svasdssvasds

ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย

ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย

เรียนรู้แนวคิดจาก "ทราย สก๊อต" เซเลบคนดัง ดีกรีทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ เพื่อพิทักษ์ทะเลไทย

เรื่องการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยในบ้านเรา ยังถือเป็นเรื่องในวงจำกัดที่ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนตระหนักรู้ และพร้อมที่จะลงมือมาช่วยกันได้อย่างมากนัก แต่มีคนหนึ่งที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องนี้อย่างจริงจัง หลังจากที่เจ้าตัวและกลุ่มเพื่อนนักอนุรักษ์ได้ซุ่มตัวดำเนินโครงการ เพื่ออนุรักษ์ท้องทะเลไทย

บุคคลที่เรากำลังพูดถึงก็คือ ทราย สก็อต นักอนุรักษ์คนดังผู้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ของตระกูลใหญ่ในประเทศ สิงห์ คอร์เปเรชั่น หลานชายของ นิดหน่อย-จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี (คุณแม่ของทรายเป็นน้องสาว) และทรายเริ่มต้นก้าวเข้าสู่การผลักดันเรื่องนี้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ด้วยทุนตัวเองแบบไม่มีองค์กรใดสนับสนุนมาก่อน

ปัจจุบันทรายรับผิดชอบดูแลงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนที่ สิงห์ เรียลเอสเตท เน้นการดูแลเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ต่างๆ โครงการที่คุณทรายปั้นเพื่อต่อยอดไปสู่การชวนให้ตระหนักเรื่องอนุรักษ์ท้องทะเลไทยนั้น คือ "Sea You Strong"

ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย

ทรายมีจุดเริ่มต้นของการเลือกมาปกป้องรักษาดูแลท้องทะเลไทยจากคนรอบข้าง โดยทรายเล่าให้ฟังว่า "ด้วยความเอาใจใส่ ความเข้าใจและความรักที่ทรายได้รับจากคุณตาและคนรอบข้าง ทำให้ทรายอยากแบ่งปันสิ่งดีดีให้กับคนอื่นๆ แบบไม่มีขอบเขตมากำหนด ไม่ว่าเขาเป็นคนจากที่ไหนหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็ตาม ซึ่งคนรอบตัวทรายที่เลี้ยงทรายมา จากภายนอกคนเขาอาจจะมองว่าเป็นคนรถ แม่บ้าน แต่จริงๆ ทรายเรียกเขาเป็นป้า เป็นน้า เป็นลุง เขาเป็นอีกหนึ่งคนที่ให้ความอบอุ่นกับทรายในชีวิต

อาหารทุกมื้อทรายก็จะทานกับเขา เขาก็จะคอยดูแลทราย เห็นอกเห็นใจทราย น้ำใจที่ทรายได้จากคนรอบข้าง ส่วนมากจะมาจากคนที่ไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ ทรายสนิทกับครูสอนภาษาไทยคนหนึ่งเขาสอนภาษาไทยทรายมาตั้งแต่เด็ก เขาก็ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เขาก็ให้ความอบอุ่น ให้ความรู้ที่ทรายยังถือมาถึงตอนโตเลย ทรายรักเขาเหมือนแม่ และทรายก็รักทุกคนที่ช่วยเหลือทรายเหมือนครอบครัว ทรายคิดว่าถ้าทรายไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่รวย มีคนรอบข้างแบบนั้น ทรายคงไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่เพราะทรายเห็นว่าครอบครัวทรายมีโอกาสเยอะขนาดไหน เรามีทุกอย่างที่เกินพอ แต่พอเราไปเห็นคนที่ทรายรัก เขาดิ้นรน มันทำให้ทรายสังเกตว่าสิ่งที่ทรายรักมันมีความไม่เท่าเทียม แล้วทรายสัมผัสได้ตั้งแต่เด็กว่า ความไม่เท่าเทียมนี้มันทำให้คนอื่นเจ็บปวดขนาดไหน การที่คนพวกนี้มาเป็นครอบครัวทรายตั้งแต่เด็ก มันทำให้ทรายคอยนึกถึงคนอื่นที่อยู่ในประเทศนี้ตลอด คนที่ทรายช่วยส่วนมากจะเป็นคนที่อยู่ต่างจังหวัดหรือคนที่อยู่ในพื้นที่ -บทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งจากรายการเจาะใจ"

ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย

นอกจากเรื่องนี้ที่สะท้อนความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งมันเป็นปมและสร้างความเจ็บปวดให้กับคนหมู่มาก อีกคนหนึ่งที่สอนให้ทรายลุกขึ้นมาสู้ เพื่อความเท่าเทียมของสิ่งมีชีวิตทุกแบบนั่นก็คือ "คุณตา จำนงค์ ภิรมย์ภักดี" ทรายเล่าเสริมว่า "คุณตาเป็นคนเลี้ยงทราย เขาสอนทรายดีมาก คุณตาไม่เคยดูถูกใครเลย ไม่เคยพูดจาไม่ดีกับใครเลย คุณตามักจะสอนว่า ทุกๆ คนมีความเท่าเทียมกัน เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาเปรียบใคร โดยเฉพาะคนที่ทำงานให้เรา ยิ่งเขาเป็นคนที่ดูแลเรา เรายิ่งต้องใส่ใจและดูแลเขากลับเช่นเดียวกัน

ดังนั้นทรายจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับคนที่คอยดูแลทราย ความจริงคือว่า เพราะคุณตามีมุมมองแบบนั้น เขาไม่เคยทำให้ทราย รู้สึกว่าการที่ทรายนั่งกินข้าว และกอดทุกคน มันผิดหรือแปลก เขาซัพพอร์ต เขาเป็นคนเดียวที่มองเห็นนิสัยทรายแบบนี้ มันเป็นประสบการณ์ตอนที่ทรายเด็กๆ ที่เราขับรถผ่านใต้ทางด่วน คนที่มาล้างกระจกคุณตาก็จะให้เงินตลอด

เขาเป็นตัวอย่างสำหรับทรายว่า คนที่มีทุกอย่างเขาสามารถทำอะไรได้บ้างที่จะช่วยคนอื่น ทรายว่ามันเป็นบทเรียนที่ดีในชีวิตทราย ที่ทรายกำลังโตขึ้นว่า ทั้งสองด้านของโลกทุกคนมาอยู่ด้วยกันเพราะเราสมควรรักกัน มันทำให้ทุกอย่างเท่าเทียมได้ คือผมคิดว่ารากฐานตรงนั้นมันเป็นรากฐานที่ผมสามารถมองชีวิตอื่นๆได้"

"ตอนช่วงวัยรุ่น เป็นจังหวะเวลาชีวิตที่ทรายออกมาใช้ชีวิตด้วยตนเอง ศึกษาเพิ่มเติมความรู้ และเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เผชิญเรื่องราว แก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยลำแข้งตัวเอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ทรายตัดสินใจว่าจะหันมาดูแลท้องทะเลไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความชื่นชอบ ความรักในทะเลไทยมาตั้งแต่เด็กๆ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะทรายใกล้ชิดกับน้ำตั้งแต่เกิด เพราะที่บ้านเองก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ"

"ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเล หรือน้ำจืด แต่คือเป็นปัจจัยพื้นฐานของคนทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรายรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับตรงนี้ได้ การที่ทรายตัดสินใจมาเป็นนักอนุรักษ์นั้น ทรายคิดว่าชีวิตต่อไปทรายอยากอยู่กับทะเลกับงานอนุรักษ์ ทรายอยากสร้างโลกที่สวยขึ้น ทะเลที่สวยขึ้น และทรายอยากเอามือไปกอดคน กอดทะเลมากกว่ามาจับเงิน"

และแน่นอนชีวิตต่างๆ ของสัตว์ใต้ท้องทะเลก็เหมือนกันเขามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต คนที่ใช้ชีวิตใกล้กับท้องทะเลเขาก็มีสิทธิ์ที่จะมีสภาพแวดล้อมที่ดี มีสุขภาพที่ดี มีอาหารที่ดี มันเลยเป็นที่มาให้ทรายตัดสินใจมาทำเรื่องนี้

หาดแรกที่ทรายเริ่ม คือหาดสามร้อยยอด ตอนแรกทรายกะว่าจะไปเที่ยวแต่ตอนเจอหาดสามร้อยยอด เป็นหาดที่เต็มไปด้วยขยะ ทรายก็เลยตัดสินใจว่าจุดนี้ทรายจะต้องเก็บขยะ แต่ทรายไม่รู้ว่าจะเก็บคนเดียวไหวรึเปล่าเลยไปชวนทางโรงเรียน ชวนช่างที่สัก เขาก็มากันนะครับ ทรายก็สังเกตว่าคนเขาก็รู้กันนะครับว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมมันคือเรื่องใหญ่จริง

ตอนไปหาดยาวที่กระบี่ในหน้ามรสุม ขยะมันเยอะมาก ทรายก็เลยเดินเข้าไปในโรงเรียน 12 โรงเรียน ไปคุยกับเขาว่า คุณครูครับผมเป็นนักอนุรักษ์นะครับ เห็นว่ามันมีขยะที่เป็นปัญหาตรงนี้ ผมอยากเอาน้องๆ มาช่วยเก็บ และจะพานักวิชาการมาช่วยอบรม ตอนที่เราไปเก็บขยะบนหาดประมาณ 3 กิโลเมตร ทรายก็จะมีแก๊งเด็กที่เดินกับทราย

น้องๆ ถามทรายว่าจะทำอีกไหม ทรายก็บอกว่าทำๆ เขาก็บอกว่าถ้าพี่ทรายไม่เหนื่อย ผมก็ไม่เหนื่อยครับ แล้วเราก็จะเดินกันคุยกันแบบนั้น งานเราเริ่ม 10 โมง เลิก 4 โมงเย็น ทรายคิดว่าหลังจากที่คุณครูกับน้องๆ  เขาสัมผัสได้ว่า ทรายอยากช่วยเขาจริงๆ และทรายสนใจเขา เขาก็เลยยอมมาทำงานด้วยหลายๆรอบ

ล่าสุดทรายได้เลือกนำเสนอเป็นหนังสั้นเชิงอนุรักษ์ ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาและโด่งดังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ กับหนังที่คุณทรายได้ทุ่มทุนสร้างจากงบประมาณส่วนตัว เพื่อต้องการให้หนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดกับคนทั่วไปและได้เปลี่ยนใจจากการนิ่งเฉย และหันมามีส่วนร่วมอนุรักษ์ท้องทะเลไทยได้ด้วยกัน

แม้เพียงแต่เรื่องเล็กน้อยที่เริ่มต้นได้ด้วยตัวเอง หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า "Merman" นำมนุษย์เงือกมาเป็นตัวแทน เล่าเรื่องความสวยงามและความมืดมนใต้ท้องทะเลไปพร้อมกัน หนังเรื่องนี้ได้รับความสำเร็จอย่างมาก มีผู้คนในแวดวงนักอนุรักษ์และคนทั่วไปต่างเข้ามาชื่นชมในความตั้งใจของคุณทรายและสร้างให้มีการแชร์นับ 1,000 แชร์และมีการรับชมมากกว่า 200,000 ครั้ง

และทรายได้ปิดท้ายกับเราว่า "การที่มาอยู่ตรงนี้จะต้องทอดทิ้งความสุขสบายส่วนตัว ทิ้งความเป็นคนสำคัญ และอีกมากมายเพื่อเสียสละเป็นตัวแทนและกระบอกเสียงในการถ่ายทอดสะท้อนปัญหาทางท้องทะเลไทย เพื่อประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ทรายไม่กังวลถึงเรื่องการทำงานที่ไม่สบายตัว เพราะความหมายความสุขของชีวิตคือการช่วยคนอื่น เราให้กำลังใจและความสุขเท่าที่ใจเรามีให้ โดยทรายยังจะเดินหน้าทำเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจที่ต้องการสร้างให้ทะเลไทยยังคงงดงามเพื่อลูกหลานสืบต่อไป…."

รับชมหนังสั้น Merman, Ocean Pollution Film หนังสั้นอนุรักษ์ เรื่องจริงของทะเล โดยมนุษย์เงือก"ทราย สก๊อต" ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=CpWRbpqnQk8&t=14s

ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย ทราย สก๊อต เซเลบดังทายาทสิงห์ กับบทบาทนักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้ พิทักษ์ทะเลไทย

related