SHORT CUT
เกาหลีใต้ หวังฟื้นท่องเที่ยว เปิดกลยุทธด้านการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ ดัน Travel Tech ปลุกคนไทยเที่ยวเพิ่ม 5 แสนคน ในระยะยาว
เกาหลีใต้ คือ หนึ่งในดินแดนที่คนไทยเคยเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างพรั่งพรูในอดีต และถือได้ว่าเป็นเดสติเนชั่นยอดฮิตเลยก็ว่าได้ เพราะ… การท่องเที่ยวมีจุดแข็งมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ความงาม ดารา ศิลปิน อาหาร แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และความเจริญทางนวัตกรรม แต่… พักหลังมานี้จะได้ยินข่าวบ่อยครั้งถึงเรื่องคนไทยติด ตม. เกาหลีใต้มากขึ้น และเข้าประเทศยากขึ้น จึงทำให้คนไทยบางส่วนเลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปท่องเที่ยวประเทศอื่นแทนเกาหลีใต้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวบางช่วงลดลง
แม้ว่า..เกาหลีใต้จะมีความพยายามอย่างมากในการแก้ไขปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง เพราะนักท่องเที่ยวไทยถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้มากพอสมควร และมีกำลังซื้อในการจับจ่ายค่อนข้างดีโดยข้อมูลจาก องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) เผยว่า สถิตินักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีใต้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้กว่า 180,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สะท้อนภาพการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มองหาประสบการณ์ด้านความงาม สุขภาพ และการท่องเที่ยวเฉพาะทางที่เกาหลีมีความได้เปรียบเชิงคุณภาพ
โดยข้อมูลจาก KTC ยังเผยอีกว่า คนไทยใช้จ่ายในเกาหลีใต้อันดับแรก คือ หมวด K-Beauty และอาหาร ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยที่ยังคงเน้นความสวยความงาม และอาหาร ส่วนเมืองยอดนิยมกรุงโซล (Seoul) ยังคงเป็นอันดับ1 ที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุด เกาะเชจู (Jeju Island) คนไทยนิยมไปมากเนื่องจากอาจมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
ส่วนเมืองที่กำลังได้รับการโปรโมท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คือ ปูซาน (Busan) เนื่องจากบางคนเที่ยวกรุงโซลจนเบื่อแล้วจึงอยากสำรวจจุดหมายปลายทางอื่น และในอนาคต KTO ต้องการกระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองท้องถิ่น (Local cities) มากขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาหลี และลดความแออัดในโซล-ปูซาน ส่วนปัญหาการเข้าเมืองยอมรับว่าเป็นปัญหาใหญ่ และหลายฝ่ายกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อยู่
สำหรับแผนการส่งเสริมท่องเที่ยวอื่นๆ เกาหลีใต้ได้ผลักดัน Travel Tech เพื่อบุกตลาดท่องเที่ยวไทย ปูทางสู่หุ้นส่วนธุรกิจระยะยาว โดยสตาร์ทอัพเทคโนโลยีการท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ร่วมโชว์ศักยภาพบนเวที KTSC Demo Day 2025 ซึ่งจัดโดยศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวเกาหลี (Korea Tourism Startup Center: KTSC) ภายในงาน Techsauce Global Summit 2025 โดยมีเป้าหมายจับมือภาคธุรกิจไทย สู่การลงทุนด้านเทคโนโลยีท่องเที่ยว และต่อยอดสู่การพัฒนาระบบบริการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ขณะเดียวกันหลายรายได้เริ่มเปิดการเจรจาและเตรียมพัฒนาโครงการร่วมกับผู้ประกอบการในไทยแล้ว
โดยสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมในปีนี้นำเสนอโซลูชัน ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ตั้งแต่แพลตฟอร์ม eSIM สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อีคอมเมิร์ซสินค้าK-beauty อาทิ DOWHAT แพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงแรมผ่านระบบคลาวด์, ND Soft ที่พัฒนาเทคโนโลยีแปลภาษาแบบเรียลไทม์, Crosshub แพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ, และ Nanugi World ซึ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม Edutrip เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับการศึกษาต่อในต่างประเทศ Startup Competition ไปจนถึงระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับนักเดินทางอิสระ (Independent Travelers) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชีย
นายยัง คยองซู รองประธานบริหาร สายงานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) กล่าวว่า เรามองประเทศไทยไม่ใช่แค่ฐานตลาด แต่คือพาร์ตเนอร์ระดับภูมิภาคที่พร้อมเติบโตไปด้วยกัน ธุรกิจไทยมีความแข็งแกร่งในด้านการให้บริการ ขณะที่เกาหลีมีจุดแข็งด้านนวัตกรรม หากเราสามารถเชื่อมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว เราจะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เปรียบในตลาดท่องเที่ยวยุคใหม่ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ให้การสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพศักยภาพสูงเหล่านี้ผ่านทาง KTSC
สำหรับงาน Demo Day ครั้งนี้นับเป็นเวทีเปิดตัวครั้งแรกของสตาร์ทอัพเกาหลีในประเทศไทย ภายหลังการเปิดตัว KTSC กรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ การลงนาม MOU ระหว่าง KTO และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมท่องเที่ยวในระดับทวิภาคีผลักดันการพัฒนา Travel Tech อย่างเป็นระบบ ผ่านกิจกรรมร่วม เช่น โครงการ Travel Tech
โดยศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวเกาหลี หรือ KTSC เปิดดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2567 นับเป็นแห่งที่ 3 ต่อจากสิงคโปร์และโตเกียว ได้พัฒนาบทบาทจากแพลตฟอร์ม soft-landing สำหรับสตาร์ทอัพเกาหลี ไปสู่การเป็น “ตัวกลางขับเคลื่อนความร่วมมือทางธุรกิจ” ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการเกาหลีกับภาคธุรกิจไทยในหลายมิติ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดของสตาร์ทอัพท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีนวัตกรรมด้านแพลตฟอร์มท่องเที่ยว, คอนเทนต์เสมือนจริง และ AI ตั้งแต่การวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ การวิจัยตลาด และการทดลองใช้เทคโนโลยี (PoC)
ทั้งนี้มุ่งหวังให้เกิดการปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับตลาดไทย ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านข้อกฎหมายและกระบวนการจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย ปัจจุบันมี 12 บริษัทเข้าร่วมโครงการ โดย 2 ราย ได้แก่ Lala Station และ Seoul Unniedeul (Star Secret Korea) ได้จดทะเบียนบริษัทในไทยแล้ว และมีความร่วมมือมากกว่า 16 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งมีสตาร์ทอัพ อย่างเช่น Gadget Korea, Healing Paper (GangnamUnni) และ Star Secret Korea ต่างอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจ โดยมี KTSC ทำหน้าที่เป็นพาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์ ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยโดยตรง ปัจจุบัน Healing Paper มีผู้ใช้งานจากไทยกว่า 2,000 รายต่อเดือน ขณะที่ Star Secret Korea เตรียมเปิดตัวสินค้า K-beauty กว่า 300 รายการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย
ขณะเดียวกัน GroundK ผู้ให้บริการโซลูชันการเดินทางครบวงจรสำหรับลูกค้าองค์กร ทั้งในด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ Mobility และบริการท่องเที่ยว ได้จับมือกับ The Trago แพลตฟอร์มจองตั๋วเรือและเรือเฟอร์รี่ออนไลน์ของไทย ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงจากการสนับสนุนของ KTSC ตลอดปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมในเวทีนี้ อาทิ DOWHAT แพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงแรมผ่านระบบคลาวด์, ND Soft ที่พัฒนาเทคโนโลยีแปลภาษาแบบเรียลไทม์, Crosshub แพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ, และ Nanugi World ซึ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม Edutrip เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับการศึกษาต่อในต่างประเทศ Startup Competition นายยัง คยองซู กล่าวทิ้งท้ายด้วยมุมมองเชิงยุทธศาสตร์ว่า “ถ้าการท่องเที่ยวจะอยู่รอดในเศรษฐกิจแบบนี้ เราต้องเปลี่ยนเกม ไม่ใช่แค่เพิ่มงบโฆษณาหรือทำโปรโมชั่น แต่ต้องยกระดับ
ระบบที่รองรับการเดินทางจริง ๆ และถ้าใครยังมองว่าดิจิทัลเป็นแค่เครื่องมือ ก็อาจพลาดทั้งโอกาสและตลาด เราไม่ได้มองว่าไทยเป็นแค่ตลาดปลายทาง เรามองว่าไทยคือพาร์ตเนอร์ที่กล้าทดลอง กล้าปรับ และพร้อมเติบโตไปกับเราในสนามที่ยังเปิดกว้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Lovebugs บุกโซล! ชาวเกาหลีใต้ผวาแมลงระบาดหนัก ผลจากอากาศเปลี่ยน