svasdssvasds

“ศึกษิษฎ์” ดัน Entertainment Complex โมเดลใหม่ สร้างเศรษฐกิจ

“ศึกษิษฎ์” ดัน Entertainment Complex โมเดลใหม่ สร้างเศรษฐกิจ

“ศึกษิษฎ์” ชู Entertainment Complex ไม่ใช่แค่คาสิโน แต่คือเมืองแห่งความบันเทิง นวัตกรรม และโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย

SHORT CUT

  • เป้าหมายและองค์ประกอบ: โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะสร้าง "เมืองแห่งประสบการณ์" ซึ่งจะประกอบไปด้วยคาสิโน, สถานที่จัดคอนเสิร์ตนานาชาติ, ศูนย์ประชุมระดับโลก, สวนสนุก, โรงแรมหรู และศูนย์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติไปสู่การเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับโลก
  • รูปแบบการลงทุนและการควบคุม: จะใช้รูปแบบที่คล้ายกับสิงคโปร์ โดยบริษัทเอกชนจะเป็นผู้ลงทุน (คาดการณ์วงเงิน 100,000–300,000 ล้านบาท) ในขณะที่รัฐบาลมีหน้าที่กำกับดูแลและจัดเก็บภาษี นอกจากนี้ จะมีการใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาทางสังคม เช่น ระบบคัดกรองผู้เข้าใช้, บัญชีดำ, การตรวจสอบกลุ่มเสี่ยง, กล้องวงจรปิด และระบบติดตามธุรกรรมระหว่างประเทศ
  • ผลประโยชน์และผลกระทบทางเศรษฐกิจ: โครงการนี้คาดว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 20% ต่อปี สร้างรายได้กว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี เพิ่ม GDP ได้ 1–2% และสร้างงานได้หลายหมื่นตำแหน่ง รายได้จากภาษีและใบอนุญาตจะถูกนำกลับไปใช้พัฒนาสังคมในด้านการศึกษา, การวิจัย, การบำบัดผู้ติดการพนัน และบริการสาธารณะต่างๆ

“ศึกษิษฎ์” ชู Entertainment Complex ไม่ใช่แค่คาสิโน แต่คือเมืองแห่งความบันเทิง นวัตกรรม และโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย

ท่ามกลางการถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ “Entertainment Complex” หรือ “สถานบันเทิงครบวงจร” ในไทย หนึ่งในเสียงสำคัญที่แสดงทิศทางอย่างชัดเจนคือ นายศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่า โครงการนี้ไม่ใช่การเปิดบ่อนเสรี แต่คือ “แอสเซตใหม่ของเศรษฐกิจไทย” ที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และการควบคุมอย่างเข้มงวด

เดินตามโมเดลสิงคโปร์ รัฐควบคุม เอกชนลงทุน 100%

บนเวทีเสวนา "Entertainment Complex: ทางเลือกใหม่เศรษฐกิจ หรือความเสี่ยงของสังคม?" เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2568 นายศึกษิษฎ์ย้ำชัดว่า ไทยจะไม่เปิด “บ่อนเสรี” ไม่เอาคาสิโนออนไลน์ และไม่สนับสนุนการพนันไร้ขอบเขต แต่จะยึดแนวทางแบบสิงคโปร์ ที่จำกัดใบอนุญาต เปิดให้เอกชนลงทุนเต็มที่ ขณะที่รัฐทำหน้าที่กำกับ ควบคุม และจัดเก็บภาษีอย่างเข้มงวด

ลงทุนเอกชน 1–3 แสนล้าน รัฐไม่ควักงบ แต่ได้ประโยชน์

คาดว่ามูลค่าการลงทุนรวมจะสูงถึง 100,000–300,000 ล้านบาท โดยไม่ใช้เงินภาครัฐ แต่ผลตอบแทนจะสะท้อนผ่านรายได้ภาษี การจ้างงาน และการเติบโตของเศรษฐกิจในวงกว้าง

ระบบคุมเข้ม ป้องกันปัญหาสังคม

  • รัฐบาลเตรียมระบบป้องกันความเสี่ยงไว้อย่างรัดกุม เช่น
  • Self-Exclusion ให้บุคคลสมัครใจห้ามตัวเองเข้าพื้นที่
  • Blacklist ครอบครัว เปิดทางให้สมาชิกในบ้านยื่นห้ามไม่ให้บางคนใช้บริการ
  • คัดกรองกลุ่มเสี่ยง เช่น คนมีหนี้สินเรื้อรัง เยาวชน
  • CCTV ทุกตารางเมตร
  • ระบบตรวจสอบธุรกรรมการเงินระดับสากล ป้องกันฟอกเงินและอาชญากรรม

“ศึกษิษฎ์” ดัน Entertainment Complex โมเดลใหม่ สร้างเศรษฐกิจ

เปลี่ยนไทยจากเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ สู่ "เมืองประสบการณ์ระดับโลก"

Entertainment Complex ที่รัฐบาลผลักดันจะเป็นมากกว่าคาสิโน แต่คือ “เมืองแห่งประสบการณ์” ที่รวมคอนเสิร์ตระดับนานาชาติ ศูนย์ประชุมระดับโลก สวนสนุก โรงแรมหรู ร้านอาหารระดับโลก พื้นที่ค้าปลีก พิพิธภัณฑ์นวัตกรรม และศูนย์สตาร์ทอัพ เพื่อให้ไทยกลายเป็น “man-made destination” ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน

ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มจีดีพี สร้างงานนับหมื่นตำแหน่ง

นายศึกษิษฎ์ระบุว่า โครงการนี้จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 20% ต่อปี สร้างรายได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี และช่วยผลักดัน GDP โตขึ้นอีก 1–2% พร้อมสร้างงานครอบคลุมทั้งแรงงานทั่วไปและแรงงานทักษะสูง

กลไก “Earmark” คืนรายได้สู่สังคม

รัฐบาลจะใช้กลไก “Earmark” กำหนดให้รายได้จากภาษีและใบอนุญาตถูกส่งคืนสู่สังคม ผ่านการศึกษา การวิจัย การเยียวยาปัญหาการพนัน และการลงทุนในบริการสาธารณะ หาก กมธ. เสนอมาตรการเพิ่ม รัฐบาลพร้อมบรรจุไว้ในกฎหมาย

"ประเทศไทยต้องมีแอสเซตใหม่"

“ถ้าเราไม่สร้าง man-made destination รายได้จากการท่องเที่ยวจะหยุดนิ่ง เราไม่ได้ต้องการแค่ที่เล่น แต่ต้องการพื้นที่ประสบการณ์ระดับโลกที่คนไทยเข้าถึงได้ และเด็กไทยได้เรียนรู้ เติบโตเป็นพลเมืองโลก” นายศึกษิษฎ์ทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related