svasdssvasds

อุตุฯ เตือนจับตา"พายุดีเปรสชัน"อ่าวเบงกอล ทำฝนถล่มประเทศไทย 11-15 พ.ค. นี้

อุตุฯ เตือนจับตา"พายุดีเปรสชัน"อ่าวเบงกอล ทำฝนถล่มประเทศไทย 11-15 พ.ค. นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศด่วน! เตือน "พายุดีเปรสชัน"อ่าวเบงกอล ส่งผลกระทบประเทศไทย 11-15 พ.ค. นี้ ทำให้ฝนตกหนักและตกต่อเนื่อง "ฝนฟ้าคะนอง" บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 11 พ.ค. 2566  ประกาศเตือนฉบับ 2 พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอล (มีผลกระทบถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2566)

วันนี้ (11 พ.ค. 66) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 10.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 88.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศบังคลาเทศและเมียนมาในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 66  ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. 66 ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร และมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นในวันที่ 14-15 พ.ค. 66 ทำให้บริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 16 พ.ค. 65

อุตุฯ เตือนจับตา\"พายุดีเปรสชัน\"อ่าวเบงกอล ทำฝนถล่มประเทศไทย 11-15 พ.ค. นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันที่ 11 พ.ค. 2566 

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ 

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส 

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

 

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส 

ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดชัยภูมิ บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส 

ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี 

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ 

บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส 

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2  เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อุตุฯ เตือนจับตา\"พายุดีเปรสชัน\"อ่าวเบงกอล ทำฝนถล่มประเทศไทย 11-15 พ.ค. นี้

 

ข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทยา

related