SHORT CUT
Entertainment Complex ของไทยจะมีศักยภาพจะเป็น “แพลตฟอร์ม Soft Power” ระดับภูมิภาค เหมือนที่ Netflix เล่าเรื่องของประเทศต่าง ๆ ผ่านซีรีส์และภาพยนตร์ได้หรือไม่
รัฐบาลไทยมองว่า Entertainment Complex ไม่ใช่แค่ “รีสอร์ทหรือคาสิโน” แต่คือเครื่องมือส่งเสริม Soft Power ผสานศิลปะและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมไทย เช่น
มวยไทย แสดงศิลปะ สปา อาหารและวิถีชีวิตไทย ผสานกับเทคโนโลยี VR/AR และศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทำให้กลายเป็น “ศูนย์กลางวัฒนธรรมไทย” ระดับโลก
โดยมีเป้าหมายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 2-3 แสน ล้านบาทต่อปี การดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ และสนับสนุน SME ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
ส่องรากฐานนโยบาย Soft Power + T‑Wave ไทย
• Soft Power Strategy มีเป้าหมายผลักดัน 5Fs: Food, Film, Festivals, Fighting (มวยไทย), Fashion
• กลุ่ม T‑Wave (Thai Wave) ผลักดันคอนเทนต์ BL/GL และละครไทยที่สร้างแรงกระเพื่อมในต่างประเทศ
• โครงการ “One Family One Soft Power” ตั้งเป้าพัฒนากำลังคนให้หลากหลายผ่าน THACCA และคณะกรรมการกลยุทธ์ Soft Power
• ความสับสนด้านนโยบาย: ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องกฎหมายคาสิโน, พื้นที่ zoning, และการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างแท้จริง
• การผสมผสานระหว่าง Public‑Private: การประสานงานระหว่าง THACCA, กระทรวงวัฒนธรรม, สภาพัฒน์ ฯลฯ ต้องแน่วแน่และต่อเนื่อง
• การแข่งขันในภูมิภาค: ไทยต้องยกระดับทั้งคุณภาพคอนเทนต์ สร้างเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก และสนับสนุนคนไทยให้เป็นผู้สร้างสรรค์ (creator) ไม่ใช่แค่ผู้บริโภค
• เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์ท้องถิ่น (craft, fashion, food tech) ได้โชว์ตัวต่อสายการตลาดโลก
• พื้นที่สร้าง Soft Power เช่น MICE, คอนเสิร์ต, ธีมปาร์ก, พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม
• สร้างความยั่งยืนให้ชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมคนไทยเป็น “creator” ผ่านโครงการอบรม สร้างเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก เช่น การฝึกอบรมกับ Melco Resorts
สื่อและนักวิเคราะห์ในแวดวงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญบางรายในวงการพัฒนาเมือง หรือสื่อบางแห่ง (โดยเฉพาะคอลัมนิสต์) เริ่มใช้คำว่า “Netflix of Asia” เพื่อเสนอภาพว่า Entertainment Complex ควรเป็น “แพลตฟอร์มเล่าเรื่องไทย” ที่มีพลังดึงดูดไม่แพ้คอนเทนต์ดิจิทัล
ตัวอย่างการใช้ที่ใกล้เคียง เช่น กรณี “HYBE Museum” ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็น “Cultural Experience Hub” ที่เล่าเรื่องศิลปินและวัฒนธรรมเกาหลีอย่าง immersive จนกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนคลับจากทั่วโลก
หรือสื่ออย่าง Tatler Asia ก็ได้เคยอธิบายความสำเร็จของคอนเทนต์ไทย (เช่น ซีรีส์ Hunger) ในแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Netflix ว่าเป็น “active soft power” ที่บ่งบอกศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางคอนเทนต์ในภูมิภาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง