PICU ห้องไอซียูสำหรับเด็ก ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ผู้ปกครองคิด

ลูกคือดวงใจของพ่อแม่ เป็นความรัก ความหวัง และเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต แต่หลายครั้ง พ่อแม่อาจมองข้ามความเสี่ยงด้านสุขภาพของลูก โดยคิดว่าเด็กมักจะแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย จึงไม่ได้พามาพบแพทย์บ่อยนัก

“หากลูกเราดูไม่เหมือนเดิม หอบหายใจแรง หรือแม้แต่มีอาการซึมผิดปกติ ขอให้มาหาหมอตรวจเช็กสักรอบ ดีกว่ามารักษาช้าจนน่าเสียดาย" นี่คือสิ่งที่ พญ. ณธิชา เศรษฐ์ธนา กุมารแพทย์ผู้ชำนาญการ ด้านกุมารเวชศาสตร์เวชบำบัดวิกฤต จาก MedPark Hospital อยากส่งไปถึงผู้ใหญ่ที่มีลูกๆ หลานๆ

เด็กเล็กติดเชื้อในปอดง่ายมาก !

คุณหมอณธิชาเล่าว่า “เราทุกคนมักมีมุมมองเหมือนๆ กันว่าเด็กจะไม่ป่วย หรือต่อให้ป่วยก็ไม่ป่วยหนัก  ทั้งที่ในความเป็นจริง เด็กเล็กยังมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่ายมาก โดยทุกวันนี้โรคที่ทำให้เด็กเล็กต้องมาโรงพยาบาลมากที่สุดคือ ‘โรคปอด’ โดยเกิดจากการติดเชื้อในปอด ไม่ว่าจะเป็นไวรัส RSV ที่ทำให้ระบบทางเดินหายใจเสียหาย และเป็นภัยใกล้ตัวเด็กมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี ไข้หวัดใหญ่ ภัยจากฝุ่น PM 2.5 และอื่นๆ อีกมากมาย”

PICU ห้องไอซีอยูเด็ก 

คุณหมอณธิชาเล่าต่อไปว่า “โรงพยาบาลในปัจจุบันนี้ ปัจจุบันมี ICU เฉพาะสำหรับเด็ก เรียกว่ากว่า PICU (Pediatric Intensive Care Unit) ซึ่งเนื้อแท้มีความใกล้เคียงกับ ICU ของผู้ใหญ่ แต่ PICU จะออกแบบมาเพื่อดูแลเด็ก และรักษาโดยทีมกุมารแพทย์เฉพาะ

เด็กที่ต้องมา PICU จะอยู่ในเงื่อนไข ต้องการแพทย์ดูแลใกล้ชิดหรือ ต้องการช่วยระบบใดระบบหนึ่งของร่างกายเช่น หายใจไม่ไหว หัวใจเสียหาย หรืออยู่ในภาวะช็อก

โรคปอดทำให้เด็กต้องเข้า PICU มากที่สุด? 

คุณหมอณธิชากล่าวว่า “เด็กที่เกิดมาได้ไม่นานจะยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ภูมิคุ้มกัน ต้องรอ 6 เดือนแรกถึงจะมีภูมิคุ้มกันที่ได้จากแม่ และหลังจากนั้นร่างกายของเขาต้องเรียนรู้ที่จะติดเชื้อไวรัส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเอง เพราะฉะนั้นในช่วง 6 เดือน ถึง 2 ปี เป็นช่วงที่เด็กเสี่ยงติดเชื้อง่ายมาก โดยเฉพาะโรคปอดที่ทำให้ต้องเข้า PICU มากที่สุด”

“เราพบว่าฤดูฝน หรือช่วงที่มีฝนประมาณ มิถุนายน – ถึงพฤศจิกายน คือช่วงที่ไวรัสต่างๆ แพร่ระบาดง่ายมาก ซึ่ง สถานที่แพร่เชื้อใส่เด็กเล็กหลักๆ คือ ‘โรงเรียน’ เพราะเด็กไม่ได้ใส่หน้ากากตลอดเวลา และไม่ได้ล้างมือสม่ำเสมอ เวลามีคนไอจามจะเข้าสู่ตัวเด็กได้ง่าย ส่วนอีกสถานที่คือ บ้าน เพราะหลายครั้งเด็กเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจเนื่องจากมีสมาชิกในบ้านสูบบุหรี่”

อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านช่วง 6 เดือน ถึง 2 ปีไปแล้ว เด็กก็ยังมีโอกาสเข้าห้อง PICU จาก อุบัติเหตุรุนแรง ชักจากไข้ หรือโรคอื่นๆ ได้เสมอ

เมื่อลูกต้องเข้า PICU ผู้ปกครองไม่ควรกังวลเกินเหตุ

คุณหมอณธิชาเล่าจากประสบการณ์ทำงานว่า มีบ้างที่ผู้ปกครองตกใจเมื่อหมอบอกว่าลูกต้องรักษาตัวในห้อง PICU เพราะเขาคิดว่า ลูกตัวเองไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้น ยังเห็นลูกนั่งเล่นมือถือและคุยกับพ่อแม่ได้ปกติ แต่ในสายตาของหมอ เราสามารถบอกได้ทันทีที่เห็นว่า เด็กที่ดูปกติ แท้จริงมีอาการหอบหรือหายใจแรงผิดปกติแล้ว เราต้องคุยให้ผู้ปกครองเข้าใจ และจากประสบการณ์การทำงานมา ไม่มีเคสไหนที่ผู้ปกครองปฏิเสธคุณหมอสำเร็จ หากหมอบอกว่าเด็กต้องเข้า PICU ก็ต้องเข้าเท่านั้น 

“ในความเป็นจริง คนเราไม่ต้องอาการหนักมากๆ ถึงจะอยู่ ICU ได้ เพราะต่อให้ป่วยปกติ หลายครั้งก็ต้องรักษาในห้องประเภท ICU เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนป่วยวิกฤติจริงๆ ซึ่งสำหรับคนเป็นหมอ วิธีคลายกังวลคือคุยกับผู้ปกครองแบบจริงจัง ว่าทำไมเด็กถึงต้องเข้ามาอยู่ในห้อง ในห้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง อธิบายแผนผังในห้อง และขั้นตอนการทำงานของหมอให้ชัดเจน เพื่อให้พ่อแม่เกิดความสบายใจมากที่สุด”

เด็กป่วยต้องหาหมอ อย่ารอให้สายเกินไป?

คุณหมอณธิชากล่าวว่า “PICU ของ MedPark Hospital มีการทำงานร่วมกันกับผู้ชำนาญการด้านเด็กอื่น ๆ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น นักโภชนาการ นักกระตุ้นพัฒนาการ นักกายภาพบำบัด นักฝึกพูด จักษุแพทย์เด็ก ทันตแพทย์เด็ก พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด พร้อมทีมพยาบาลเฉพาะทางที่ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและการฟื้นตัวที่ดีที่สุดของเด็กทุกคน นอกจากนี้ ยังมีคลินิกนมแม่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติ (IBCLC Care Awards 2023) ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ และสนับสนุนคุณแม่ทุกขั้นตอน”

หากเป็น ICU ปกติญาติไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ แต่ถ้าเป็น PICU ที่ดูแลเด็ก ญาติสามารถเข้าเยี่ยมในห้องได้ และนอนค้างกับเด็กได้ เราพยายามทำให้ PICU เหมือนบ้านของเด็กมากที่สุด ทั้งตกแต่งห้อง เปิดเพลง มีพยาบาลคอยเล่นกับเด็ก มีการตรวจสัญญาณชีพเด็กแบบเรียลไทม์

“อยากให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตอาการของลูกหลาย ถ้าป่วยให้พามาหาหมอ อย่าคิดว่าเล็กๆ น้อยๆ ไม่เป็นอะไร อย่าปล่อยให้มารักษาช้าเกินไปจนน่าเสียดาย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โรคลิ้นหัวใจ ภัยเงียบที่เป็นได้ทุกวัย ป้องกันก่อนได้เปรียบ ! 
• โนโรไวรัสระบาด น่ากังวลไหม อันตรายแค่ไหน คุยกับ นพ.ธีระวัฒน์ 
• คนไทยมีแนวโน้มป่วย “โรคกระดูกสันหลังและข้อ” สูงขึ้น จากหลายปัจจัย