‘เนปาล’ สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ย่างไร? แต่..เรายังเกินดุลการค้า

เหตุการณ์ประท้วงในเนปาล จากความไม่พอใจของชาว Gen Z  ที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลเรื่องคอร์รัปชัน ทำให้ทั่วโลกต้องจับตามองอยู่ในขณะนี้ รวมถึงประเทศไทยด้วยเพราะมีคนไทยที่เข้าไปทำธุรกิจ และท่องเที่ยว รวมถึงไปเล่นกีฬาอย่างเช่นวอลเลย์บอลลีกอาชีพที่เนปาลอยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่ง การบินไทยได้มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-กาฐมาณฑุ วันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา พร้อมให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด แนะผู้โดยสารเช็กข้อมูลก่อนเดินทางด้วย

แน่นอนว่าเนปาลเป็นประเทศที่อยู่เอเชียใต้ และอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก จึงทำให้ต้องมีการเชื่อมโยงกันด้านเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ ก่อนอื่น #SPRiNG จะพามาดูโครงสร้างเศรษฐกิจของเนปาลก่อน โดยเนปาล เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อักทั้งยังติดกับแนวเทือกเขาหิมาลัยยาว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจได้ยาก แต่..เนปาลก็ยังมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนทั่วโลกให้มาเที่ยวยังประเทศของเขาได้ เนื่องจากความสวยงามของธรรมชาติ และเทือกเขาหิมาลัย จึงทำให้เนปาลจำเป็นต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว และบริการ สูงถึง  55% จากรายได้ทั้งหมดของประเทศเนปาล

ส่วนอื่นๆก็มีทำการเกษตร เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด ซึ่งก็ไม่สามารถทำรายได้ได้มากน้อยให้กับประชาชนในประเทศ จึงทำให้คนเนปาลนิยมออกไปทำงานหาเงินยังต่างประเทศมากขึ้น พามาดูในส่วนของความสำคัญของประเทศเนปาลต่อเศรษฐกิจไทย โดยข้อมูลจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มูลค่าการค้ารวมไทย และเนปาลยังไม่สูงมากเฉลี่ยไม่ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ไทยมักเกินดุลการค้าต่อเนปาล ส่วนสินค้าส่งออกหลักจากไทยไปเนปาล คือ ยานยนต์ และชิ้นส่วน เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค

ด้านสินค้านำเข้าที่ไทยนำเข้าจากเนปาลมาก็ คือ  พรม ผ้าทอ หัตถกรรม และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยเนปาลเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ยังมีโอกาสทางธุรกิจ เช่น การก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง พลังงานทดแทน และสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนั้นนักลงทุนจากต่างชาติที่สนใจในธุรกิจดังกล่าวก็นับได้ว่าเป็นโอกาสทองในการลงทุน ส่วนด้านการท่องเที่ยว พบว่า นักท่องเที่ยวเนปาลเดินทางมาไทยปีละหลายหมื่นคน โดยเฉพาะเพื่อการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนและการแพทย์ ถือได้ว่าไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของชาวเนปาล ทั้งในด้าน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) และการศึกษา

ขณะที่คนไทยเองก็มีคนไทยจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปเนปาลเพื่อท่องเที่ยวภูเขาปีนเขาฮิมาลัย และ เอเวอเรสต์ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจท่องเที่ยวสองทางระหว่างกันและกัน ส่วนด้านการศึกษา และแรงงานชาวเนปาลนิยมมาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยไทย โดยเฉพาะด้านการแพทย์ วิศวกรรม และบริหารธุรกิจ อีกทั้งไทยยังมีแรงงานเชื้อสายเนปาลอยู่ในบางภาคอุตสาหกรรม เช่น งานบริการ การรักษาความปลอดภัย และการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยเสริมตลาดแรงงานไทย

นอกจากนี้จะพามาดูยุทธศาสตร์เชื่อมโยงภูมิภาคเนปาลตั้งอยู่ระหว่างจีนกับอินเดีย ถือเป็น Land-linked Country ที่มีศักยภาพด้านโลจิสติกส์ หากไทยผลักดันยุทธศาสตร์เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในเอเชียใต้ (BIMSTEC, IMT–GT, BCG) จะช่วยขยายการค้าของไทยเข้าสู่เอเชียใต้ได้มากขึ้น โดยไทยกับเนปาลต่างก็มีบทบาทในกรอบความร่วมมือ BIMSTEC ซึ่งช่วยเปิดตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการไทย

แม้เนปาลจะไม่ใช่คู่ค้าใหญ่ของไทย แต่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจในด้าน การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา แรงงาน และการเชื่อมโยงภูมิภาค โดยไทยสามารถใช้เนปาลเป็นประตูสู่อินเดีย และจีนได้ในอนาคต อีกทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการศึกษายังเป็นจุดแข็งที่ไทยสามารถดึงดูดชาวเนปาลได้ต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ผู้ประท้วงหารือทหาร ใครจะเป็น 'ผู้นำชั่วคราว' คนใหม่ของเนปาล

• เกิดอะไรขึ้นที่เนปาล? สรุปม็อบ Gen Z จาก #NepoKids สู่จลาจล

• เนปาลเคอร์ฟิว ทหารเข้ายุติการประท้วงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต