SHORT CUT
เปิดจำนวนนายพลกัมพูชา มีประมาณ 3,000 คน จำนวนนายพลไทยแทบเทียบไม่ติด! กัมพูชามีอัตราส่วนนายพล 1 คน ต่อทหารแค่ 74 คน เท่านั้น
ท่ามกลางกระแสความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชาในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ประเด็นเรื่อง "วัดความแข็งแกร่งทางทหาร" กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง มีทั้งการเปรียบเทียบกำลังทางบก ทางอากาศ ทางเรือ ไปจนถึงความทันสมัยของยุทโธปกรณ์ หากเกิดการรบขึ้น
สำหรับเรื่องนี้ SPRiNG ก็สนใจเหมือนกัน แต่เราสนใจในแง่ของ “จำนวนนายพล” เคยสงสัยไหมว่าเพื่อนบ้านของเราอย่างกัมพูชา มีนายพลกี่คน? เยอะกว่าบ้านเราหรือเปล่า?
อ้างอิงจากเว็บไซต์ Army Recognition ระบุว่า กัมพูชามีนายพลประมาณ 3,000 คน ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนนายพลสูงที่สุดในโลก และเมื่อเทียบกับขนาดกองทัพกัมพูชา ที่มีทหารราว 221,000 คน จะทำให้กัมพูชามีอัตราส่วนนายพล 1 คน ต่อทหารเพียง 74 คน โดยเฉลี่ย
สาเหตุที่กัมพูชามีนายพลมากผิดปกตินั้น นักวิเคราะห์เชื่อว่า นายพลจำนวนมากเป็นลูกหลานของผู้มีอำนาจ และตำแหน่งนายพลสามารถ “ซื้อได้” ด้วยราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการ “ผลิตนายพล” อย่างล้นเกิน โดยไม่มีระบบคัดกรองตามคุณวุฒิหรือภารกิจทางทหารจริง
ท้ายที่สุด กองทัพจึงกลายเป็นเหมือนกลไกทางการเมือง มากกว่าจะเป็นสถาบันความมั่นคงที่แยกจากการเมืองอย่างมืออาชีพ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน เคยประกาศแผนปฏิรูปกองทัพ โดยจะลดจำนวน "นายพล" ลง เพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนของหน้าที่ภายในกองทัพ ตามรายงานของสำนักข่าว VOA
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 3,000 คนนั้นเป็นข้อมูลจากปี 2019 ซึ่งในปัจจุบันจำนวนนายพลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่กัมพูชามีนายพลเกินความจำเป็น ฝั่งไทยกลับเป็นอีกขั้วหนึ่ง ที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขชัดเจน โดยอ้างว่าเป็น "ข้อมูลลับ" ที่หากเปิดเผยจะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
แต่ข้อมูลจากปี 2015 เคยเผยว่ากองทัพไทยมีนายพลทะลุ 1,000 คนแล้ว และในช่วงหลัง กระทรวงกลาโหมได้ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2571 จะลดจำนวนลง 50% โดยเฉพาะตำแหน่ง “ผู้ทรงคุณวุฒิ” และ “ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ” รวมถึงนายทหารสายปฏิบัติการ เพื่อปรับโครงสร้างกองทัพให้เหมาะสมกับภารกิจจริง
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรานำตัวเลขมาเปรียบเทียบกันไม่ใช่เพื่อแข่งขัน แต่เพื่อชวนตั้งคำถามว่า “จำนวนยศสูงสะท้อนประสิทธิภาพจริงหรือไม่?” เพราะในโลกปัจจุบัน ความมั่นคงไม่ใช่แค่เรื่องจำนวน แต่คือการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส !