svasdssvasds

“บริการเงียบ” กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น กฎงดพูดคุยกับลูกค้า

“บริการเงียบ” กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น กฎงดพูดคุยกับลูกค้า

“บริการเงียบ” กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น เพราะไม่ใช่ทุกคนอยากคุยขณะตัดผม ซื้อของ หรือนั่งแท็กซี่ โลกที่เข้าใจคนไม่ชอบคุย เริ่มก่อตัวขึ้นจริงจังในญี่ปุ่น

SHORT CUT

  • บริการลดการสนทนา: ธุรกิจหลายแห่ง เช่น ร้านทำผม (Hair Works Credo) มีตัวเลือกให้ลูกค้าเลือกระดับการสนทนากับช่าง ตั้งแต่ "คุยปกติ" ไปจนถึง "ไม่คุยเลย" รวมถึงบริการแท็กซี่ที่พนักงานขับรถแต่งกายเป็นตัวละครเงียบๆ เพื่อลดการพูดคุยโดยตรง
  • นวัตกรรมลดการติดต่อ: ร้านค้าต่างๆ นำนวัตกรรมมาใช้เพื่อลดการติดต่อระหว่างลูกค้าและพนักงาน เช่น ร้านเสื้อผ้า Urban Research ที่มีถุงช้อปปิ้งที่ส่งสัญญาณว่าลูกค้าไม่ต้องการให้พนักงานเข้าหา หรือร้านซูชิ Kura Sushi ที่ลูกค้าสามารถสั่งและชำระเงินผ่านมือถือได้เอง
  • ความต้องการที่เพิ่มขึ้น: แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการบางประเภท เช่น "Kuroko Taxi" แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการที่ลดการปฏิสัมพันธ์ ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตและความชอบของคนญี่ปุ่นในปัจจุบัน

“บริการเงียบ” กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น เพราะไม่ใช่ทุกคนอยากคุยขณะตัดผม ซื้อของ หรือนั่งแท็กซี่ โลกที่เข้าใจคนไม่ชอบคุย เริ่มก่อตัวขึ้นจริงจังในญี่ปุ่น

ลองนึกภาพตอนนั่งอยู่บนแทกซี่แล้วเจอคนขับขี้คุย  คุณไม่สามารถลุกหนีได้ และก็ต้องฝืนยิ้มคุยแม้ในวันที่ไม่อยากพูดกับใคร ที่ญี่ปุ่นจึงมีการแก้ปัญหานี้เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการความเงียบพึงพอใจ

ในญี่ปุ่น บริการที่หลีกเลี่ยงการพูดคุยเล็กๆ (small talk) เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งในร้านตัดผม แท็กซี่ ร้านอาหาร ไปจนถึงร้านเสื้อผ้า ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเข้าสังคมมากเกินไป

ที่ร้าน Hair Works Credo ในย่านเซตะกะยะ โตเกียว ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะให้ช่างคุยกับตนมากน้อยแค่ไหน มีตั้งแต่ “พูดปกติ” “พูดน้อย” ไปจนถึง “ไม่พูดเลย” หลังจากพูดคุยเบื้องต้น บริการก็จะเข้าสู่โหมดเงียบ

ทาคาฮิโระ โนกุจิ เจ้าของร้าน เล่าว่า เขาเริ่มให้บริการแบบนี้ตั้งแต่ปี 2014 หลังจากได้อ่านข่าวเกี่ยวกับ “เก้าอี้เงียบ” และห้อง VIP ในร้านทำผมที่อังกฤษ ตอนแรกเขาคิดว่าลูกค้าจะเป็นพวกขี้อายหรือเข้าสังคมไม่เก่ง แต่จริงๆ แล้ว หลายคนแค่อยากมีวันเงียบๆ บ้าง

ปัจจุบัน 60% ของลูกค้าที่จองผ่านระบบออนไลน์เลือกบริการแบบ “พูดน้อย” หรือ “ไม่พูดเลย” โดยส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานช่วงอายุ 20-30 ปี ซึ่งมักใช้เวลานั่งเงียบๆ ไปกับการฟังเสียงกรรไกร อ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์

สอดคล้องกับผลสำรวจโดย Hot Pepper Beauty Academy พบว่า 52.9% ของผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 2,000 คน ระบุว่า “อยากนั่งเงียบๆ มากกว่าคุย” ขณะตัดผม โดยเฉพาะหัวข้อที่ไม่อยากพูดถึง เช่น เรื่องงาน การเรียน ความรัก ครอบครัว และแผนวันหยุด

นอกจากนี้ Urban Research ร้านเสื้อผ้าชื่อดังในโอซาก้า ให้ลูกค้าเลือกถุงช้อปปิ้งแบบใส 2 สี ถ้าเลือกถุงสีฟ้า พนักงานจะรู้ว่าคุณไม่อยากให้ใครเข้ามาทัก

แม้จะมีคนใช้ถุงสีนี้เพียง 1 ใน 10 แต่เสียงตอบรับเป็นบวก เพราะลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและมีอิสระมากขึ้น

ในฝั่งร้านอาหาร Kura Sushi เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยระบบ Smart Kura ลูกค้าจองคิวผ่านแอป เช็กอินเอง สั่งอาหาร นับจาน และจ่ายเงินผ่านมือถือทั้งหมด แทบไม่ต้องพูดกับพนักงานเลย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนขี้อายหรือวิตกกังวล

ในปี 2018 บริษัทแท็กซี่ Sanwa Koutsu เปิดตัว “Kuroko Taxi” คนขับแต่งตัวคล้ายตัวประกอบเงาในละครคาบูกิที่พูดไม่ได้ และสื่อสารด้วยกระดาษหรือ Google Translate แถมเก็บค่าใช้จ่ายพิเศษ ¥5,500 (ราว 1,400 บาท)

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า บางครั้ง ความเงียบก็ไม่ใช่ความอึดอัด   แต่คือพื้นที่ปลอดภัยที่ใครหลายคนต้องการในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงพูด การพูดคุยอาจเป็นเครื่องมือของการเชื่อมโยงสำหรับบางคน แต่สำหรับอีกหลายคน การ ไม่ต้องพูด ก็เป็นความสบายใจในแบบของเขาเช่นกัน

ที่มา japantimes

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related