลือดของผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงสุด นั่นหมายความว่า หากมีการฉีดวัคซีนแล้วทิ้งระยะเวลาไว้นานก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดเพียง 2 เข็ม ระดับภูมิก็จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับระดับที่ต้องมี ดังนั้นการฉีดกระตุ้มเข็มที่ 3 ยังคงจำเป็นอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง

สำหรับการทดลองดังกล่าวทำในห้องทดลองที่สามารถรองรับความเสี่ยงระดับ 3 ได้ หรือ BSL 3 โดยในประเทศไทยมีเพียงห้องทดลองของ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เท่านั้นที่สามารถทำได้

related