ประชาชนแห่ถอนเงินสดจาก ธนาคาร เพราะขาดความเชื่อมั่นในมาตรการ อายัดบัญชีม้า ที่อาจกระทบคนบริสุทธิ์ SPRiNG สรุปต้นตอดราม่า ผลกระทบ รวมถึงการขยับตัวของภาครัฐ
“เราเป็นหนึ่งคนที่ถอนออกมาหมดทุกบัญชีแล้วค่ะ ในเมื่อในธนาคาร ไม่มีความปลอดภัยให้เรา เอาออกมาเก็บไว้เองดีกว่า”
“ตอนนี้บางร้านค้าไม่ยอมรับสแกนจ่ายแล้วด้วยจะรับเป็นเงินสด”
เกิดความกังวลในสังคมทันที เมื่อผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายรายต่างโพสต์ว่า จู่ ๆ บัญชีธนาคารยอดติดลบ แล้วถูกอายัดบัญชี เหตุต้องสงสัยกระทำผิด หรือเอี่ยวบัญชีม้า หลายคนมาแสดงตัวว่าประสบปัญหาเดียวกัน บางรายรอ 2-3 บัญชีก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ จึงแห่พากันไปถอน “เงิดสด” เก็บไว้กับตัว
อนึ่งว่าที่ผ่านมานั้น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า โดยขยายขอบเขตการติดตามเส้นทางเงินให้กว้างขึ้น เพื่อกักเงินที่โยงกับบัญชีม้ามาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด
“ถ้าแบงค์ผลักภาระมาให้ประชาชนแก้ปัญหาแบบเอาตัวเองสบายทุก ๆ ท่านเราไปถอนเงินสดมาถือกันไว้ดีกว่าครับ” ความคิดเห็นในโซเชียลมีเดีย
มาตรการระงับบัญชีม้าคือ เริ่มจากการที่เหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน สามารถเดินทางไปแจ้งตำรวจได้ว่าถูกหลอก แล้วให้แจ้งเลขบัญชีที่โอนเงินไปให้กับมิจฉาชีพ ตำรวจจะได้สืบสาวแล้วไปจัดการกับบัญชีพวกนั้นต่อ
จากนั้น เมื่อสถานีตำรวจได้รับแจ้งแล้ว ก็จะมอบไม้ต่อให้กับตำรวจไซเบอร์ที่ดูแลเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการระงับบัญชีม้า แต่ปัญหาที่หลายคนมาแชร์กันคือ ตำรวจมีหลักฐานแค่สลิปโอนเงินก็แจ้งให้ตำรวจไซเบอร์ระงับบัญชีได้เลยทันที แล้วตำรวจไซเบอร์ก็สืบไปอีกทีว่าบัญชีม้าโอนเงินไปที่ไหนอีก ก็จะตามไประงับอีกเป็นทอด ๆ ด้วยสันนิษฐานว่าเป็นการฟอกเงิน
ปรากฏว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลให้มีบัญชีของประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพโดยตรง แต่กลับถูกระงับการใช้งานไปด้วย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ซวย” เนื่องจากมีเงินโอนเข้ามาจาก "บัญชีม้า" ทำให้ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย
ความคิดเห็นส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์มีอยู่ 2-3 ก้อนหลัก ได้แก่ 1. ติติงธนาคารว่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และไม่ยอมจัดการต้นตอ 2. แสดงความคิดเห็นว่าตนนั้นได้ถอนเงินออกจากบัญชีหมดแล้ว เพราะไม่ไว้ใจธนาคาร 3. แสดงว่าเกิดผลกระทบอย่างไรบ้างทั้งกับตัวเองและคนร้อบข้าง ซึ่งดูแล้วข้อสุดท้ายโชว์ให้เห็นช่องโหว่ที่ใหญ่มาก ๆ ที่ใครก็สามารถถูกอายัดบัญชีได้
เมื่อความกังวลแพร่สะพัดออกไปในโลกออนไลน์ หน่วยงานภาครัฐได้ตบเท้าเข้ามาชี้แจงกับประชาชน ดังนี้
วานนี้ (14 ก.ย. 2568) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาชี้แจงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากมาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อกักเงินคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ธปท. ตระหนักถึงผลกระทบต่อประชาชนสุจริตที่ถูกอายัดบัญชีไปด้วย จึงได้มีการหารือร่วมกับ ศปอท. และธนาคารพาณิชย์ เพื่อเร่งปรับปรุงแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยด่วน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่ามีขั้นตอนการตรวจสอบและแยกแยะระหว่างบัญชีม้ากับบัญชีของประชาชนทั่วไปอย่างชัดเจน โดยจะตรวจสอบจากเส้นทางการเงินและพฤติกรรมการทำธุรกรรมเป็นหลัก และยืนยันว่าการอายัดบัญชีของประชาชนสุจริตเป็นกรณีที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่าได้หารือกับ ศปอท. และธนาคารพาณิชย์แล้ว และเห็นชอบร่วมกันเบื้องต้นว่า จะเร่งปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต โดยจะมีการหารือร่วมกันวันนี้ (14 ก.ย.) และจะเริ่มดำเนินการได้ทันที
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่พบปัญหาในการใช้บริการทางการเงิน และได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา สามารถติดต่อยกเลิกการระงับ โดยติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2 ได้