อินเดียเรียกร้องให้ปากีสถานยุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง หลังการเจรจาไกล่เกลี่ยประสบความสำเร็จไปแล้ว ขณะที่ปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหา
อินเดียและปากีสถานบรรลุข้อตกลง "หยุดยิงทันที" เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังทั้งสองประเทศได้ยกระดับการทหารเพื่อโจมตีอีกฝ่ายมานานหลายวันจนเกิดการนองเลือด ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์การสู้รบจะถูกกระตุ้นให้กลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ปี 1947
โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในฐานะตัวกลางที่สำคัญในการไกล่เกลี่ย ได้โพสต์ข้อความว่า “หลังจากการเจรจายาวนานตลอดทั้งคืนโดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง ผมรู้สึกยินดีที่จะประกาศว่าอินเดียและปากีสถานได้ตกลงที่จะยุติการยิงกันอย่างสมบูรณ์แบบในทันที และขอแสดงความยินดีกับทั้งสองประเทศที่ใช้สามัญสำนึกและสติปัญญาอันยิ่งใหญ่ในการยุติปัญหา”
อย่างไรก็ตาม ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง มีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นในเมืองและหมู่บ้านตามแนวชายแดน มีผู้พบเห็นการยิงปืนใหญ่และโดรนโจมตีในชัมมูและแคชเมียร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการสู้รบ ขณะที่เสียงระเบิดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศยังคงดังสนั่นในเมืองต่างๆ
นายวิกรม มีศรี รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย กล่าวในการแถลงข่าวว่า ปากีสถานได้ละเมิดข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศเพิ่งบรรลุร่วมกันในช่วงเช้าที่ผ่านมา และกองทัพอินเดียได้รับคำสั่งให้ "จัดการอย่าเด็ดขาด" หากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำรอย พร้อมเรียกร้องให้ปากีสถานเรียกร้องให้ปากีสถานดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความจริงจังและความรับผิดชอบ
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของปากีสถานได้ออกมาตอบโต้ โดยระบุว่า ปากีสถานยึดมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังของพวกเขากำลังจัดการกับสถานการณ์นี้ด้วยความรับผิดชอบและความอดทน และกล่าวโทษอินเดียว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ แม้จะมีการสงบศึก แต่แหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า มาตรการตอบโต้ปากีสถานที่ประกาศโดยอินเดีย เช่น การระงับการค้าและการยกเลิกวีซ่า จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปในตอนนี้
อินเดียและปากีสถานมีข้อพิพาทเรื่องการครออบครอง 'แคชเมียร์' มาตั้งแต่ช่วงปลายการปกครองอาณานิคมของอังกฤษในปี 1947 โดยอินเดียซึ่งมีชาวฮินดูเป็นส่วนใหญ่และปากีสถานซึ่งเป็นมุสลิมต่างก็ปกครองแคชเมียร์เพียงบางส่วน แต่พยายามอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทั้งหมด
ที่ผ่านมาพวกเขาได้ทำสงครามกันไปแล้วสามครั้ง และยังเกิดการสู้รบเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายครั้ง โดยอินเดียกล่าวโทษปากีสถานว่าเป็นต้นเหตุของการก่อความไม่สงบในพื้นที่แคชเมียร์ของอินเดียตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นคน และกล่าวโทษกลุ่มก่อการร้ายอิสลามในปากีสถานว่าเป็นต้นเหตุของการโจมตีในพื้นที่อื่นๆ ในอินเดียด้วย
ขณะที่ปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งสองข้อมาโดยตลอด โดยระบุว่าปากีสถานให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวแคชเมียร์เพียงในด้านศีลธรรม การเมือง และการทูตเท่านั้น