ไขข้อข้องใจทุกประเด็น กยศ. ทั้งการลดดอกเบี้ยจาก 7.5% เหลือ 1%, การคำนวณหนี้ใหม่ 3.8 ล้านบัญชีได้ประโยชน์, วิธีแก้ปัญหาถูกหักเงินเดือน 3,000 บาท และมาตรการลดหย่อนหนี้ 5-10% เพื่อปิดบัญชี
เป็นที่ทราบกันดีว่ากฎหมายใหม่ของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2566 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายประการที่ส่งผลต่อผู้กู้ยืม ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การปรับลำดับการชำระหนี้ และการคำนวณหนี้ใหม่ (Recal) ซึ่งคุณควรรู้ว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อยอดหนี้ของคุณ
กยศ. ได้ดำเนินการคำนวณหนี้นอกระบบ (Recal) เสร็จสิ้นแล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 มีบัญชีทั้งสิ้น 3.8 ล้านบัญชี แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
ปัจจุบันผู้กู้อาจพบว่ายอดหนี้ที่แสดงใน Mobile Application และ Website ของ กยศ. ไม่ตรงกัน
ทั้งนี้ หลังคำนวณหนี้โดยระบบเสร็จสมบูรณ์ภายในกรกฎาคม 2568 จะมีการปรับปรุงยอดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ให้ตรงกัน
จากกรณีตัวอย่างจริง ผู้กู้ยืมที่มาขอปรับโครงสร้างหนี้ในเดือนเมษายน 2568 พบว่ายอดหนี้เดิม 279,445 บาท (ชำระต่อเดือน 1,620 บาท + ถูกหักเพิ่ม 3,000 บาท) เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ยอดหนี้ลดลงเหลือ 84,959 บาท (ชำระต่อเดือนเพียง 480 บาท)
กยศ. ได้ออกมาตรการลดหย่อนหนี้เพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้กู้ยืม โดยใช้ยอด Recal ณ 30 ก.ย. 67 เป็นยอดหนี้ตั้งต้น ผู้กู้จะได้รับส่วนลดต้นเงิน 5-10% และส่วนลดเบี้ยปรับ 100% เมื่อชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
ลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่ studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2568
ผู้กู้ยืมที่ยังอยู่ในช่วงปลอดหนี้ (ไม่เกิน 2 ปี หลังเรียนจบ)
ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระ (กยศ. ยังไม่ฟ้องคดี)
เมื่อผู้กู้ยืมชำระหนี้ปิดบัญชีพร้อมรับส่วนลดแล้ว กองทุนฯ จะดำเนินการสรุปยอดเงิน และคำนวณส่วนลดให้ตามมาตรการ จากนั้นจะคืนเงินส่วนลดผ่านระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืม ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน หลังจากสิ้นสุดมาตรการ
ที่มา : กยศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง