สสจ.ภูเก็ต แจง "ฝีดาษลิง" รายที่ 3 ติดเชื้อจากต่างประเทศ พบกลุ่มเสี่ยง 7 ราย

 นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่ 3 ของไทย ว่า กรมควบคุมโรครายงานโรคฝีดาษวานรเคสที่ 3 ของประเทศ เป็นเคสที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต เคสนี้ สสจ.ภูเก็ตได้รับรายงานเมื่อวานนี้ ว่ามีผู้ป่วยเดินเข้าไปรักษาตัวที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เป็นการดักจับเฝ้าระวังเป็นปกติอยู่แล้ว

 ทางรพ.เอกชนสงสัยจะเป็นฝีดาษลิง เนื่องจากมีอาการเข้าข่ายน่าสงสัย คือ มีไข้ มีผื่นขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต ได้เจาะเลือด เพาะเชื้อสวอปส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ บางโจ ภูเก็ต สามารถตรวจRT-PCR ของฝีดาษวานรได้ ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 วัน

 ซึ่งคนไข้รายนี้แอดมิทมาตอนสายของเมื่อวานและทราบผลพบเชื้อตอนเย็น ทางสสจ.ภูเก็ต โดยทีมสอบสวนโรคได้ร่วมกับสาธารณสุขเมือง และรพ.ลงสอบประวัติผู้ป่วย

• ชายชาวเยอรมนี อายุ 25 ปี

• เดินทางบินตรงเข้าภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 เข้ามาพักกับแฟนเป็นคนไทย ไม่ได้เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ และครอบครัวของแฟน

• โดยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ส่วนมากท่องเที่ยวกับแฟน ไม่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง

• ต่อมา วันที่ 23 - 24 ก.ค.65 เริ่มมีอาการมีไข้ มีผื่นขึ้นเล็กน้อย

• แต่ในช่วงวันที่ 30-31 ก.ค. มีผื่นขึ้นมากขึ้น เริ่มที่อวัยวะเพศและลามไปที่แขน ข้อมือ ลำตัว

• วันที่ 1 ส.ค.เริ่มมีไข้ ผื่นมากขึ้น ลุกลามไปลำตัว

• วันที่ 2 ส.ค.จึงเข้าตรวจที่ รพ. ได้เจาะเลือดเพาะเชื้อ รับรักษาตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Breaking News : พบ "ฝีดาษลิง" ในประเทศไทยคนที่ 3 ชายเยอรมันเข้ามาที่จ.ภูเก็ต

• โรคฝีดาษลิง เช็กอาการ ติดต่อกันผ่านทางไหน? หมอแนะ 7 ข้อควรเลี่ยง 2 ข้อควรทำ

• เชื้อโรคฝีดาษลิง อาจปนเปื้อน ในน้ำ ดิน และ อาหารแช่แข็ง หลายสัปดาห์

 กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดเป็นแฟนและครอบครัวของแฟน ในขั้นต้น รวมแล้ว 7 คน อาจจะเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ต้องสอบสวนโรคทีละขั้นตอน ตอนนี้ทั้ง 7 คนที่ใกล้ชิดผู้ป่วย ยังไม่มีอาการ ส่วนแฟนของเขาได้ทำการเจาะเลือด สวอป อยู่ระหว่างรอผล ให้เขากักตัวอยู่ที่บ้าน

 สิ่งที่ดำเนินการคือ ได้กักตัวตามตัวผู้ป่วยเขาให้ความร่วมมือดี การตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด ในเบื้องต้น จำนวน 7 คน อยู่ในครอบครัวของแฟน ซึ่งโรคนี้ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยแบบเนื้อแนบเนื้อ การแพร่กระจายไม่ง่าย การเข้าทำความสะอาดบ้านพักและในที่ชุมชน

 ขอให้ความมั่นใจว่า ฝีดาษลิงติดกันไม่ง่าย อาการไม่รุนแรง ส่วนมากจะหายเอง ภายใน 2-4 อาทิตย์ โดยผู้ป่วยรายนี้เดินทางเข้ามาไทยได้ไม่นาน จึงเริ่มมีอาการ หลังจากอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 5-6 วัน น่าจะมีอาการฟักตัวมาจากต่างประเทศเพราะระยะฟักตัว 21 วัน

 ปัจจุบัน มีการเฝ้าระวังโรค มีการดักจับโรคฝีดาษลิง ที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ กับการเฝ้าระวัง ตามรพ.รัฐ รพ.เอกชน คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกโรคเพศสัมพันธ์ ซึ่ง ทางรพ.รัฐและรพ. เอกชนแจ้งมา ว่า มีผู้ป่วยเข้ามาตรวจและอาการเข้าข่ายประมาณ 4-5 ราย เป็น ชาวพม่า ชาวเคนยา สเปน ฯลฯ รวมแล้ว 7-8 คนที่เดินเข้ามาตรวจ เจาะเลือดสวอป ผลตรวจไม่พบเชื้อ

 ขอชี้แจงว่า ฝีดาษลิงติดกันไม่ง่าย ต้องสัมผัสใกล้ชิด โรคนี้รักษาหายเอง ใน2-4 สัปดาห์ ในทั่วโลกติดเชื้อกว่า 2 หมื่นคน เสียชีวิตประมาณ 3 คน คนที่เสียชีวิต เป็นโรคภูมิคุ้นกันบกพร่องมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนคนปกติ ถ้าเป็นโรคนี้ มักจะหายเอง