svasdssvasds

วิธีเลือกประกันรถยนต์ สำหรับป้ายแดง รถคันแรกงงจัง

วิธีเลือกประกันรถยนต์ สำหรับป้ายแดง รถคันแรกงงจัง

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วิธีเลือกประกันรถยนต์ สำหรับป้ายแดง รถคันแรกงงจัง

ประกันเพิ่งหมดไปเมื่อวาน ! อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และโดยเฉพาะวันที่ประกันเพิ่งจะหมดไปไม่กี่วัน ถือเป็นช่วงเฮี้ยนค่ะ การทำประกันรถยนต์จึงช่วยให้เราอุ่นใจได้ เพราะทำให้เราไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายด้วยตัวเอง แต่วิธีเลือกละค่ะ สำหรับบริษัทประกันที่โทรศัพท์มากวนใจเราอยู่ตลอดเวลา เราจะเลือกอย่างไรดี ใช้วิธีตัด choice ค่ะ

  1. ประเภทของ ประกันรถยนต์

ประกันชั้น 1: คุ้มครองครบถ้วนที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกัน และคันคู่กรณี ค่าเสียหายของทรัพย์สินทั้งในรถยนต์คันเอาประกัน และคันคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาล และค่ายาสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารรถยนต์คันเอาประกัน และรถยนต์คันคู่กรณี โดยจะให้ค่าชดเชยความเสียหายกรณีรถยนต์คันเอาประกันเสียหายเนื่องจากไฟไหม้เพราะอุบัติเหตุ น้ำท่วม และการโจรกรรม เหมาะสำหรับ รถใหม่ป้ายแดง รถยนต์ที่มีผู้ขับขี่มือใหม่ ยังไม่คล่องในการขับรถยนต์ และรถยนต์ที่ใช้งานเป็นประจำ หรือใช้งานหนัก

 

ประกันชั้น 2: ให้ความคุ้มครองที่รองลงมาจากประกันชั้น 1 โดยจะให้ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกัน และคันคู่กรณี ค่าเสียหายของทรัพย์สินทั้งในรถยนต์คันเอาประกัน และคันคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาล และค่ายาสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารรถยนต์คันเอาประกัน และรถยนต์คันคู่กรณี โดยจะให้ค่าชดเชยความเสียหายกรณีรถยนต์คันเอาประกันเสียหายกรณีไฟไหม้ และการโจรกรรม เหมาะสำหรับ ผู้ที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อยมาก เป็นผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ ไม่ขับรถยนต์หวือหวา หรือขับเร็ว

 

ประกันชั้น 2+: ได้รับความคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ความเสียหายเกิดขึ้นจากไฟไหม้ ความคุ้มครองต่อรถยนต์คันเอาประกันกรณีเกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบก ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในรถยนต์คันคู่กรณี เหมาะสำหรับ รถที่ใช้งานเป็นประจำ จำเป็นต้องจอดในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการโจรกรรม รถยนต์ที่ไม่มีที่จอดรถในที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด

 

ประกันชั้น 3+: ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของคู่กรณี และความเสียหายของตัวรถ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบก ไม่คุ้มครองการสูญหายหรือการถูกไฟไหม้ ไม่คุ้มครองความเสียหายทั่วๆ ไป ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือไม่มีคู่กรณี เหมาะสำหรับ รถเก่าที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป รถที่ใช้งานเป็นประจำ แต่สามารถจอดรถยนต์ในที่ๆ ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการโจรกรรม

 

ประกันชั้น 3: ให้ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อรถยนต์คันคู่กรณี ค่าเสียหายของทรัพย์สินในรถยนต์คันคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาล และค่ายาสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารรถยนต์คันคู่กรณี โดยจะไม่ให้ค่าชดเชยความเสียหายกรณีรถยนต์คันเอาประกันเสียหายกรณีไฟไหม้ เสียหายเพราะน้ำท่วม หรือถูกโจรกรรม เหมาะสำหรับ รถยนต์ที่ไม่ได้นำออกมาใช้งานบ่อย นานๆ จะมีการนำออกมาใช้ครั้งหนึ่ง รถเก่าอายุ 7 ปีขึ้นไป รถยนต์ที่ไม่ได้จอดในพื้นที่เสี่ยงต่อการโจรกรรม

 

  1. จำนวนเงินเอาประกันภัยรถยนต์

จำนวนเงินเอาประกันภัยรถยนต์ คือ จำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายให้ ตามความคุ้มครองด้านต่างๆ เช่น ความเสียหายต่อตัวรถที่เอาประกันเนื่องจากการชน บริษัทอาจกำหนดจำนวนเงินไม่เกิน 600,000 บาทต่อครั้ง หรือความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก บริษัทอาจกำหนดจำนวนเงินไม่เกิน 5,000,000 บาทต่อครั้ง เป็นต้น

 

  1. เบี้ยประกันภัยรถยนต์

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ คือจำนวนเงินที่ผู้ทำประกันจะต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อแลกกับความคุ้มครองที่จะได้รับ ซึ่งเบี้ยประกันภัยรถยนต์นี้จะคิดเป็นต่อปี ส่วนจำนวนเบี้ยนั้นจะมากน้อยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัย ความคุ้มครอง และทุนประกันของตัวรถที่ผู้ทำประกันได้เลือกไว้

 

  1. การระบุผู้ขับขี่

การระบุผู้ขับขี่ เป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดเบี้ยประกัน เพราะการระบุชื่อผู้ขับขี่นั้น จะทำให้ลดเบี้ยประกันลงไปได้บ้าง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่ที่แน่นอนและไม่เกิน 2 คน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ ประกันก็ยังให้ความคุ้มครองครับ เพียงแต่ว่าผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบความเสียหายในบางส่วนเอง

  1. การเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์

การเลือกบริษัทประกัน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งนะครับในการเลือกประกันภัยรถยนต์ โดยคุณสามารถพิจารณาได้จากปัจจัยต่อไปนี้…ความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยรถยนต์   ชื่อเสียงของบริษัทประกันว่ามีชื่อเสียงในทางที่ดีหรือไม่การให้บริการของพนักงานบริษัทประกัน  ความยากง่ายในการร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ  เครือข่ายของอู่ซ่อมรถที่จัดไว้บริการหากเกิดอุบัติเหตุ  มีตัวแทน หรือนายหน้าที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้  ตัวแทน หรือนายหน้ามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวประกันภัยรถยนต์เป็นอย่างดี

 

สำหรับคุณสภาพสตรี เรามีเทคนิคน่ารู้สำหรับการเลือกซื้อประกันรถยนต์ฉบับผู้หญิงมาฝากค่ะ

เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ โทรถามราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์จากบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์ที่สนใจ เจ้าหน้าที่ก็จะถามข้อมูลเกี่ยวกับรถของเราก่อนว่า ขับรถยี่ห้ออะไร, รุ่นอะไร, ปีไหน, พฤติกรรมการขับรถเป็นอย่างไร, ต้องการระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ (การระบุชื่อผู้ขับขี่จะมีผลต่อการคิดเบี้ยประกันรถ ซึ่งจะทำให้ได้เบี้ยประกันในราคาที่ถูกลง), เคยทำเรื่องเคลมหรือไม่ (ถ้าไม่เคยเคลม เราจะได้รับพิจารณาส่วนลดประวัติดี ก็จะเบี้ยประกันได้ถูกลงอีก) บอกเลยว่าเบี้ยประกันรถยนต์จะถูกหรือแพงก็คิดจากข้อมูลส่วนนี้เนี่ยแหละ

ลองเช็คเบี้ยประกันรถยนต์แล้ว จะเห็นว่า การทำประกันรถยนต์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของบริษัทเพียงอย่างเดียวนะ ราคาเบี้ยประกันและความคุ้มครองอื่นๆ ก็สำคัญเช่นเดียวกัน เราจะต้องเลือกบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์ที่เสนอเบี้ยประกันรถยนต์ในราคาที่คุ้มค่า ถ้าลองเปิดใจก็จะเห็นว่าประกันดีๆ ราคาถูกก็ยังมีอยู่

ตัดสินใจเลือกประกันภัยรถยนต์ หลังจากเอาข้อเสนอของบริษัทประกันภัยรถยนต์หรือโบรกเกอร์แต่ละที่มาเปรียบเทียบดูแล้ว จะต้องดูราคาเบี้ยประกันรถยนต์และทุนประกันเป็นหลักก่อน คิดง่ายๆ เบี้ยประกันน้อย ทุนประกันน้อย เบี้ยประกันมาก ทุนประกันก็มากด้วย ทางที่ดีเราต้องเลือกเบี้ยประกันรถในราคาที่เราสามารถควักกระเป๋าจ่ายได้สบาย และดูความคุ้มครองอื่นๆ ประกอบด้วย แล้วตัดสินใจเลือกบริษัทประกันที่สามารถให้ข้อเสนอได้ตรงตามความต้องการของเราอย่างคุ้มค่าที่สุด (ทุนประกัน คือ ค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันรถยนต์จะจ่ายให้กับผู้เอาประกัน กรณีรถยนต์สูญหายหรือเกิดความเสียหาย)

การทำประกันรถยนต์มีขั้นตอนง่ายๆ แค่นี้เอง ผู้หญิงเราก็สามารถทำเองได้ค่ะ ยิ่งถ้าเราลองทำประกันรถยนต์ด้วยตัวเองแล้ว เราจะรู้ข้อมูลรายละเอียดครบทุกด้าน สามรถเลือกประกันรถยนต์ที่โดนใจได้เลย

 

 

related