ตลาดชานมไข่มุกอาเซียน คึกคักไทยติด 1 ใน 5 มูลค่าซื้อขาย 2.6 หมื่นล้านต่อปี

ชานมไข่มุกถือเป็นหนึ่งในตลาดเครื่องดื่มที่มีขนาดใหญ่  ขณะที่ตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทยเติบโตขึ้นทุกปี ทำให้ประเทศไทยติดอันดับ 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตของตลาดชานมไข่มุกสูงสุด

ลาสุด Momentum Works และ qlub บริษัทสตาร์ทอัพด้านการชำระเงิน รายงานอุตสาหกรรมชานมไข่มุกของอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 1 ในแง่ของขนาดตลาดในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมูลค่าการซื้อขายปีละ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (56,864,000,000 บาท)

อันดับ 2 ได้แก่ประเทศไทยด้วยมูลค่าการซื้อขาย 749 ล้านดอลลาร์ (26,619,460,000 บาท) ต่อปี จากร้านชานมไข่มุกมากกว่า 31,000 แห่งและช่องทางการค้าปลีกอื่นๆ

อันดับ 3 เวียดนามด้วยมูลค่าการซื้อขายประจำปีที่ 362 ล้านดอลลาร์ (12,865,480,000 บาท)

อันดับ 4 สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในภูมิภาค ด้วยมูลค่าการซื้อขายประจำปีที่ 342 ล้านดอลลาร์ (12,147,840,000 บาท)แม้จะมีขนาดของประเทศที่เล็ก แต่ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ก็มีกำลังซื้อสูงสุด เนื่องจากราคาเฉลี่ยของการสั่งซื้อชานมไข่มุกนั้นสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเกือบสองเท่า ปัจจุบันมีแบรนด์ชานมไข่มุกมากกว่า 60 แบรนด์ที่ครอบคลุมรสชาติและช่วงราคาที่แตกต่างกันในสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับแบรนด์ "พรีเมียม" เช่น Heytea

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• กินชานมไข่มุกบ่อยๆ เป็นอาหารอันตรายไหม? จริงแล้วมันมีส่วนผสมของอะไรบ้าง

• ชานมไข่มุกเป็นเหตุ! สาวจีนเสพติดต้องกินทุกวัน รู้อีกทีฟื้นที่โรงพยาบาล!

แม้ว่าอุตสาหกรรมชานมไข่มุกของภูมิภาคนี้จะถูกครองตลาดด้วยแบรนด์ไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้คิดค้นการผลิตมาอย่างยาวนาน แต่นั่นอาจกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อแบรนด์จีนจำนวนมากมายก้าวเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตลาดชานมไข่มุกในจีนซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขาย 2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี (710,400,000,000 บาท) ได้เห็นแบรนด์ดังของจีนอย่าง Mixue, Chagee และ Heytea กำลังขยายสาขาไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยร่วมกับ Gong Cha และ Koi ก่อนหน้านี้

ข้อมูลจาก : The straitstimes