svasdssvasds

เพื่อไทย แจง 10 ข้อ นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เทรดไม่ได้เหมือนบิตคอยน์

เพื่อไทย แจง 10 ข้อ นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เทรดไม่ได้เหมือนบิตคอยน์

“ดร.เผ่าภูมิ” เพื่อไทย แจง 10 ประเด็น “กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท” - ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ ไม่เกี่ยวกับบริษัทเอกชน ไม่สามารถเก็งกำไรได้ ปลอดภัย-โปร่งใส สูงสุด

จากกรณีที่ พรรคเพื่อไทย เสนอนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำให้ประชาชนเกิดความสงสัยว่า เงินนี้มาจากไหน พอขึ้นชื่อว่าเป็นเงินดิจิทัล จะถูกทุบ-เทรด-เก็งกำไร เหมือนบิตคอยน์หรือไม่ ?

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ โฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้แจงเพิ่มเติม 10 ประเด็น “กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท”

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

คลิปข่าวที่เกี่ยวข้อง

1. กระเป๋าเงินดิจิทัลไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่

นโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัล ของพรรคเพื่อไทย ดร.เผ่าภูมิ ะบุว่า เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด สามารถเอามาแลกเป็นเงินบาทได้ทุกเมื่อ

2. เหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล

ดร.เผ่าภูมิ อ้างว่า เหรียญที่ใช้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล ของพรรคเพื่อไทย ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่มีการสร้างมูลค่า ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตก-ราคาขึ้น เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่าเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล

3. ไม่กระทบความมั่นคงระบบการเงินเดิม

กระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้นต่อความมั่นคงของระบบการเงิน ไม่เกี่ยวกับทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะไม่ใช่การสร้างสกุลเงินใหม่

4. 10,000 บาทเข้าถึงทุกคนแน่นอน

ดร.เผ่าภูมิ เชื่อว่า กระเป๋าเงินดิจิทัล เงิน 10,000 บาท ลงถึงมือประชาชนทุกคน (16 ปี ขึ้นไป) ทุกบาททุกสตางค์ ใช้จ่ายจริง ซื้อของได้จริง ไม่มีการสูญหายของงบประมาณ ตรวจสอบได้ทุกธุรกรรมตลอดเส้นทาง

5. ออกโดยรัฐบาลไม่เหมือนบิตคอยน์

กระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่ใช่กรณีเดียวกับ Bitcoin Luna USDT ตามมีผู้กล่าวอ้าง เหล่านั้นออกโดยเอกชนและมุ่งหมายเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน กระเป๋าเงินดิจิทัลคือเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไป ออกโดยรัฐบาล ไม่ใช่สกุลเงินคู่ขนานกับเงินบาท

6. ไม่มีเอี่ยวและเกี่ยวกับเอกชน

กระเป๋าเงินดิจิทัลไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชนตามที่มีผู้กล่าวอ้าง ไม่เกี่ยวกับการซื้อบริษัท ไม่เกี่ยวกับการฟอกเงิน ไม่เกี่ยวกับการลงทุน เป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่ได้อยู่บนฐานของข้อเท็จจริง ทั้งหมดใช้งบประมาณจากภาครัฐและโอนตรงถือมือประชาชนทุกคน (16 ปีขึ้นไป) ง่ายๆและตรงไปตรงมา

7. เชื่อว่าจะยกระดับชุมชนได้

กระเป๋าเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจระดับหมู่บ้าน ระดับชุมชน ในตลาด สร้างธุรกรรมระหว่างรายย่อย ตรงข้ามกับวิธีเดิมที่ต้องซื้อในร้านใหญ่หรือกลุ่มทุน

8. ใช้ระบบ Blockchain

กระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูงสุด สูงกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รู้เส้นทางการเงินทุกธุรกรรม รู้ผู้รับ รู้ผู้จ่าย เป็นระบบที่มีความโปร่งสูงสุด ตรวจสอบได้ทุกธุรกรรม

9. ไม่เกิดเงินเฟ้อ

กระเป๋าเงินดิจิทัลไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ ปัจจุบันระดับกำลังซื้อของประเทศตกต่ำ เศรษฐกิจตกต่ำกว่าศักยภาพมาก สภาวะดังกล่าวไม่นำสู่เงินเฟ้อที่เกิดจากอุปสงค์ได้ รวมทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัล สามารถจัดสรรเงินจากงบประมาณ ไม่มีการขึ้นอัตราภาษีใดๆ

10. นโยบายนี้ออกมา ก็ยังหนุนเงินบาทดิจิทัลอยู่

พรรคเพื่อไทยสนับสนุน Central Bank Digital Currency (CBDC) และเดินหน้าพัฒนาร่วมกันธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นแพลตฟอร์มเปิดสำหรับทุกคน เพื่อยกระดับระบบการเงินของประเทศเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล

related