svasdssvasds

เปิด 12 แนวคิดการลงทุน ผลักดัน "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประสบความสำเร็จ

เปิด 12 แนวคิดการลงทุน ผลักดัน "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประสบความสำเร็จ

เปิด 12 แนวคิดการลงทุนที่ส่งผลทำให้ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประสบความสำเร็จ จากการแยกแยะราคากับคุณค่า การลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ ไปจนถึงการมองระยะยาวและรู้จักต้านทานอารมณ์ตลาด

ทั่วโลกกำลังจับตาการส่งต่อตำแหน่ง CEO เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ จากวอร์เรน บัฟเฟตต์ สู่เกรก อาเบล สิ่งที่จะคงอยู่เหนือกาลเวลา คือปรัชญาการลงทุนที่ทำให้ "เจ้าพ่อแห่งโอมาฮา" กลายเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของโลก เปลี่ยนเงินลงทุนเริ่มต้นให้เติบโตกว่า 5.5 ล้านเปอร์เซ็นต์ในช่วง 60 ปี

บัฟเฟตต์เริ่มต้นเส้นทางนักลงทุนอย่างจริงจังเมื่ออายุเพียง 11 ปี ด้วยการซื้อหุ้นแรกในชีวิต ต่อมาในปี 2508 เขาได้เข้าซื้อกิจการโรงงานทอผ้าที่กำลังประสบปัญหาชื่อ เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ และเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นบริษัทคอนกลอเมอเรตมูลค่ามหาศาลที่เรารู้จักในปัจจุบัน

ความสำเร็จของบัฟเฟตต์มาจากการยึดมั่นในหลักการลงทุนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง หนึ่งในหัวใจสำคัญคือแนวคิด "การลงทุนในคุณค่า" (Value Investing) ที่ได้รับอิทธิพลจากเบนจามิน เกรแฮม นักเศรษฐศาสตร์และปรมาจารย์ของเขา

เปิด 12 แนวคิด หลักการลงทุนพื้นฐานของ "วอร์เรน บัฟเฟตต์"

  1. ราคากับคุณค่า : สองสิ่งที่แตกต่าง

"ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ" เป็นวลีอันโด่งดังที่บัฟเฟตต์มักกล่าวไว้เสมอ เพื่อเตือนนักลงทุนให้แยกแยะระหว่างราคาหุ้นในตลาดกับมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ บัฟเฟตต์ไม่ได้ซื้อหุ้นเพียงเพราะราคาถูก แต่เขามองหาธุรกิจที่มีคุณค่าแท้จริงสูงกว่าราคาที่ต้องจ่าย

อีกวาทะสำคัญที่สะท้อนปรัชญานี้คือ "การซื้อบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม ดีกว่าซื้อบริษัทธรรมดาในราคาที่ถูกมาก" (It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price) แสดงให้เห็นว่าบัฟเฟตต์ให้ความสำคัญกับคุณภาพของธุรกิจมากกว่าความถูกของราคา

   2. คุ้มครองเงินลงทุน : กฎข้อ 1 และข้อ 2

บัฟเฟตต์ย้ำเสมอว่า "กฎข้อที่ 1 คือ อย่าขาดทุน กฎข้อที่ 2 คือ อย่าลืมกฎข้อที่ 1" คำพูดนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการปกป้องเงินลงทุนและการบริหารความเสี่ยง การขาดทุนไม่เพียงแต่ทำให้เสียเงิน แต่ยังทำให้เสียโอกาสในการทบต้นเงินลงทุนในระยะยาว

แนวคิดเรื่อง "ขอบเขตความปลอดภัย" เป็นหลักการสำคัญที่บัฟเฟตต์ยึดถือ เปรียบเทียบว่าเหมือนการขับรถบรรทุกข้ามสะพาน ควรเลือกสะพานที่รับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักรถอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ใช่เพียงพอดี นั่นคือ ควรซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากพอที่จะรองรับความผิดพลาดในการคำนวณหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

   

   3. ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ : วงกลมแห่งความสามารถ

บัฟเฟตต์ยึดมั่นในการลงทุนเฉพาะธุรกิจที่เขาเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ แนวคิด "วงกลมแห่งความสามารถ" คือการรู้ขอบเขตความรู้ของตนเอง และไม่ก้าวออกไปนอกวงนั้น แม้จะมีโอกาสทำกำไรมหาศาล

นี่คือเหตุผลที่บัฟเฟตต์ไม่ได้ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีเป็นเวลานาน เพราะเขายอมรับว่าไม่เข้าใจธุรกิจเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง แม้จะพลาดโอกาสในบริษัทอย่าง Google แต่การไม่ลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงความเสียหายมหาศาลได้หลายครั้ง

ปรัชญาการลงทุนเชิงลึก

   4. มองระยะยาวและอดทน : แนวคิดนักลงทุนมืออาชีพ

บัฟเฟตต์เป็นแบบอย่างของการลงทุนระยะยาว เขามองว่าการซื้อหุ้นคือการเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแค่กระดาษที่ซื้อขายแลกเปลี่ยน "ในระยะสั้น ตลาดคือเครื่องลงคะแนนเสียง แต่ในระยะยาว ตลาดคือเครื่องชั่งน้ำหนัก" สะท้อนความเชื่อว่าในระยะยาว ราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ

บัฟเฟตต์เลือกที่จะถือครองหุ้นในระยะยาวและหลีกเลี่ยงการซื้อขายที่บ่อยครั้งเกินไป ด้วยความเชื่อว่า "ความอดทนคือคุณธรรม" ในโลกของการลงทุน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการถือครองหุ้น Coca-Cola และ American Express เป็นเวลาหลายทศวรรษ

   5. ต้านทานอารมณ์ตลาด : นักลงทุนที่มีเหตุผล

"ให้กลัวเมื่อคนอื่นโลภ และให้โลภเมื่อคนอื่นกลัว" เป็นคำพูดที่แสดงถึงความสามารถของบัฟเฟตต์ในการต้านกระแสและไม่ตกเป็นเหยื่อของอารมณ์หมู่ เขามองว่าวิกฤตตลาดและช่วงเวลาที่ตลาดตกต่ำเป็นโอกาสในการซื้อธุรกิจดีๆ ในราคาที่ถูกลง

บัฟเฟตต์เตือนนักลงทุนให้ระวังการทำตามฝูงชน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพราะทุกคนกำลังซื้อ หรือขายเพราะทุกคนกำลังขาย ในทางตรงกันข้าม เขาแนะนำให้มุ่งเน้นที่การวิเคราะห์คุณค่าของธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงกระแสตลาด

   6. วิเคราะห์ธุรกิจอย่างละเอียด: นักลงทุนตัวจริง

บัฟเฟตต์ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ธุรกิจอย่างละเอียดโดยพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงทางการเงิน

   7. รู้จักเลิกขุด : แก้ไขความผิดพลาด

แม้บัฟเฟตต์จะชอบถือหุ้นตลอดไป แต่เขาก็ยอมรับว่าสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลง เขากล่าวว่า "สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำหากคุณพบว่าตัวเองอยู่ในหลุม คือ หยุดขุด" ซึ่งหมายถึงการยอมรับความผิดพลาดและตัดสินใจขายเมื่อพบว่าพื้นฐานของธุรกิจเปลี่ยนไปในทางลบ

บทเรียนสำหรับชีวิตและธุรกิจ

   8. ความซื่อสัตย์และจริยธรรม : รากฐานความสำเร็จ

บัฟเฟตต์เน้นย้ำความสำคัญของความซื่อสัตย์และจริยธรรมทางธุรกิจ เขากล่าวว่า "ต้องใช้เวลา 20 ปีในการสร้างชื่อเสียง แต่ใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการทำลายมัน" คำเตือนนี้ไม่เพียงสำคัญสำหรับการลงทุน แต่ยังเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและธุรกิจ

   9. วิถีชีวิตเรียบง่าย: บทเรียนส่วนตัว

แม้จะมีทรัพย์สินมหาศาลแต่บัฟเฟตต์ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2501 ในราคาเพียง 31,500 ดอลลาร์ วิถีชีวิตที่เรียบง่ายนี้สะท้อนปรัชญาการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่หลงไปกับความฟุ้งเฟ้อหรือใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย

การอยู่ต่ำกว่าความสามารถทางการเงินทำให้บัฟเฟตต์มีอิสระที่จะตัดสินใจโดยไม่ถูกครอบงำด้วยวัตถุนิยม เขามักกล่าวว่าความสุขไม่ได้มาจากเงินทอง แต่มาจากการทำในสิ่งที่รัก เขาเปรียบเทียบความร่ำรวยที่แท้จริงว่าคือการได้รับความรักจากผู้ที่เรารัก

   10. การศึกษาและการอ่าน : แหล่งที่มาของปัญญา

บัฟเฟตต์เป็นนักอ่านตัวยง เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันในการอ่านรายงานประจำปี บทความทางธุรกิจ และหนังสือต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจในธุรกิจและเศรษฐกิจ

เขามองว่าการเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความรู้เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด บัฟเฟตต์เชื่อว่านักลงทุนควรศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

มรดกทางปัญญาสู่อนาคต

   11. ศรัทธาในอเมริกา : มุมมองเชิงบวก

บัฟเฟตต์มีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในระบบเศรษฐกิจอเมริกา เขามักกล่าวว่า "เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่จะเดิมพันต่อต้านอเมริกาตลอด 240 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเริ่มทำเช่นนั้น" ความเชื่อมั่นนี้สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตระยะยาวของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

แม้จะมีวิกฤตและความผันผวนระยะสั้น แต่บัฟเฟตต์มองว่าในระยะยาว ธุรกิจอเมริกันและตลาดหุ้นจะเติบโตและสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนที่มีความอดทน

   12. สืบทอดปรัชญา : บทเรียนสู่เกรก อาเบล

เมื่อบัฟเฟตต์เตรียมส่งมอบตำแหน่ง CEO ให้กับเกรก อาเบล หลักปรัชญาการลงทุนและแนวคิดเหล่านี้จะยังคงเป็นเข็มทิศนำทางสำหรับเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ อาเบลได้กล่าวไว้ว่าจะสืบทอดปรัชญาการลงทุนที่มีความอดทนและมุ่งเน้นคุณค่าของบัฟเฟตต์

ความท้าทายสำคัญของอาเบลคือการบริหารเงินสดมหาศาลของเบิร์กเชียร์ที่มีมากถึง 347,000 ล้านดอลลาร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยยังคงยึดมั่นในหลักการพื้นฐานที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาตลอด 60 ปี

ที่มา : thansettakij 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related