เร่งสกัด! ธุรกิจผิดกฎหมาย ชู Made in Thailand เสริมแกร่ง SME ไทย

ในงาน Thailand SMART SME 2025 "Smart Solutions & Sustainable Growth" จัดโดย โพสต์ทูเดย์ มีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับ SME ไทย หนึ่งในมุมมองที่น่าสนใจจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม องค์ปาฐก กล่าวว่า SME  ไทยจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แทนที่จะมุ่งกังวลแต่เรื่องภาษีตอบโต้ทางการค้า (Countervailing Duty) ซึ่งมีแนวโน้มจะประกาศใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้

โดยสถานการณ์ภาษีตอบโต้ทางการค้าที่หลายประเทศประกาศไปแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากมีการกำหนดเงื่อนไขใหม่และภาษีที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าที่ถูกตีความว่าเป็นสินค้าที่มาจากประเทศที่สาม หรือ "สินค้าผ่านทาง" ทำให้ประเทศที่ถูกประกาศภาษีไปแล้วก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ในขณะไทยกำลังกังวลเรื่องภาษี

ผมคิดว่าเราควรจะกังวลในสิ่งที่น่ากลัวกว่าและควรใช้กำลังจัดการมากกว่า นั่นคือปัญหาภายในประเทศของเราเอง" นายเอกนัฏกล่าว พร้อมชี้ว่าปัจจัยความไม่แน่นอนเหล่านี้ถูกกำหนดโดยกลุ่มประเทศมหาอำนาจ และเราไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ยังเห็นว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยภาคภูมิใจกับแบรนด์สินค้าภายในประเทศ แต่ภาพลักษณ์นั้นเริ่มถูกบั่นทอนจากการปล่อยปละละเลยให้มีการนำเข้าสินค้าเถื่อน เช่น สายไฟ เศษยาง พลาสติกด้อยคุณภาพ หรือการตั้งโกดังแฝงในเขต Free Zone เพื่อหลบเลี่ยงภาษี ดังนั้นจึงมีขอเสนอดังนี้

• ปรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) อย่างเข้มงวด
• พัฒนาระบบร้องเรียนสินค้าผ่านแอปพลิเคชันและ AI ตรวจจับ
• ปรับปรุงกฎหมายให้สามารถเอาผิดผู้ผลิต/นำเข้าสินค้าไม่มีคุณภาพได้จริง
• ส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐจัดซื้อสินค้าคนไทย โดยเฉพาะ SME

อย่างไรก็ตามได้มีการเสนอแนวทางหลักที่ภาครัฐและเอกชนควรเร่งดำเนินการร่วมกันเพื่อสร้างความแข็งให้กับประเทศ ดังนี้ 

• จัดการกับธุรกิจผิดกฎหมาย (ศูนย์เหรียญ)

โดยจะเร่งกวาดล้างธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าด้อยคุณภาพ การผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (มอก.) หรือโรงงานที่ปล่อยมลพิษ โดยระบุว่าธุรกิจเหล่านี้บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อสินค้า "Made in Thailand" และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหานี้เป็นจำนวนมาก

• ปกป้องสินค้าไทยที่มีคุณภาพ

เพื่อเป็นการปกป้องผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าคุณภาพสูงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากการถูกท้าทายด้วยสินค้าด้อยคุณภาพที่ลักลอบนำเข้ามาขายในราคาถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งภาครัฐกำลังเร่งแก้ไขช่องว่างทางกฎหมาย และกระตุ้นให้คนไทยหันมาอุดหนุนสินค้าคุณภาพของไทยกันเอง

• สนับสนุนการลงทุนและพัฒนาบุคลากร

ต้องเร่งส่งเสริมการลงทุนที่พัฒนาฝีมือคนไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยจะมีการกำหนดเงื่อนไขการลงทุนที่ชัดเจน เช่น การแบ่งพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมสำหรับ SME ไทย และการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้แก่คนไทย

• ปรับปรุงกฎระเบียบและลดขั้นตอนที่ล่าช้า

จะแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่ไม่จำเป็น เพื่อลดขั้นตอนและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องการขอใบอนุญาตที่ล่าช้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำให้ผู้ประกอบการหันไปพึ่งพาช่องทางที่ไม่ถูกต้อง

เขากล่าวทิ้งทายว่า การทำงานที่รวดเร็ว โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดึงดูดการลงทุน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประเทศไทยในระยะยาว โดยไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด SME ไทยก็สามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• SME D Bank ยกทัพ "พัฒนาคู่เติมทุน" ติดอาวุธเอสเอ็มอีไทย

• ทักษิณ ห่วง SME แนะเร่งจัดระเบียบสินค้าจีนรุกตลาดไทย มองยังมีเวลาต่อรองภาษีสหรัฐ

• "Greener SME Handbook" คู่มือช่วย SME ปรับตัวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ