svasdssvasds

"ปังชา" ทุกคนใช้ได้ เจ้าของร้านดัง ขอโทษแล้ว สื่อสารคลาดเคลื่อน

"ปังชา" ทุกคนใช้ได้ เจ้าของร้านดัง ขอโทษแล้ว สื่อสารคลาดเคลื่อน

เจ้าของร้านดัง ขอโทษแล้ว สื่อสารคลาดเคลื่อน ยืนยัน "ปังชา" ทุกคนใช้ได้ ทั้งนี้ส่วนยอดความเสียหายจำนวน 102 ล้านที่ระบุเป็นการเอาแบบอย่างมาจากต่างประเทศ เป็นการให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้า เป็นการป้องกันไม่ให้ต่างชาติมาเอาเครื่องหมายการค้าเราไปได้

จากกรณีดราม่า "ปังชา" ที่ผู้คนต่างสนใจ หลังก่อนหน้านี้ ร้านดัง ลูกไก่ทอง ได้โพสต์ว่า ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งภาษาไทยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534

โดย "ปังชา" ได้รับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้า และห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข และห้ามนำชื่อแบรนด์ปังชา Pang Cha ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย

"ปังชา" ทุกคนใช้ได้ เจ้าของร้านดัง ขอโทษแล้ว สื่อสารคลาดเคลื่อน

กระทั่ง ร้านปังชาเชียงราย ถูกร้านดัง ยื่นโนติสเรียกค่าเสียหาย 102,000,000 บาท และยังมีอีกร้านที่ตั้งอยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็ได้มีทนายความส่งโนติสถูกเรียกเงินร้าน 700,000 ด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นดราม่าข้ามวันข้ามคืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ล่าสุด คุณเจ้าของร้านลูกไก่ทอง เปิดใจในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยระบุว่า กราบขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการสื่อสารของทางร้าน จนทำให้เกิดกระแสสังคมที่ค่อนข้างหนัก พร้อมขอโทษ "ร้านปังชา เชียงราย" และ "ร้านทางช้างเผือก" ซึ่งตนเองพยายามติดต่อไป เพราะต้องการไปขอโทษด้วยตัวเอง นอกจากจะขอโทษร้านทั้ง 2 แห่งแล้ว ยังขอโทษประชาชนทุกคน ที่ความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร นำไปสู่เรื่องราวทุกวันนี้

"ปังชา" ทุกคนใช้ได้ เจ้าของร้านดัง ขอโทษแล้ว สื่อสารคลาดเคลื่อน

ส่วนเรื่องราวเกิดจากที่เพจร้านได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร แต่ไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจน และการใส่ข้อความเป็นการสื่อสารที่ผิด เมื่อถูกแชร์ออกไปเลยทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเกิดจากเพจของเราที่ใส่ข้อมูลไม่ครบ 

ส่วนคำที่มีปัญหา "ปังชา" ทุกคนใช้ได้เลย ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ได้เป็นของร้านคนเดียว ใช้ได้ไม่โดนฟ้อง กราบขอโทษประชาชนและเจ้าของร้านที่ได้รับโนติส เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทุกอย่างเกิดจากการสื่อสารคลาดเคลื่อน การออกโนติส ไม่ได้มีเจตนาฟ้องและร้านไม่สามารถไปฟ้องเขาได้ ส่วนยอดความเสียหายจำนวน 102 ล้านที่ระบุเป็นการเอาแบบอย่างมาจากต่างประเทศ เป็นการให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้า เป็นการป้องกันไม่ให้ต่างชาติมาเอาเครื่องหมายการค้าเราไปได้ เจ้าของร้านอธิบายเพิ่มเติมว่า เป็นความเข้าใจผิด ไม่ได้มีเจตนาฟ้องร้องจริงๆ

ส่วน Pang Cha ภาษาอังกฤษนั้นใช้ได้หรือไม่ เจ้าของร้านบอกว่า อันนี้ใช้ได้แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดความสับสน ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา อธิบายขยายเพิ่มเติมอีกครั้ง

"สุดท้ายนี้ต้องขอโทษมาก ๆ ขอโทษทุกคน เราไม่เคยจับจองอะไรเป็นของเรา ขอให้ทุกคนให้โอกาสและขอให้อภัยทุกสิ่งกับทางแบรนด์ด้วย หากมีสิ่งใดไปทำให้ทุกคนเสียใจ วันนี้ขอน้อมรับและขอโอกาส เราขอโทษจริงๆ " เจ้าของร้านกล่าว

 

 

related