svasdssvasds

เดินหน้าปฏิรูประบบภาษีไทย สู่...ภาษีอัจฉริยะ-ภาษีดิจิทัล มุ่งเป็นมิตรการค้ายุคใหม่

เดินหน้าปฏิรูประบบภาษีไทย สู่...ภาษีอัจฉริยะ-ภาษีดิจิทัล มุ่งเป็นมิตรการค้ายุคใหม่

ประเทศไทยเดินหน้าปฏิรูประบบภาษีไทย สู่...ภาษีอัจฉริยะ-ภาษีดิจิทัล มุ่งเป็นมิตรการค้ายุคใหม่

ประเทศไทยของเรามีรายได้เข้ารัฐ และนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ส่วนหนึ่งมาจากการเก็บภาษีในรูปแบบต่างๆ ซึ่งตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันไทยมีการจัดเก็บภาษีมายาวนานแล้ว แต่…การจัดเก็บภาษี และรูปแบบ กระบวนการต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย อย่างเช่นในปัจจุบันโลกของการค้า และการใช้ชีวิตผู้คนเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น แต่ยังไม่เต็มรูปแบบ 100 % จึงทำให้มีการพัฒนา และเดินหน้าปฏิรูประบบภาษีไทย สู่...ภาษีอัจฉริยะ และภาษีดิจิทัล ให้เป็นไปตามเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไป

สำหรับแนวทางการปฏิรูประบบภาษีในไทย โดยใช้เทคโนโลยี ซึ่งก็เป็นแนวทางที่หลายประเทศดำเนินการอยู่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สามารถสรุปแนวทางการปฏิรูประบบภาษีโดยใช้เทคโนโลยี ได้ดังนี้

  • มีการจัดตั้งระบบภาษีดิจิทัล (Digital Tax System)

-ไทยได้มีการพัฒนาระบบออนไลน์แบบครบวงจร เช่น ระบบ e-Tax, e-Filing, และ e-Payment ให้ผู้เสียภาษียื่นแบบและชำระภาษีได้ทุกที่ ทุกเวลา

-มีการใช้แอปพลิเคชันมือถือ หรือเว็บไซต์กลาง ที่ใช้งานง่าย มีระบบแนะนำและตรวจสอบความถูกต้องอัตโนมัติ

  • มีการใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์ข้อมูลภาษี

-โดยจะมีการตรวจสอบความผิดปกติหรือพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษีโดยอัตโนมัติ

-รัฐสามารถวางแผนการจัดเก็บรายได้จากภาษีอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐ

-สามารถรวมข้อมูลรายได้จากแหล่งต่างๆ อย่างเช่น กรมสรรพากร, ประกันสังคม, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฯลฯ) เพื่อใช้ในการประเมินภาษีได้แม่นยำ

  • ระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)

-สนับสนุนให้ภาคธุรกิจออกใบกำกับภาษีในรูปแบบดิจิทัล ช่วยลดภาระเอกสาร

-เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจสอบและนำส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรแบบเรียลไทม์

  • ระบบช่วยคำนวณภาษีอัตโนมัติ

-ใช้เป็นเครื่องมือออนไลน์ช่วยคำนวณภาษีตามข้อมูลรายได้ ค่าใช้จ่าย และสิทธิประโยชน์ที่สามารถหักลดหย่อน

-เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดข้อผิดพลาดจากการกรอกข้อมูล

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าการการที่ประเทศไทยเดินหน้าปฏิรูประบบภาษีไทย สู่...ภาษีอัจริยะ-ภาษีดิจิทัล แล้วเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประโยชน์ต่อรัฐ อย่างไรบ้าง คำตอบ คือ

  • ประโยชน์ต่อรัฐบาล

-ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี

-ช่วยลดการรั่วไหลของรายได้ภาษี

-ช่วยให้สามารถติดตาม ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจทางนโยบายได้แม่นยำขึ้น

  • ประโยชน์ประชาชน

-คนไทยสามารภเสียภาษีง่ายขึ้น และเข้าใจระบบภาษีมากขึ้น

-ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

-ช่วยลดความเสี่ยงจากการกรอกข้อมูลผิด หรือถูกปรับ

อย่างไรก็ตามในทุกวันนี้ประเทศไทยได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการจัดเก็บภาษี ซึ่งช่วยให้ภาครัฐสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นระบบและโปร่งใสยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • ระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางออนไลน์ได้สะดวกและรวดเร็ว
  • ระบบ e-Withholding Tax ซึ่งเป็นการหักภาษี ณ ที่จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลดขั้นตอนการจัดทำเอกสารและเพิ่มความโปร่งใส
  • การใช้ Big Data และ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี และเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ

ต่อมาจะพามาทำความรู้จักระบบ e-Tax และ e-Receipt  มันคือ ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาโดยกรมสรรพากรของประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ สามารถจัดทำและส่งข้อมูลภาษีได้ผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งช่วยลดภาระงาน ลดขั้นตอน และเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินการทางภาษี สามารถแยกรายละเอียดเป็น 2 ส่วนดังนี้

  • e-Tax Invoice (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์)

คือ ใบกำกับภาษีรูปแบบดิจิทัล ที่สามารถจัดทำ จัดส่ง และเก็บรักษาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษ โดยเป็นเอกสารที่มีลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) , จัดทำและส่งให้คู่ค้าแบบออนไลน์ , ลดความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลและการตรวจสอบ

  • e-Receipt (ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์)

คือ ใบเสร็จที่ออกโดยผู้ขายให้ผู้ซื้อในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถใช้ประกอบการบันทึกบัญชีและยื่นภาษีได้เช่นเดียวกับใบเสร็จปกติ ข้อดี คือ จัดเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ , ช่วยลดต้นทุนด้านเอกสารและการจัดเก็บ , ป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร

สำหรับประโยชน์ของระบบ e-Tax & e-Receipt มี 5 ประการ ดังนี้

1.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้กระดาษ

2.สามารถรองรับการตรวจสอบย้อนหลัง และใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้

3.ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้ง่าย ลดโอกาสในการหลีกเลี่ยงภาษี

4.ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว ในการส่งมอบข้อมูลภาษี

และ5. ช่วยลดภาระและต้นทุน ในการจัดพิมพ์ เก็บเอกสาร และจัดส่งเอกสารทางกายภาพ

นอกจากนี้ในส่วนของกรมสรรพากรกำลังเดินหน้านำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการตรวจสอบภาษีอย่างลึกซึ้ง เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของรัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลางที่อาจมีความยุ่งยากในการทำบัญชีและภาษี โดยกรมสรรพากรได้พัฒนาระบบ AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เพื่อประเมินรายได้ของผู้ประกอบการ เทคนิคเช่น Web Scraping ถูกนำมาใช้ในการดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ตามรูปแบบที่กำหนด เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลราคาและประเภทสินค้าที่ค้าขายผ่านเว็บไซต์

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการใช้ข้อมูลจากสถาบันการเงินที่ต้องนำส่งให้กรมสรรพากรตามกฎหมาย เช่น ข้อมูลบัญชีเงินฝากที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีจำนวนมาก เพื่อประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่นๆ และตรวจสอบว่าผู้มีรายได้ได้ยื่นภาษีถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามกรมสรรพากร ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาแพลตฟอร์ม AI สัญชาติไทย เพื่อยกระดับการบริการผู้เสียภาษีด้วยดิจิทัล แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นภาษีได้ถูกต้องและสะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความผิดพลาดและถูกเก็บภาษีย้อนหลัง

มาดูกันที่กรมสรรพสามิต ที่มีการเปิดตัว "น้องสมิตต์" ซึ่งเป็น Generative AI ที่ช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลด้านภาษีสรรพสามิต ระบบนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและประชาชนในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต คู่มือประชาชน และข้อหารือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สุดท้ายมาดูกันที่มาตรการภาษีที่เป็นมิตรกับธุรกิจยุคใหม่  ยกตัวอย่างเช่น อีคอมเมิร์ซ และคริปโตเคอร์เรนซี ควรออกแบบให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจดิจิทัล และสนับสนุนการเติบโตของนวัตกรรม โดยไม่สร้างภาระเกินควรให้กับผู้ประกอบการรายย่อย หรือ Startup  ทั้งนี้สามารถพิจารณาแนวทางได้ดังนี้

  • ภาษีอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Tax)

-ระบบภาษีที่โปร่งใสและง่ายต่อการปฏิบัติ

- เกณฑ์ภาษีที่ยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจรายย่อย

-เก็บภาษีจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ

  • ภาษีคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Tax)

-จัดหมวดหมู่สินทรัพย์ดิจิทัลให้ชัดเจน แยกประเภทคริปโตเป็น 3 กลุ่ม คือ เหรียญที่ทำหน้าที่เป็นเงิน ,เหรียญ Utility Token , เหรียญเพื่อการลงทุน

-ภาษีที่เหมาะสมกับนักลงทุนรายย่อย

-สร้างระบบรายงานข้อมูลจาก Exchange

-สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี

ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี นวัตกรรม สำคัญมากๆกับการทำงานในยุคปัจจุบัน เพราะจะช่วยให้รัฐทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ ลดการผิดพลาด เข้าถึงประชาชนได้จำนวนมาก การเดินหน้าปฏิรูประบบภาษีไทย สู่...ภาษีอัจฉริยะ-ภาษีดิจิทัล ที่มุ่งเป็นมิตรการค้ายุคใหม่ คือ อีกหนึ่งพันธกิจที่กระทรวงการคลังกำลังทำอยู่!
 

related