SHORT CUT
ส่องชีวิต โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียน ‘พ่อรวยสอนลูก’ ล้มละลาย ติดหนี้ 4 หมื่นล้าน จริงหรือ ? หาคำตอบกับ ‘ดร.ถนอม ดีสร้อย’
ไม่นานมานี้ หลายคนน่าจะเห็นโพสต์ที่ระบุว่า ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ (Robert Toru Kiyosaki) ’ นักธุรกิจ และกูรูเรื่องการลงทุนชื่อดัง ซึ่งบ้านเรารู้จักเขาจากหนังสือ ‘พ่อรวยสอนลูก’ ที่ไม่ว่าจะไปร้านหนังสือที่ไหน ก็มักถูกวางไว้เป็นเล่มแนะนำ เล่มขายดีบนชั้นวางทุกร้าน
สำหรับประวัติคร่าวๆ ของ คิโยซากิ นั้น เขาเกิดในปี 1947 ที่เมืองฮิโล รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เขาเติบโตในครอบครัวที่ทำงานหนักแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้เขามีมุมมองเรื่องการทำงานต่างจากครอบครัว หลังคิโยซากิ เรียนจบ ด้านธุรกิจและการลงทุน เขาจึงเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในฐานะนักธุรกิจและนักเขียน
คิโยซากิเริ่มเขียนหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" (Rich Dad Poor Dad) ในปี 1997 หนังสือเล่มนี้เน้นแนวคิดเกี่ยวกับการรู้หนังสือทางการเงินและการสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางการทำงานประจำที่มักได้รับการสอนในระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม หนังสือได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ถูกแปลเป็นหลายภาษา และมียอดขายมากกว่า 40 ล้านเล่มทั่วโลก
คำสอนของคิโยซากิมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้แบบ Passive Income และการใช้ "หนี้ดี" เพื่อซื้อสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม แนวคิดเหล่านี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากขัดแย้งกับค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาในระบบ
แต่เมื่อมีข่าวว่าเขาล้มละลาย เป็นหนี้มหาศาล จึงอดคิดไม่ได้ว่า เขาล้มละลายจริงไหม เพราะกูรูด้านการเงินที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ไม่มีน่าจะตกต่ำง่ายๆ เพื่อหาคำตอบนั้น ทีม SPRiNG ได้มีโอกาสคุยกับ ‘ดร.ถนอม ดีสร้อย’ นักธุรกิจผู้ที่เรียนรู้วิธีลงทุนมาจากคิโยซากิ และเป็นผู้เขียน หนังสือ ‘ชวนคุณรวยด้วยอสังหาฯโดยใช้เงินคนอื่น’ และ ‘เศรษฐีอสังหาฯ รุ่นใหม่รวยด้วยสมอง’ ที่ขายดีอันดับหนึ่งในประเทศไทยมาหลายปี อีกด้วย
ดร.ถนอม เล่าว่า จากที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับคิโยซากิ มาตลอด ในส่วนที่ล้มละลายคือเรื่องจริง แต่เป็นบริษัทของเขาในปี 2012 เนื่องจากตอนที่เขาจัดสัมมนาหนังสือใหม่ๆ เขาให้บริษัท The Learning Annex เป็นโปรโมทหนังสือให้ แต่สุดท้ายจบลงที่ The Learning Annex ได้ฟ้องบริษัท Rich Global LLC ของ คิโยซากิ และเรียกค่าเสียหาย 23.7 ล้านดอลลาร์ แต่คิโยซากิ คิดไว้แล้วว่าจะไม่ทำบริษัทนี้ต่อ และ Rich Global LLC ของเขามีทรัพย์สินประมาณ 1.8 ล้านดอลลาร์เท่านั้น จึงไม่พอจ่าย เลยแจ้งล้มละลายบริษัทไป
ทั้งหมดนี้คือที่มาของข่าวพาดหัวว่าคิโยซากิ ล้มละลาย ทั้งที่มันเป็นแค่บริษัทหนึ่งเท่านั้น และตัวเขาก็มีบริษัทในเครืออีกเป็น 10 แห่งที่ยังเดินหน้าต่อ เป็นข่าวเก่าที่โดนเอามาเล่าซ้ำ
ดร.ถนอม กล่าวว่าหลังจากอ่านข่าวมาทุกเว็บไซต์ อันนี้ไม่ใช่ข่าวเก่า แต่เป็นเรื่องจริงที่เปิดเผยโดยเว็บไซต์ Yahoo Finance เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง แต่เป็นการตัดเอาเนื้อหาส่วนหนึ่ง คิโยซากิ พูดในยูทูปของเขา ที่บอกว่าตอนนี้เป็นหนี้อยู่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 41,368,797,000 บาท)
แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า หลักคิดทางการเงินของเขา คือ ‘รวยเพราะเป็นหนี้’ ซึ่งทุกวันนี้เขาไม่ได้พูดว่าเป็นหนี้อะไรบ้าง แต่เขาชอบการลงทุน เพราะไม่ชอบเก็บเงินสด ถ้าใครติดตามตลอดจะรู้ว่า คิโยซากิ แอนตี้การเก็บเงินสด เพราะเป็นสิ่งที่อาจโดนลดมูลค่า จึงนิยมเก็บทรัพย์สินแทนเงินสด จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นหนี้เพื่อเอาเงินมาซื้อ ทรัพย์สิน
เท่าที่รู้ ปัจจุบัน คิโยซากิ มีทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ แร่เงิน ทองคำ ซึ่งเขาไม่ได้ลงทุนในอเมริกาอย่างเดียว แต่ไปลงทุนในจีน ในแอฟริกาด้วย นอกจากนี้เขายังลงทุนกับ ‘เนื้อวากิว’ เนื้อวัวที่อร่อยที่สุดในโลก
ดังนั้นการติดหนี้สิน 4 หมื่นล้าน มันไม่ได้เกี่ยวกับการล้มละลายเลย เพราะเขายังมี ทรัพย์สินอยู่มากมาย
สรุปคือ ตอนนี้ เขายังสบายดีอยู่ ไม่ได้ล้มละลาย ไม่ได้ล้มบนฟูก นักธุรกิจเป็นหนี้คือเรื่องปกติ และเมื่อธนาคารยอมปล่อยให้เขากู้ถึงขนาด 1.2 พันล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่าธนาคารประเมินแล้วว่า เขามีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ และมูลค่าบริษัทในเครือมากกว่าจำนวนหนี้อย่างน้อย 2 เท่าแน่นอน
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมช่วงนี้ถึงมีข่าว คิโยซากิ ล้มละลาย ส่วนตัวคิดว่าบางคนเอาข่าวเก่ามาเล่าใหม่ไม่พอ ยังเอาข่าวที่เพิ่งเกิดต้นปีมาผสมรวมกัน เหมือนการจับแพะชนแกะ พอเอาข้อมูลมารวมกันมันเลยดูเป็นกระแสได้ เพราะ คนระดับโลกจะเป็นหนี้ ล้มละลายได้ไง และคนที่อ่านแค่พาดหัวก็เลยซ้ำเติมกันใหญ่ว่าเขาแย่แล้ว หรือตำหนิว่าเขาเป็นคนเขียนหนังสือการเงินสอนคนอื่นแท้ๆ แต่เป็นหนี้เอง เสียชื่อหมด ซึ่ง ดร.ถนอม ในฐานะที่ติดตาม คิโยซากิ มานาน และศรัทธาเขาประมาณหนึ่ง มองว่าไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไหร่
ดร.ถนอม คนเราทำอะไรไม่มีวันถูกใจทุกคน คนดังที่มีอิทธิพลก็เหมือนกัน มีทั้งคนชื่นชม และคนด่า เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ โรเบิร์ต คิโยซากิ จะถูกโจมตีเรื่องแนวคิดตลอด
แต่สิ่งที่ชอบในตัวเขาคือ ความเด็ดเดี่ยว และยึดมั่นในแนวคิด คิโยซากิเขียนไว้ในหนังสือว่า ให้ครอบครองทรัพย์สินของพระเจ้าเสมอ ซึ่งก็ ‘สินทรัพย์ที่จับต้องได้ (Real Assets) ’ เช่น ที่ดิน บ้าน รถยนต์ทองคำ เครื่องประดับ ตอนที่ คิโยซากิ ชี้ให้เห็นว่าอะไรคือ ‘หนี้สิน’ อะไรคือ ‘ทรัพย์สิน’ ซึ่ง หนี้สิน คือสิ่งที่เอาเงินจากกระเป๋าเรา และไม่ทำให้รวยสักที ทางกลับกัน ‘ทรัพย์สิน’ จะทำให้คุณรวย และเราอาจต้องไปกู้มาเพื่อให้ได้ทรัพย์สินนั้น จึงจะเป็นหนี้ที่ดี ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ ดร.ถนอม กล้าลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์บ้าง จนชีวิตของตนเองเริ่มจะประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกัน ดร.ถนอม ก็มองว่า คิโยซากิ มีแนวคิดสุดโต่งหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ ‘อย่าสอนลูกไปโรงเรียน’ เพราะโรงเรียนสอนให้คุณเป็นลูกจ้าง ซึ่งประเด็นนี้ดูไม่ค่อยน่าทำตามเท่าไหร่ เพราะตนยังมองว่า การศึกษาในระบบยังสำคัญ แม้จะมีคนดังหลายคนไม่ต้องพึ่งโรงเรียนก็มี แต่แค่ส่วนน้อย แต่การศึกษาในโรงเรียนจะทำให้ทุกคนเข้าเบ้าหลอมเดียวกันก่อนเข้าสู่โลกการทำงาน และสิ่งสำคัญนอกจากการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการเรียนเพิ่ม สนใจอะไรก็ไปลงเรียนอันนั้นเสริม ซึ่งทุกวันนี้ตนก็ยังเรียนหาความรู้เพิ่มอยู่เลย
สุดท้าย ดร.ถนอม มองว่า ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ คือ ‘นโปเลียน ฮิลล์ (นักเขียนอเมริกันที่โด่งดังในปี 1937) ’ ของยุคนี้ เพราะเขาเผยแพร่แนวคิดที่เปลี่ยนแปลงคนทั่วโลกได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง