svasdssvasds

ภาพถ่ายเพื่อการโฆษณา ถ้าเกินจริงมากไป ระวังโดนฟ้อง ลูกค้าฟาสต์ฟู้ดในเมกา

ภาพถ่ายเพื่อการโฆษณา ถ้าเกินจริงมากไป ระวังโดนฟ้อง ลูกค้าฟาสต์ฟู้ดในเมกา

กรณีศึกษา ภาพถ่ายเพื่อการโฆษณา ทำให้ผู้บริโภคชาวฟลอริดาและนิวยอร์ก ออกโรงฟ้องร้อง เอาผิดกับบริษัทฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาทั่วโลก ถึงการใช้ภาพที่ดี ใหญ่ ดูเกินจริงกับแฮมเบอร์เกอร์ของที่เสิร์ฟในร้านอาหารแตกต่างกันราวหน้ามือเป็นหลังมือ

ผู้บริโภคแบบเราๆ ก็พอจะเดาออกว่าภาพถ่ายสินค้าต่างๆ ในโฆษณา ยิ่งโดยเฉพาะอาหาร หลายๆ ครั้งก็ใช้เทคนิกการจัดวาง จัดแสง หรือ หลอกมุม แต้มสี เติมส่วนเสริมให้ดูดีกว่า ชวนรับประทานกว่าของจริง กระบวนการเบื้องหลังการถ่ายทำกับอาหารที่มาเสิร์ฟที่จานจริง ชวนทำให้แปลกใจ กับ ขนาดและความไม่เหมือนที่มีให้จำผิดได้เยอะไปหมด แต่ด้วยความที่มีข้อความเล็กๆ ห้อยท้ายกำกับ อยู่มุมใดมุมหนึ่งของภาพก็กลายเป็นเหมือนช่องทางเอาตัวรอดไปได้ของบริษัทต่างๆ ที่สามารถใช้อ้างได้ว่า ก็นี่ไง บอกแล้วนะว่าเป็น ภาพถ่ายเพื่อการโฆษณา จงมีวิจารณญาณและเผื่อใจกันเอง จนเราคิดว่าไม่สามารถแย้งได้

แต่ ชาวเมกัน ไม่ยอม หลังจากที่มีข่าวกลุ่มผู้บริโภครวมตัวกันยื่นฟ้อง ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด Burger King ด้วยเหตุผลที่ว่า ฐานทำให้เข้าใจบิดเบือนเรื่องขนาดของเบอร์เกอร์ด้วยการทำให้ใหญ่กว่าความเป็นจริงถึง 35% เท่า 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Anthony Russo ทนายความในเมืองรัฐฟลอริดา ผู้รับเรื่องทำคดีนี้ กล่าวว่า ฝ่ายโจทก์ต้องการเรียกร้องค่าชดเชยจาก Burger King และอยากให้หยุดการขายเมนูอาหารที่ใช้ภาพเกินจริง หรือ ต้องแก้ไขภาพถ่ายเพื่อการโฆษณาให้ใกล้เคียงมากขึ้น

ซึ่งไม่กี่วันหลังจากนั้น McDonald’s และ Wendy’s ก็ถูกยื่นฟ้องในกรณีเดียวกันกับ Burger King โดยในครั้งนี้นำโดย Justin Chimienti ชาวนิวยอร์กที่เรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯโดยทนายของทั้งสองกรณีเป็นกลุ่มเดียวกัน 

จุดพลิกเกมอยู่ที่ช่างภาพของ Wendy’s เคยกล่าวให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เบื้องหลังการถ่ายภาพถ่ายเพื่อการโฆษณาจะเลือกใช้เนื้อเบอร์เกอร์ที่ยังไม่สุก เพราะถ้าเป็นเนื้อที่สุกแล้วเสิร์ฟขายให้ลูกค้าขนาดจะหดลงถึง 25 % ซึ่งทำให้ดูน่ารับประทานน้อยลง ทั้งนี้ภาพถ่ายที่น่าลิ้มลองมีส่วนทำให้ยอดขายของเหล่าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ที่มีทุนหนาสร้างจ้างช่างภาพซื้อสื่อเพื่อเผยแพร่ภาพได้ทั้งเมือง 

มีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่ปัญหาอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องมากสุดในรอบ 40 อาจะเป็นสาเหตุให้เกิดการฟ้องร้องมากขึ้น ทั้งรายได้ผู้บริโภคที่ลดลงและร้านอาหารเองก็ต้องเผชิญกับวิกฤตราคาอาหารที่ถีบตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและจะยิ่งส่งผลลบมากขึ้นเรื่อยๆ นับจากมีสงครามระหว่าง รัสเซียและยูเครน

ที่มา

1 2