svasdssvasds

ม.หอการค้า คาดเศรษฐกิจไทยปี 67 โตถึง 4% หากมีแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"

ม.หอการค้า คาดเศรษฐกิจไทยปี 67 โตถึง 4% หากมีแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"

ม.หอการค้าฯ คาดเศรษฐกิจไทยปี 2567 โต 3-3.5% แม้ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต หากมีโตได้ 4% คาดความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

หลังจากที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คู่ขนานไปกับระหว่างการรอความเห็น และข้อห่วงใยของ ป.ป.ช. เพราะเป็นเพียงข้อเสนอแนะ แต่ตั้งแต่ 1 เดือนที่ผ่านมา ปัญหาตัวเลขทางเศรษฐกิจหนักขึ้น จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนขาดความมั่นใจในการใช้จ่าย ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน ต่างชาติที่รัฐบาลเชิญชวนมาลงทุนนั้น ก็ยังต้องรอระยะเวลา จนทำให้ภาคการบริโภคชะลอตัว

เศรษฐกิจไทยจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

ล่าสุดนายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะพบว่าประชาชนเริ่มมองอนาคตว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นได้จากการท่องเที่ยวในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ตลอดจนภาคการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และสินค้าเกษตรที่มีราคาดีขึ้น

ดังนั้นเมื่อรวมกับปัจจัยที่คาดว่าจะเริ่มใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ จึงทำให้เชื่อว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และเศรษฐกิจไทยน่าจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งแรกของปี 67 ภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ ม.หอการค้าไทย ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 67 จะเติบโตได้ราว 3.0-3.5% แต่หากรัฐบาลสามารถดำเนินโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตได้เป็นรูปธรรม ก็จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ มีโอกาสเติบโตได้ใกล้เคียงกับ 4% มากขึ้น

เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะมีแรงขับเคลื่อนมาจาก 4 ประสาน คือ

  • การท่องเที่ยว
  • การส่งออก
  • ราคาสินค้าเกษตร
  • งบประมาณรายจ่าย

ดังนั้นเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนในไตรมาส 4 ความสำคัญอยู่ที่การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง 15 ก.พ.นี้ น่าจะชัดเจนว่ารัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไปทางไหน และอย่างไร รวมทั้งข้อมูลจากสภาพัฒน์ที่จะออกมาวันที่ 19 ก.พ.นี้ ซึ่ง ม.หอการค้าฯ เชื่อว่าปี 66 เศรษฐกิจไทยจะยังโตได้มากกว่า 2%

หากไม่มี ดิจิทัลวอลเล็ต เศรษฐกิจไทยก็ยังเติบโตได้

สำหรับการคาดการณ์ เศรษฐกิจไทยปี 67 หากไม่มีการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็ยังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากมีแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออกที่ต่างปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ต่างปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกร ซึ่งน่าจะทำให้ GDP ปี 67 เติบโตได้มากกว่า 3% ซึ่งถือเป็นระยะที่ปลอดภัย ซึ่งโอกาสที่ GDP ปีนี้จะโตได้ 3-3.5% มีมากกว่าโอกาสที่จะโตได้ต่ำกว่า 3%

 

 

การตัดสินใจเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า เชื่อว่า กนง.จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบด้าน ทั้งแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์เศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น กนง.อาจตัดสินใจไม่ปรับลดดอกเบี้ย แต่หากเห็นสัญญาณการทรุดตัวของเศรษฐกิจ ก็เชื่อว่า กนง.มีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้ ซึ่งมติที่ประชุม กนง.ล่าสุดที่เสียงออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ย 5 เสียง และลดดอกเบี้ย 2 เสียงนั้น ก็ทำให้เห็นโอกาสที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยในระยะต่อไปมีมากขึ้น

‘ถ้าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้น ธปท.อาจจะไม่ลดดอกเบี้ยก็ได้...แต่ถ้าเศรษฐกิจไทยยังมีสัญญาณในการทรุดตัวลง ก็เชื่อว่า กนง.มีโอกาสที่จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง’ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related