svasdssvasds

"หมอสุภัทร" แพทย์ชนบท กำลังจะถูกให้ออกจากราชการ ปมจัดซื้อ ATK

"หมอสุภัทร" แพทย์ชนบท กำลังจะถูกให้ออกจากราชการ ปมจัดซื้อ ATK

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กำลังจะถูกสั่งให้ออกจากราชการ สาเหตุมาจากการถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กรณีจัดซื้อชุดตรวจ ATK ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง กลุ่มนักวิชาการและภาคประชาสังคมได้ออกมาสนับสนุนและปกป้อง

SHORT CUT

  • นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่าตนเองกำลังจะถูกสั่งให้ออกจากราชการ
  • สาเหตุหลักมาจากการถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กรณีจัดซื้อชุดตรวจ ATK ในโครงการ "แพทย์ชนบทบุกกรุง" ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง
  • นพ.สุภัทรเชื่อว่าตนถูกปลัดกระทรวงสาธารณสุขตั้งธงเล่นงาน เนื่องจากเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของกระทรวงมาโดยตลอด
  • กลุ่มนักวิชาการและภาคประชาสังคมได้ออกมาสนับสนุนและปกป้อง นพ.สุภัทร โดยชี้ว่าการกระทำของเขาเป็นการช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตโควิด-19

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กำลังจะถูกสั่งให้ออกจากราชการ สาเหตุมาจากการถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กรณีจัดซื้อชุดตรวจ ATK ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง กลุ่มนักวิชาการและภาคประชาสังคมได้ออกมาสนับสนุนและปกป้อง

จากกรณีที่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมกำลังจะถูกให้ออกจากราชการ! ข้าราชการไทยอยู่ยาก ต้องเดินกุมเป้า เงียบๆ พูดน้อย นายว่านกเราก็นก เห็นความทุจริต ไร้ประสิทธิภาพ นโยบายเพี้ยน ก็ต้องทำไม่รู้ไม่ชี้ จึงจะมีความเจริญก้าวหน้า

ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังให้ความเห็นแย้งคัดค้านบางเรื่องในกท.สธ.และเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ปลัดกระทรวงคนปัจจุบัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ มีธงลงมือจัดการผมทุกทาง ในฐานะกรวดในรองเท้าของใครบางคน หวังให้ผมเงียบ อยู่ในโอวาท

โดนกดดันหลายครั้ง ถูกสอบวินัยกว่า 10 เรื่อง

3 ปีที่ผ่านมา ผมจึงถูกสธ.ตั้งกรรมการสอบวินัยกว่า 10 เรื่อง แต่ได้แค่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ จนกระทั่งมีการสั่งย้ายผม โดยมิชอบ ให้พ้นจากโรงพยาบาลจะนะ ให้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อย พอสั่งย้ายปุ๊บก็ส่งทีมชุดใหญ่เข้ามาตรวจสอบภายในเพื่อขุดหาความผิด พร้อมทั้งให้ข่าวว่าผมทุจริต และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงผมเรื่องการจัดซื้อ ATK แพทย์ชนบทบุกกรุง

แพทย์ชนบทบุกกรุง 3 รอบ ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. 2564 สิ่งที่ยากที่สุดเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ โรงพยาบาลต่างๆ อาสาบุกกรุงมาตรวจ ATK 3 รอบ ทีมชุมชนในกทม.แข็งขันจัดการสถานที่จัดคิวอำนวยการทุกอย่าง ความยากที่สุดคือ เราจะต้องจัดซื้อ ATK มาใช้เอง สธ.ไม่มีให้ ในขณะนั้น มาตรฐาน สธ.ยังใช้ RT-PCR แกนนำหลายโรงพยาบาลแบ่งหน้าที่ช่วยกันจัดซื้อ ATK ผมก็จัดซื้อในนามโรงพยาบาลจะนะ จัดซื้อตามสถานการณ์หน้างานที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า คนมารับการตรวจจะมากหรือน้อย เราจะทำไหวที่จำนวนเท่าไหร่ แต่จุดยืนตอนนั้นคือ ทุกคนที่มารอต้องได้ตรวจ เราตรวจไปทั้งหมด 192,905 คน พบผู้ติดเชื้อและได้จ่ายยาไปมากถึง 22,451 คน

 

 

การบุกกรุง 3 ครั้ง โรงพยาบาลจะนะทำการจัดซื้อ ATK ไป 5 ครั้ง จึงเปิดช่องให้ผมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าจัดซื้อผิดระเบียบ แบ่งซื้อแบ่งจ้าง แต่โรงพยาบาลอื่นที่จัดซื้อในคราวนั้นไม่ถูกสอบสวน

การชี้แจงของผมอย่างละเอียดไม่เป็นผล ในเมื่อกรรมการมีธง มีมติให้ผมออกจากราชการ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญก่อนเกษียณของปลัดโอภาส ให้ทันก่อน 30 ก.ย.68 นี้

ที่ผ่านมาผมพยายามชี้แจงตามระบบ ไม่เปิดเรื่องสู่สาธารณะ คิดว่าระบบราชการยังให้ความเป็นธรรมได้บ้าง แต่วันนี้ผมถูกต้อนจนเข้ามุม ถึงเวลาที่จะต้องเปิดความจริงให้สาธารณะทราบ ถ้าเชื่อมั่นในความเป็นผม “สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” เรามาสู้ด้วยกัน

ระบบราชการต้องมีความเป็นธรรมให้กับข้าราชการและประชาชนได้ ประเทศจึงจะมีความหวัง

 

ผมติด solar cell บนหลังคาโรงพยาบาลจะนะในปี 2560 โดยไม่ได้ขออนุญาตหลายขั้นตอนจากหลายหน่วยงาน นั่นก็ไต่เส้นกฏระเบียบ แค่วันนี้ระเบียบที่ว่านั้นคลายตัวทำได้สะดวกแล้ว

ผมใช้รถตู้โรงพยาบาล เดินรถตู้ลดเหลื่อมล้ำจากสะบ้าย้อยมาส่งผู้ป่วยที่นัดที่โรงพยาบาลสงขลาทุกวัน เก็บเงินค่ารถคนละ 150 บาท นั่นก็มีคนตีความว่าผิด พรบ.ขนส่งทางบก! ผมก็ยัง งง งง ว่าผิดไหม แต่ชาวสะบ้าย้อยได้ประโยชน์มาก

โควิดระบาดหนัก ผมและแพทย์ชนบทรวมใจบุกกลุ่มถึง 3 รอบ 6-7 โรงพยาบาลแบ่งกันซื้อ ATK มาใช้ในการตรวจ เหนื่อยยากทั้งหน้างานและการจัดการหลังบ้าน ไม่ได้แบ่งซื้อแบ่งจ้าง แต่ซื้อไปทีละล็อตตามความจำเป็น โดยที่ไม่อาจประมาณการยอดใช้ทั้งหมดในอนาคตได้ เมื่อหมดก็สั่งเพิ่มเพื่อให้พอใช้ กลับถูกตีความโดยแคบว่าเป็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง

ผมเคยให้ความเห็นคัดค้านการกระจายวัคซีนซิโนแวค แอสตร้าฯ ลงสู่ รพ.สต. เป็นสิบล้านโดสในช่วงปี 2565 ซึ่งมีวัคซีนเหลือค้างสต๊อกในกระทรวงจำนวนมาก เสมือนการนำวัคซีนไปทิ้ง เพื่อให้ สธ.พ้นผิดจากข้อกล่าวหาว่าซื้อวัคซีนมาเกินจำเป็น ผลปรากฏว่า ผมถูกสอบวินัย และลงโทษภาคทัณฑ์ ว่าไม่ให้วิจารณ์นโยบายของกระทรวงอีก

ประเทศไทยไปไหนไม่ได้ไกลก็เพราะระบบราชการถูกมัดตราสังข์ด้วยระเบียบกฏเกณฑ์และการกดทับด้วยอำนาจ จนขยับตัวไม่ได้ พูดทักวิจารณ์ไม่ได้ ถ้าแหลมออกมาจะไม่มีความก้าวหน้า เมื่อผมตั้งใจมั่นในตัวตนของผมที่จะเป็นแบบนี้ ผมจึงเลือกอยู่โรงพยาบาลชุมชน ไม่ขอขยับตำแหน่งให้ก้าวขึ้นมาในจังหวัดในกระทรวง อยู่อำเภอไกลๆเพื่อให้มีเสรีภาพมีพี่น้องชาวบ้านที่พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขในการทำหน้าที่ข้าราชการที่ไต่เส้นแห่งการทำประโยชน์ที่เข้าถึงผู้คนจริงๆ

นักวิชาการ-คนดัง โดดป้อง "หมอสุภัทร" ปมถูกให้ออกจากราชการ

วันที่ 17 ส.ค. 68 นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ตอนสถานการณ์เกิดโควิดใน กทม หนักหน่วงมากชุมชนที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลทำงานคนในชุมชนติดโควิด และมีคนเสียชีวิต รายวันจำนวนมาก หลายคนต้องออกจากบ้านโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเอง ติดโควิดหรือไม่เพราะไม่มีการตรวจ ATK ที่ขาดแคลน และราคาแพงมาก จนมีโครงของได้แพทย์ชนบท ที่เข้ามา กทม. ถึง 3 ครั้ง โดยมีหมอสุภัทร เป็นแกนนำ ร่วมกับแพทย์ชนบทท่านอื่นๆ จากทั่วประเทศมาช่วยตรวจโควิดให้ชาวบ้านได้ทั่วถึง

ภารกิจทางมนุษยธรรมที่หมอสุภัทรกับทีมช่วยชาวบ้าน กทม.ไว้ได้ทัน แต่ทำไมต้องมาถูกไล่บีบแบบนี้ ทั้งๆ ที่หมอสุภัทรได้เป็นตัวแทนของกระทรวงสาธรณสุข ช่วยชีวิตชาวบ้านที่เป็นภาระกิจต้องทำอยู่แล้ว นึกไม่ถึงที่ข้าราชการที่เป็นผู้บริหารกระทรวงถึงไม่เข้าใจชีวิตของชาวบ้าน ที่กำลังเผชิญกับความตายในตอนนั้น กลับจะมาเล่นงานปลดหมอสุภัทรออกถือว่าเป็นการทำร้ายจิตชาวบ้านที่เผชิญความเป็นความตายอย่างโดดเดี่ยว

รศ.บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่า กระทรวงสาธารณสุข จะให้หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ อดีต ผอ.รพ.จะนะ ที่ถูกย้ายไปเป็น ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ออกจากราชการ หมอสุภัทร อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ที่มีบทบาททักท้วงนโยบายสาธารณะที่สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ชมรมแพทย์ชนบทนำตรวจคนในชุมนุมด้วยเครื่องมือ ATK เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกมาให้เร็วที่สุด

นึกไม่ถึงว่า หมอที่ลงแรงเพื่อสังคมขนาดนี้จะถูกให้ออกจากราชการ หมอสุภัทร ควรเป็นนายแพทย์ที่ได้รับรางวัลได้รับการยกย่อง เป็นความภาคภูมิใจของกระทรวงสาธารณสุขที่ มีหมอทำงานหนัก เพื่อสังคม ความจริงชมรมแพทย์ชนบท ก็ได้รับรางวัลจากต่างประเทศ แต่นึกไม่ถึงว่า อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทกำลังจะถูกพิจารณาให้ออกจากราชการ

ด้านนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า ในช่วงแรกๆ ถึงช่วงกลางของการแพร่ระบาดโควิด 19 เป็นช่วงความเป็นความตายจริงๆ ท่ามกลางความกลัว และหวาดระแวงโดยเฉพาะในชุมชนของพวกเราใน กทม. ที่มีคนติด คนป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก ท่ามกลางความหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้นการมาของแพทย์ชนบทในตอนนั้น นอกจากช่วยคัดกรองคนติดคนป่วยได้ชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างขวัญและกำลังใจของชาวบ้านได้อย่างมาก

หากการให้ออกจากราชการของหมอสุภัทรเกิดขึ้นจริง มันจะทำให้เราจะเหลือแต่ราชการเพลย์เซฟ  อยู่เป็น เอาตัวรอด และคนที่จะทำเพื่อความถูกต้องในการรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ในสถานการณ์พิเศษแบบนี้จะไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยง เพราะผลที่ตอบแทนกับมาคือการถูกเล่นงานจากอำนาจเหนือที่ไม่พอใจ  ส่วนตัวยังหวังว่ากระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ปลัดกระทรวงคนใหม่ รัฐมนตรีคนปัจจุบัน จะทบทวนไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น คนที่ทำงานเคียงข้างประชาชนผู้ทุกข์ยากอย่างหมอสุภัทร  ต้องได้รับการปกป้อง

นอกจากนี้เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนภาคใต้ แถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และรมว.สาธารณสุข คืนความเป็นธรรมให้กับ "นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ" พร้อมให้เปิดเผยรายงานผลการสอบวินัยต่อสาธารณะ

ที่มา : เฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ , hfocus.org

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related