ตร.ไซเบอร์ บุกทลายแหล่งขาย อุปกรณ์สื่อสารเถื่อน-ซิมผี ป้องกันภัยไซเบอร์

ปฏิบัติการสกัดช่องทางการกระทำผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยทาง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3 และเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สอท.3 ระดมจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยเน้นจับผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับซิมม้า เพื่อปิดกั้นช่องทางการกระทำผิดของคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ปูพรมเข้าตรวจค้น 9 จุดบริเวณชั้น 4 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านปทุมวัน กทม.  ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์มือถือและอุปกรณ์โทรคมนาคมขนาดใหญ่ พบมีผู้ลักลอบนำอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ผิดกฎหมายมาวางขาย โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและตัดช่องทาง"ภัยไซเบอร์" ไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพมาซื้อ ในการนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี  ซึ่งปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมโดยผิดกฎหมาย และลักลอบจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมที่กำหนดไว้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• รวบแล้ว "แก๊งส่ง SMS แนบลิงก์ปลอม" ดูดเงินเหยื่อ ตระเวนใช้รถโมบายส่งสัญญาณ

• "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" ร่วมแถลง ตร.เตือนภัยออนไลน์ ขออายัด 700 ล้าน ทวงได้ 90 ล้าน

• ธปท. แนะวิธีสแกน QR code - โอนเงินอย่างไร? ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

เจ้าหน้าที่พบร้านที่กระทำผิด จำนวน 9 ร้าน จึงจับกุมผู้ดูแลร้าน 7 คนพร้อมตรวจยึดเครื่องโทรคมนาคมผิดกฎหมาย  รวม 157 รายการ มูลค่ากว่า 707,000 บาท ประกอบด้วย

• โทรศัพท์มือถือ
• นาฬิกาใส่ชิมการ์ด
• เครื่องติดตาม (GPS Tracker)
• เครื่องดักฟัง
• อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ Wifi
• วิทยุสื่อสาร
• โดรนถ่ายภาพ
• อุปกรณ์โทรคมนาคมและกล้องใส่ชิมการ์ด

ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "มี และ ค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน"  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีใหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ จึงควบคุมผู้กระทำความผิดพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่จังหวัดหนองคาย ปฏิบัติการไล่จับกุม บัญชีม้า ปิดช่องทางการกระทำผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยทาง พล.ต.ท.วรวัฒน์ ได้สั่งการให้ระดมจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยเน้นจับผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับ ซิมม้า และบัญชีม้า เพื่อปิดกั้นช่องทางการกระทำผิดของคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ต่อมาทางพ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3  สั่งการให้ชุดสืบสวนหาข่าวผู้ที่กระทำผิด พบช่องทางเปิดร้านในแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ขายซิมโทรศัพท์ ผ่านแอพพลิเคชั่นขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง  ใช้ชื่อร้าน “7phone”  ตรวจสอบการรีวิวการซื้อซิมมือถือของลูกค้า พบว่าร้านดังกล่าวขายและส่ง ซิมโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนเปิดใช้งานพร้อมใช้ มาเป็นจำนวนหลายครั้งแล้วจริง มีลูกค้าเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าได้รับสินค้าจริง และใช้งานได้จริง

นอกจากนี้ยังพบว่ามีหน้าร้าน และระบุที่อยู่ ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย  ตำรวจจึงวางแผนล่อซื้อซิมโทรศัพท์มาตรวจสอบพบว่าเป็นซิมที่ลงทะเบียนพร้อมใช้จริง ก่อนขออนุมัติศาลจังหวัดหนองคายออกหมายค้น พร้อมกับเปิด “ปฏิบัติการบุกค้นทลายแหล่งขายส่งซิมผี “7phone” กลางเมืองหนองคาย”

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3  พร้อมกำลังเข้าตรวจค้น ศูนย์บริการ ดังกล่าวใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย พบนายกิติพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน

จากการสอบสวน นายกิติพัฒน์  รับสารภาพว่า ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ตรวจพบในกล่องพัสดุเป็นซิมการ์ดที่ลงทะเบียนในนามของบุคคลอื่น ซึ่งตนรับหน้าที่บรรจุซิมการ์ดใส่กล่องเพื่อส่งให้กับผู้ที่สั่งซื้อจริง 

เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา“เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวใช้บริการได้”พร้อมกับตรวจยึดซิมโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้ว  ที่บรรจุจ่าหน้าซองเตรียมส่งให้ลูกค้า และซิมโทรศัพท์ อีกจำนวน 496 ซิม นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป