svasdssvasds

ประวัติ "มาดามรถถัง" จากครูภูมิศาสตร์ สู่ผู้บุกเบิกยานเกราะไทยดังไกลระดับโลก

ประวัติ "มาดามรถถัง" จากครูภูมิศาสตร์ สู่ผู้บุกเบิกยานเกราะไทยดังไกลระดับโลก

ทำความรู้จัก "มาดามรถถัง" หรือนางนพรัตน์ กุลหิรัญ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ ผู้ผลิตและซ่อมบำรุงยานเกราะและชิ้นส่วนยุทโธปกรณ์ชั้นนำของไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกองทัพทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสหประชาชาติ

SHORT CUT

  • "มาดามรถถัง" หรือ นางนพรัตน์ กุลหิรัญ จากอดีตนักศึกษาครุศาสตร์และล่ามภาษาฝรั่งเศส ผันตัวมาเป็นเจ้าของบริษัทชัยเสรี ผู้ผลิตยานเกราะรายใหญ่ของไทย
  • เริ่มต้นธุรกิจจากการต่อยอดกิจการซ่อมรถของสามี โดยใช้ทักษะด้านภาษาและการเจรจาติดต่อซื้อเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนรถถังจากสหรัฐอเมริกา
  • นำพาบริษัทชัยเสรีให้เติบโตจนเป็นผู้ผลิตและส่งออกยานเกราะและชิ้นส่วนยุทโธปกรณ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเป็นคู่ค้ากับกองทัพกว่า 46 ประเทศทั่วโลก

ทำความรู้จัก "มาดามรถถัง" หรือนางนพรัตน์ กุลหิรัญ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ ผู้ผลิตและซ่อมบำรุงยานเกราะและชิ้นส่วนยุทโธปกรณ์ชั้นนำของไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกองทัพทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสหประชาชาติ

กลายเป็นกระแสคนดังในโลกออนไลน์ สำหรับนางนพรัตน์ กุลหิรัญ เจ้าของฉายา "มาดามรถถัง" เจ้าของบริษัทชัยเสรี ทำรถเกราะกันกระสุนกันระเบิดไปช่วยสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา อีกทั้งได้ส่งคณะช่าง อะไหล่ ไปอยู่ประจำที่ชายแดน เพื่อรอซ่อมรถต่างๆ ให้กองทัพ ในภารกิจปกป้องประเทศ

"มาดามรถถัง" หรือนางนพรัตน์ กุลหิรัญ เกิดที่ย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2496 ปัจจุบันอายุ 72 ปี ครอบครัวของเธอมีกิจการค้าเหล็ก โซ่ และเครื่องยนต์เก่า ซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นปู่ชาวจีนที่เดินทางข้ามทะเลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2400 เธอเป็นบุตรคนที่ 7 ในบรรดาพี่น้อง 12 คน ในวัยเด็ก เธอสั่งสมประสบการณ์เกี่ยวกับวงการเหล็กจากการช่วยบิดาทำธุรกิจ

ประวัติการศึกษา "มาดามรถถัง"

ด้านการศึกษา เธอสำเร็จชั้นประถมจากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และมีความโดดเด่นด้านคณิตศาสตร์ ต่อมาบิดาแนะนำให้ศึกษาด้านภาษา เนื่องจากเห็นว่าเธอมีทักษะในการพูดและชอบคบค้าสมาคม เธอจึงศึกษาต่อด้านภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ และระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยวิชาการศึกษา วิทยาเขตปทุมวัน ซึ่งถือเป็นสถาบันสอนภาษาฝรั่งเศสที่ดีที่สุดในขณะนั้น ในช่วงที่เป็นนักศึกษา เธอทำกิจกรรมมากมาย รวมถึงได้รับโอกาสจากข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ให้ทำหน้าที่ล่ามภาษาฝรั่งเศสและครูสอนภาษาไทยในค่ายผู้อพยพที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

เส้นทางก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจยานเกราะ

"มาดามรถถัง" แต่งงานกับ หิรัญ กุลหิรัญ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการซ่อมรถและดัดแปลงเครื่องยนต์ สามีของเธอได้เริ่มติดต่อกับกองทัพในฐานะตัวแทนจัดหาอุปกรณ์เครื่องยนต์และซ่อมบำรุงช่วงล่างรถบรรทุก จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง กองทัพสหรัฐฯ ได้ถอนฐานทัพและทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากไว้ในเวียดนาม กัมพูชา และลาว สามีของเธอจึงขอซื้อจากกองทัพสหรัฐฯ นำกลับมาประเทศไทย ทำให้โรงงานมีอะไหล่เพียงพอต่อความต้องการของกองทัพไทย

ด้วยทักษะการเจรจา และความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่โดดเด่น นางนพรัตน์ได้สอบถามทหารสหรัฐฯ ในประเทศไทยถึงแหล่งซื้อตีนตะขาบรถถัง และสามารถติดต่อซื้อได้สำเร็จ ระหว่างไปตรวจรับสินค้าที่สหรัฐฯ เธอใช้ความจริงใจและไหวพริบจนสามารถเข้าไปในโรงงานผลิตที่เป็นเขตหวงห้ามได้

เธอได้ศึกษาและนำความรู้การผลิตกลับมาสร้างโรงงานในประเทศไทยตามแบบสหรัฐฯ ต่อมา เจ้าของโรงงานสหรัฐฯ ประทับใจในตัวเธอ ได้เสนอขายเครื่องจักรทั้งหมดให้เมื่อเขาเลิกกิจการ เธอเสนอโอนเงินเท่าที่มีคือ 25 ล้านบาท ซึ่งทางโรงงานสหรัฐฯ ได้มอบเครื่องจักร 45 ตู้ รวมถึงแบบพิมพ์ เครื่องอัดยาง และเครื่องขึ้นรูปตีนตะขาบ ทำให้กิจการของเธอเติบโตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย

การเติบโตของ "ชัยเสรี" และผลิตภัณฑ์เด่น

บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2506 โดยเริ่มจากธุรกิจผลิตและบริการชิ้นส่วนยางและยางติดเหล็กสำหรับรถบรรทุก และขยายสู่การผลิตแทร็กรถสายพาน (track shoes) และล้อกดสายพาน (road wheels) ให้กองทัพบกไทย

ชัยเสรีได้พัฒนาและผลิตยานยนต์ทางทหารหลากหลายประเภท

  • ซ่อมบำรุงยานยนต์ทหารทุกชนิด: ตั้งแต่รถจี๊ป M151, รถบรรทุก M35, รถกู้ซ่อม, ไปจนถึงรถถังจีน, รถถังอเมริกัน M113, M60, M48
  • ผลิตช่วงล่างรถถังแบบตีนตะขาบ: บริษัทสามารถผลิตช่วงล่างทั้งหมดของรถถังประเภทตีนตะขาบและจำหน่ายโดยตรงให้กับกองทัพทั่วโลกกว่า 44 ประเทศ
  • ยานเกราะล้อยาง First Win: ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อทุ่นระเบิด (MRAP) และอาวุธเบา ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ V-hull รถเกราะนี้สามารถป้องกันได้ทั้งคันและใต้ท้องรถสามารถกันระเบิดได้ ปัจจุบันประจำการอยู่ในกองทัพไทย, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), หน่วยปราบปรามยาเสพติด และกรมราชทัณฑ์ รวมถึงได้รับการสั่งซื้อจากกองทัพมาเลเซี
  • รถเกราะพยาบาล First Win : ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นรถเกราะพยาบาลล้อยางกันกระสุนกันระเบิดคันแรกของโลก ซึ่งองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้สั่งซื้อเพื่อภารกิจพยาบาลสนาม
  • ยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก 8x8: สำหรับนาวิกโยธินไทย ซึ่งเป็นผลงานภายในประเทศที่สร้างความภาคภูมิใจ

บริษัทชัยเสรีได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเป็นคู่ค้าสำคัญของกองทัพทั่วโลกใน 46 ชาติ มีการนำเครื่องจักรและอุปกรณ์ไปจัดแสดงในงานแสดงอาวุธนานาชาติเป็นประจำ

ด้วยความสำนึกในความเป็นคนไทยและต้องการตอบแทนคุณแผ่นดิน ในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา "มาดามรถถัง" ได้ประกาศ "จิตอาสา" สนับสนุนรั้วของชาติ โดยจัดส่งยานเกราะล้อยาง First Win 4x4, ยานเกราะล้อยางอื่นๆ พร้อมทีมช่างซ่อมบำรุงและอะไหล่ ไปประจำพื้นที่ชายแดน เพื่อรอซ่อมรถต่างๆ ให้กองทัพ เช่น รถฮัมวี่ และ M113 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

รางวัลและเกียรติยศ "มาดามรถถัง" 

  • ปี พ.ศ. 2549: รางวัลส่งออกดีเด่น ประเภทมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเอง จากทักษิณ ชินวัตร
  • ปี พ.ศ. 2551: รางวัลดีเด่น เอกเซลดีไซน์อะวอร์ด 2008 “ดิมาร์ก” จากสมัคร สุนทรเวช
  • ปี พ.ศ. 2560: ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

เปิดอาณาจักร "มาดามรถถัง" คุม 4 บริษัท รายได้พุ่งทะลุ 2,000 ล้าน

เปิดข้อมูลธุรกิจของ “มาดามรถถัง” พบถือหุ้นและบริหารรวม 4 บริษัทใหญ่ ครอบคลุมธุรกิจผลิตยานเกราะ อะไหล่ยานยนต์ ไปจนถึงธุรกิจประกันภัย กวาดรายได้รวมปี 2567 ทะลุ 2,000 ล้านบาท

บริษัทหลัก “ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์” คือหัวใจของอาณาจักร สร้างชื่อจากการผลิตรถเกราะกันกระสุน “First Win 4x4” ที่กองทัพไทยและต่างประเทศนำไปใช้งาน ขณะที่อีก 3 บริษัท ได้แก่ จี เอ็ม อินด์, ไทยดีเฟนส์อินดัสตรี และ ไทยพัฒนาประกันภัย ล้วนรายงานผลประกอบการเป็นกำไรทั้งหมด

ปี 2567 ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ทำรายได้กว่า 1,180 ล้านบาท ส่วนไทยพัฒนาประกันภัยสร้างรายได้ 708 ล้านบาท รวมรายได้ทั้ง 4 บริษัทแตะ 2,031 ล้านบาท และกำไรรวม 33 ล้านบาท ตอกย้ำบทบาท “มาดามรถถัง” ในฐานะนักธุรกิจแถวหน้า ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย

"มาดามรถถัง" นพรัตน์ กุลหิรัญ คือสัญลักษณ์ของผู้ประกอบการไทยที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้วยวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และความสามารถในการพลิกผันจากธุรกิจค้าเหล็กเก่า สู่การเป็นผู้ผลิตยานเกราะและชิ้นส่วนยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยให้กับ 46 กองทัพทั่วโลก

ที่มา : wikipedia 

related