อ่านหนังสือวันละนิด ช่วยให้สุขภาพดีและอายุยืน แต่คนเรากลับอ่านน้อยลงเรื่อย ๆ

ในยุคที่หน้าจอกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จึงง่ายมากที่ "หน้ากระดาษ" จะหายไปจากมือเราเรื่อยๆ แม้ว่าการอ่านหนังสือเพื่อความเพลิดเพลินจะมีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่การบำบัดจิตใจ ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ส่งเสริมความสำเร็จด้านการเรียนและอาชีพ ลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม ไปจนถึงอายุที่ยืนยาวขึ้น

งานวิจัยล่าสุดโดย Jessica Bone และทีมจาก University College London ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของชาวอเมริกันกว่า 236,000 คนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยใช้ข้อมูลจาก American Time Use Survey ระหว่างปี 2003–2023 พบว่าสัดส่วนของผู้ที่อ่านหนังสือเพื่อความเพลิดเพลินในแต่ละวันลดลงเฉลี่ย 2% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มคนผิวดำ ผู้มีรายได้น้อย การศึกษาต่ำ อาศัยนอกเมือง และผู้พิการ

แม้ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุ แต่ทีมวิจัยสันนิษฐานว่าเวลาและความสนใจของผู้คนถูกเบี่ยงเบนไปยังโซเชียลมีเดียและบริการสตรีมมิ่งมากขึ้น ซึ่งกำลังเป็นความบันเทิงทางเลือกที่แย่งชิงพื้นที่ของหนังสือในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวดี  ในหมู่คนที่ยังคงอ่านหนังสือ เวลาที่ใช้กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากเฉลี่ย 1 ชั่วโมง 20 นาทีในปี 2003 เป็น 1 ชั่วโมง 31 นาทีในปี 2023 ขณะที่พฤติกรรมการอ่านหนังสือกับเด็กยังคงเสถียรตลอดสองทศวรรษ

แม้จะมีหลักฐานมากมายว่าการอ่านเพื่อความเพลิดเพลินส่งผลดีต่อทั้งสมองและหัวใจ แต่วิถีชีวิตยุคใหม่กลับผลักให้พฤติกรรมนี้ถอยห่างออกไปอย่างช้า ๆ เรื่องนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์ แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษานิสัยเล็ก ๆ ที่มีคุณค่าในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าอย่างไม่หยุดหย่อน หากเราไม่หันกลับมาให้ความสำคัญกับ “เวลาเงียบ ๆ กับหนังสือ” พลังเยียวยาอย่างเงียบงันของการอ่าน อาจกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืมไปตลอดกาล

ที่มา : newscientist

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• “บริการเงียบ” กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น กฎงดพูดคุยกับลูกค้า 
• Cheer Re-Man’s กลุ่มหนุ่มออฟฟิศญี่ปุ่นที่เต้นระบายความเครียด ! 
• ‘อาหารญี่ปุ่น’ทูตวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม เรียบง่าย แต่มีมนต์เสน่ห์