สรุปให้ กรอกข้อมูลส่วนตัว ในการบ้านระบายสีของลูก โดนธนาคารโทรขายประกัน

ถือเป็นประเด็นที่ในโซเชียลมีเดียให้รับความสนใจอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ปกครอง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวลงในกลุ่ม ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่ โดยเป็นภาพการบ้านของเด็กนักเรียนที่ครูให้มาระบายสี แต่กลับมีแบบสำรวจถามข้อมูลทางการเงินของผู้ปกครองด้วย

โดยโพสต์ดังกล่าวเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความว่า “ลบโพสต์เก่าแปปนะครับ เกรงจะมีผลกระทบหลายๆ ด้านจากการเตือนของเพื่อนๆ

จากต้นเรื่องที่มีบริษัทโทรมาขายประกันวันอาทิตย์ บอกว่ามาจากการบ้านที่ลูกทำ อยากจะเตือนครูหลายๆ โรงเรียน ที่แอบแฝงการขายประกัน เอาข้อมูลผู้ปกครองไปให้บริษัท ในรูปแบบการบ้านของเด็ก ผมขอให้หยุดการกระทำเหล่านี้เลยนะครับ อย่าเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือในการขายประกัน

หรือถ้าคุณจะทำคุณก็ต้องเขียนให้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นการกรอกข้อมูล ไปให้บริษัทประกัน แบบนั้นให้ผู้ปกครองเขาตัดสินใจเองว่าจะกรอกหรือไม่กรอก ไม่ใช่มาในรูปแบบการบ้านที่บังคับให้เด็กต้องทำเป็นผมผมก็ต้องกรอกข้อมูลให้ครบ เพราะกลัวว่าลูกจะไม่ได้คะแนน ฝากไว้หน่อยนะครับ

จากกระดาษการบ้านระบายสีดังกล่าวได้คำถามทั้งหมด 5 ข้อ พร้อมให้กรอกชื่อที่อยู่ ระบุว่า

1. ท่านมีความประสงค์ให้บุตรของท่านเรียนถึงระดับใด
2. ท่านมีการเตรียมทุนการศึกษาให้บุตรของท่านแล้วหรือยัง
3. ท่านคิดว่าการวางแผนการเงินไว้ให้บุตรเพื่อเป็นทุนการศึกษาดีไหม?
4. ถ้ามีสถาบันการเงินมาช่วยเก็บออม?
5. สร้างอนาคตเพื่อการศึกษาให้บุตรของท่านสามารถเก็บออมได้เท่าไหร่?

หลังจากนั้นพ่อของนักเรียนชั้นประถมศึกษา โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น นำภาพถ่ายใบงานแบบฝึกหัดระบายสีที่ลูกสาวได้มาจากครู ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากที่ผู้ปกครองถูกตัวแทนบริษัทประกันชีวิต โทรศัพท์มาหาในวันหยุด เสนอขายประกันและการออมเงินให้กับลูกสาว

โดยตัวแทนบริษัทประกันแจ้งว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลมาจากการบ้านที่โรงเรียนให้เด็กนักเรียนทำส่งครู ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกไม่ปลอดภัยและตั้งคำถามกับโรงเรียนว่า เหตุใดจึงนำข้อมูลนักเรียนและผู้ปกครองไปให้บริษัทประกัน โดยที่ผู้ปกครองไม่ทราบเรื่อง

ด้านนายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย โรงเรียนได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทราบว่า ช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคน จำนวน 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน แต่งกายดี เข้ามาภายในโรงเรียน โดยแจ้งกับคุณครูหัวหน้าสายที่ดูแลนักเรียนระดับชั้น ป.1 ถึง ป.3 ว่า มาจากธนาคารแห่งหนึ่ง และมาขอทำกิจกรรมส่งเสริมการออมเงินให้กับนักเรียน

พร้อมแจ้งว่า ได้รับอนุญาตจากฝ่ายบริหารในการเข้ามาทำกิจกรรมแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วฝ่ายบริหารยังไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้เป็นผู้อนุญาต

เมื่อครูหัวหน้าสายเห็นว่า ได้รับอนุญาตจากฝ่ายบริหารแล้ว ประกอบกับครูหัวหน้าสายกำลังทำการสอนนักเรียนอยู่ จึงไม่ได้ตรวจสอบกับทางฝ่ายบริหาร จึงให้ทั้ง 3 คน ทำกิจกรรมได้ โดยได้นำเอาใบงานแจกให้เด็กนักเรียนทำตามห้องเรียนต่างๆ ตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึง ป.3 ประมาณกว่า 100 คน ก่อนจะเก็บรวบรวมใบงานดังกล่าวไปส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเด็กได้นำกลับไปทำที่บ้าน

ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน คนกลุ่มเดิมก็ได้กลับมาที่โรงเรียน และได้นำเอากระปุกออมสินมาแจกให้กับนักเรียนที่ระบายสีในใบงาน แล้วก็กลับออกไป ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีสถาบันทางการเงินเข้ามาทำกิจกรรมมอบของรางวัล เป็นกระปุกออมสินให้นักเรียน แต่ก็จะมีการขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรและได้รับอนุญาตจากทางโรงเรียนก่อนทุกครั้ง และไม่เคยมีกรณีที่นำข้อมูลของนักเรียนไปใช้ในลักษณะเสนอขายประกันหรือบริการออมเงินแต่อย่างใด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนต้องขออภัยผู้ปกครองทุกท่าน เพราะโรงเรียนก็ถูกคนกลุ่มนี้หลอกลวงเช่นกัน ต่อไปทางโรงเรียนจะเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าออกของบุคคลภายนอกให้มากยิ่งขึ้น และขอยืนยันว่า โรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทประกันใด ๆ ทั้งสิ้น หากผู้ปกครองท่านใดตกเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ โรงเรียนยินดีอำนวยความสะดวกให้ข้อมูลทุกด้าน

บริษัทประกันสั่งสอบข้อเท็จจริง ยืนยันไม่มีนโยบายได้มาซึ่งข้อมูลด้วยการใช้วิธีการเช่นนี้

ล่าสุด "อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต" แจงปมหาข้อมูลจากการบ้านระบายสีของเด็ก สั่งสอบข้อเท็จจริง ยัน ไม่มีนโยบายในการได้มาซึ่งข้อมูลด้วยการใช้วิธีการเช่นนี้

จากกรณีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เรื่องการกระทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัวจากการบ้านระบายสีของเด็ก รร.อนุบาลในจังหวัดขอนแก่นเพื่อการขายประกัน บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ในฐานะบริษัทประกันชีวิต ขอร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้

หลังจากบริษัทฯ ได้ทราบเรื่องดังกล่าว ในฐานะหนึ่งในบริษัทประกันชีวิต ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทันทีและพบว่าบุคคลที่กระทำการดังกล่าวเป็นตัวแทนที่มีสัญญากับบริษัท ขณะนี้บริษัทฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด หากพบว่าตัวแทนของบริษัทมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และดำเนินงานขายที่ขัดต่อหลักการทางจริยธรรมและข้อกำหนดของบริษัท บริษัทฯจะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป

บริษัทฯ ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าบริษัทฯไม่มีนโยบายในการได้มาซึ่งข้อมูลของผู้มุ่งหวังด้วยการใช้วิธีการเช่นนี้