svasdssvasds

เปิดข้อมูล "องค์กรโปร่งใส" หวั่นกาสิโนเปลี่ยนไทยจากเทาเข้มเป็นดำ

เปิดข้อมูล "องค์กรโปร่งใส" หวั่นกาสิโนเปลี่ยนไทยจากเทาเข้มเป็นดำ

นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ กางข้อมูล "องค์กรโปร่งใสนานาชาติ" จัดไทยอันดับ 107 จาก 180 ประเทศ เตือนหากรัฐดันกาสิโน อาจเปลี่ยนไทยจากสีเทาเข้มเป็นสีดำในไม่ช้า

วันที่ 25 พ.ค. 68 รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความกังวลต่อท่าทีของรัฐบาลในการเดินหน้าโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย

โดยอาจารย์ชิดตะวันชี้ว่า แม้แนวทางดังกล่าวจะได้รับการเปรียบเทียบกับโมเดลของสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา แต่ข้อเท็จจริงเชิงโครงสร้างและบริบทด้านความโปร่งใสนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ อ้างอิงตามรายงานของ “องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ” (Transparency International) ปี 2567 ระบุว่า ประเทศสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกาได้รับการจัดอันดับด้านการควบคุมการทุจริตเป็นอันดับที่ 3 และ 28 ของโลกตามลำดับ ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 107 จากทั้งหมด 180 ประเทศทั่วโลก สะท้อนถึงระดับ “สีเทาเข้ม” ในเชิงธรรมาภิบาลและการบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐ

ประเทศที่มีโครงสร้างธรรมาภิบาลเข้มแข็งอย่างสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา แม้จะมีธุรกิจสีเทาเช่นกาสิโนดำเนินการอยู่ ก็ยังสามารถรักษาระดับประเทศ “สีขาว” ได้ ด้วยกลไกควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ตรงกันข้ามกับประเทศไทยที่มีข้อจำกัดในด้านการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการนำไปสู่ปัญหาการฟอกเงิน อาชญากรรมข้ามชาติ และกระทบต่อภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ

โดยในปี 2567 มีรายงานกรณีฟอกเงินครั้งใหญ่ในรีสอร์ตครบวงจรแห่งหนึ่งในลาสเวกัส สหรัฐฯ ซึ่งพบว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกาสิโนชื่อดังมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดอย่างเป็นระบบ เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าธุรกิจลักษณะนี้ยังคงมีความ “เทา” อยู่ในตัว แม้ในประเทศพัฒนาแล้ว

รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่รัฐบาลเปิดรับผู้บริหารบริษัทกาสิโนต่างประเทศเข้าหารือ ก่อนที่ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา อาจเป็นการเร่งรัดโดยขาดกระบวนการตรวจสอบและการมีส่วนร่วมจากสาธารณะ พร้อมชี้ว่าความพยายามผลักดันธุรกิจสีเทาในบริบทของประเทศที่ยังไม่สามารถควบคุมการทุจริตได้ดีพอ อาจเร่งให้ไทยกลายเป็น “ประเทศสีดำ” ในสายตาสังคมโลก

นักวิชาการยังอ้างถึงรายงานจากสื่อต่างประเทศที่ระบุว่า การขยายระยะเวลาพำนักในไทยของนักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องขอวีซ่า จาก 30 วันเป็น 60 วัน กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ไทยกลายเป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายในอาเซียน นอกจากนี้ การละเลยหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บางกลุ่มยังเชื่อมโยงกับปัญหาการค้ามนุษย์และความไม่ปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

“สิ่งที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงความห่วงใยนั้น คือข้อเสนอจากผู้มีความรู้และความหวังดีต่อประเทศ ไม่ควรถูกปฏิเสธด้วยคำพูดเชิงอารมณ์ รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ในการทบทวนนโยบาย เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมวิกฤตความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตานานาชาติ”

ที่มา : thansettakij

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related