svasdssvasds

ตำรวจ เผยกล้องวงจรปิด จีจี้ ลงมารับ อิคคิว ก่อนเกิดเหตุสลด ยันฝ่ายชายตายจริง

ตำรวจ เผยกล้องวงจรปิด  จีจี้ ลงมารับ อิคคิว ก่อนเกิดเหตุสลด ยันฝ่ายชายตายจริง

ตำรวจ เผยกล้องวงจรปิด จีจี้ ลงมารับ อิคคิว ขึ้นคอนโดฯ ก่อนเกิดเหตุสลด ยันฝ่ายชายไม่ได้ "ตายทิพย์" พร้อมเรียกพ่ออิคคิว มาให้ปากคำ กรณีเจ้าของปืน ฝากเตือนการโพสต์ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้เสียชีวิต อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะผู้เสียชีวิต อายุไม่ถึง 18 ปี

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์ชีวิตของ นางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ เนตไอดอลชื่อดัง และนักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว ว่า ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยืนยันว่า นักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์เสียชีวิตจริง เนื่องจากมีพยานรู้เห็นจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน จะต้องชี้แจงละเอียดของคดีให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จะเอาผิดใครได้หรือไม่นั้น ต้องรอผบการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนเช่นกัน ซึ่งได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ไปแล้ว ให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และสามารถชี้แจงความคืบหน้าแก่สื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง

กรณีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ต้องเชิญบิดาของนักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าของปืน มาให้ปากคำ เพื่อให้ทราบว่า นักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ได้ปืนมาอย่างไร ซึ่งต้องรอหลังงานศพจึงจะเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน

ส่วนเรื่องพฤติการณ์การก่อเหตุนั้น  เบื้องต้นเชื่อว่านักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์เป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีภาพกล้องวงจรปิดเห็นผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เข้าไปในห้อง ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐานก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

สำหรับการฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายของญาตินางสางสุพิชชานั้น สามารถทำได้เพราะถือว่าเป็นการละเมิดจากการทำผิดกฏหมายอาญา ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง

การที่ในโลกโซเชียล มีความสงสัยว่านักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ เสียชีวิตจริงหรือไม่ มีความพยายามปกปิดความจริง เพื่อให้หลบหนีไปนั้นหรือไม่ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งตำรวจต้องทำคดีอย่างตรงไปตรงมาเพื่อตอบสังคมให้ได้ อีกทั้งยังเห็นว่า เป็นเรื่องปกติในโลกโซเชียล ที่มีการตั้งข้อสงสัยในคดีต่างๆ สุดท้ายก็จะต้องจบด้วยการพิสูจน์ตามพยานหลักฐานให้ความจริงปรากฏ จึงขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

อีกทั้งยังฝากเตือน เนื่องจากหนึ่งในผู้เสียชีวิตยังเป็นเยาวชน อายุไม่ถึง 18 ปี ยังอยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก การโพสต์ข้อมูลต่างๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้เสียชีวิตนั้น อาจเข้าข่ายความผิดได้ จึงต้องโพสต์ข้อมูลด้วยความระมัดระวัง

related