พาแกะกลโกง "ผ่อนมือถือด้วยบัตรประชาชน" กับดอกเบี้ยสุดโหดกว่า300%

การผ่อนโทรศัพท์มือถือ เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย แต่รู้มั้ยว่าภายใต้ความสะดวกนั้น ถูกซ่อนไว้ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงและเงื่อนไขที่อาจเป็นภาระทางการเงินที่คุณคาดไม่ถึง

ข้อมูลของผู้ให้บริการหลายรายในไทย เผยให้เห็นว่า ดอกเบี้ยต่อปี (EIR) อาจมากกว่า 300% ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากสินเชื่อส่วนบุคคลที่ถูกกฎหมายซึ่งมีเพดานดอกเบี้ยไม่เกิน 25% ต่อปี ดอกเบี้ยที่ซ่อนเร้นทำให้ราคาสินค้าโดยรวมแพงขึ้นอย่างมหาศาล และกว่าคุณจะรู้ตัวก็ตกอยู่ในวงจรดอกเบี้ยมหาโหดนี้ไปแล้ว

ในบทความนี้ เราจะมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจผ่อนโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

แยกแยะสินเชื่อ "ถูกกฎหมาย" กับ "นอกระบบ"

ก่อนจะตัดสินใจผ่อนสินค้าใดๆ เราควรทำความเข้าใจประเภทของสินเชื่อกันก่อน เพื่อแยกแยะสินเชื่อถูกกฎหมายออกจากสินเชื่อนอกระบบที่อันตราย:

• สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan): สินเชื่อที่ถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองความต้องการทางการเงินที่หลากหลายของบุคคลทั่วไป อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดดอกเบี้ยไม่เกิน 25% ต่อปี
• บัตรเครดิต (Credit Card): อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. เช่นกัน กำหนดดอกเบี้ยไม่เกิน 16% ต่อปี หมายคนที่มีบัตรเครดิต ก็มักจะนิยมใช้ผ่อนสินค้าดอกเบี้ย 0% โดยเป็นการแบ่งชำระในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 4 เดือน 6 เดือน หรือ 10 เดือน
• สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase): นิยมใช้กับสินค้าที่มีมูลค่าสูงและมีระยะเวลาการใช้งานนาน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์
• สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance): ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ที่ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ที่ชัดเจนหรือไม่สม่ำเสมอ โดยกำหนดดอกเบี้ยไม่เกิน 33% ต่อปี

แล้วการผ่อนด้วยบัตรประชาชนใบเดียว จัดอยู่ในประเภทใด?

การผ่อนโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยเฉพาะกับร้านค้าโดยตรงที่ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต มักจะจัดอยู่ในกลุ่ม "สินเชื่อนอกระบบ" หรือ "Non-regulated Leasing" ซึ่งหมายความว่าไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานใดๆ ทำให้ผู้ให้กู้สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆ ได้ตามอำเภอใจ และนั่นคือที่มาของดอกเบี้ยสุดโหดและกลโกงที่เราจะมาเปิดเผยให้เห็นกันต่อจากนี้

ดอกเบี้ยซ่อนเร้น: ภัยเงียบจากผู้ให้บริการในตลาด

ปัจจุบันในตลาดของการผ่อนโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรประชาชนใบเดียว มีผู้ให้บริการหลากหลายรายที่นำเสนอเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ควรจับตามองคือ “อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี” หรือ EIR ซึ่งในหลายกรณีพบว่าอยู่ในระดับที่สูงจนน่าตกใจ เช่น ID Money ที่คิดดอกเบี้ยสูงถึง 382% ต่อปี, CJ More อยู่ที่ 352% ต่อปี, Strawberry IT คิดที่ 231% ต่อปี และ T-Plus หรือ iFINN อยู่ที่ 175% ต่อปี

ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ควรเกิน 25% ต่อปีอย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล เช่น SG Finance+ และ Samsung Finance+ คิดดอกเบี้ยอยู่ที่ 21.5% และ 18.7% ต่อปีตามลำดับ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่โปร่งใสและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าการเลือกผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายมีผลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยทางการเงินของผู้บริโภค

กลโกงที่ต้องระวัง: นอกเหนือจากดอกเบี้ยมหาโหด

นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยแล้ว ยังมีกลโกงและข้อควรระวังที่คุณต้องรู้เท่าทันจากผู้ให้บริการกลุ่มนี้ดอกเบี้ย 0% ปลอม: บางร้านอาจโฆษณาว่า "ดอกเบี้ย 0%" แต่แอบบวกราคาเครื่องให้สูงกว่าปกติ เมื่อคำนวณดูแล้วอาจแพงกว่าการซื้อแบบปกติ

สัญญาไม่เป็นธรรม: ต้องยอมรับว่าคนส่วนมากไม่ค่อยได้อ่านสัญญาอย่างละเอียด เพราะเนื้อหาส่วนมากจะค่อนข้างยาว ซับซ้อน เข้าใจยาก เพราะฉะนั้นการใส่เงื่อนไขที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น ค่าปรับที่สูงเกินจริง หรือเงื่อนไขการบอกเลิกสัญญาที่ยากลำบาก มักจะถูกสอดแทรกอยู่ในเนื้อหาจนเราไม่ทันสังเกต

การทวงหนี้โหดและการประจาน: หากผิดนัดชำระหนี้ คุณอาจต้องเผชิญกับการทวงหนี้ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หรือร้ายแรงกว่านั้นคือการประจานผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ID Money และ Strawberry IT กำหนดให้ต้องมีเพื่อนใน Facebook จำนวนมาก ซึ่งอาจถูกนำมาใช้ในการติดตามและทวงหนี้ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม

การล็อกเครื่องจากระยะไกล: เป็นกลโกงที่น่ากลัวที่สุด เพราะผู้ให้บริการนอกระบบจำนวนมากมีระบบที่สามารถล็อกเครื่องโทรศัพท์ของคุณจากระยะไกลได้ทันทีหากคุณผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้โทรศัพท์ของคุณใช้งานไม่ได้แล้ว ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ แอปฯธนาคาร หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ก็อาจตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย

จากข้อมูลพบว่าผู้ให้บริการหลายราย เช่น ID Money, Strawberry IT, T-Plus / iFINN และ Samsung Finance+ มีกลไกในการล็อกเครื่องหากไม่ชำระหนี้ตามกำหนด โดย ID Money และ Strawberry IT ใช้วิธีล็อก iCloud คล้ายกับการจำนำ iCloud 

ส่วน T-Plus / iFINN ใช้แอปพลิเคชัน Atom Tech ขณะที่ Samsung Finance+ ใช้ระบบ Knox Guard ของ Samsung ในการล็อกเครื่อง

เช็กลิสต์ที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจผ่อนสินค้าด้วยบัตรประชาชน

เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของวงจรดอกเบี้ยมหาโหดนี้ เราจะมาแนะนำเช็กลิสต์ในการตรวจสอบทุกครั้งก่อนตัดสินใจผ่อนสินค้าด้วยบัตรประชาชน:

1.สินเชื่อถูกกฎหมายหรือไม่? ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือไม่

2.ดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) เท่าไร? อย่าหลงไปกับคำว่า "ดอกเบี้ย 0%" ให้สอบถาม "อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี" (Effective Interest Rate) เสมอ และที่สำคัญคือให้ดูยอดจ่ายทั้งหมดเทียบกับราคาเครื่องจริง

3.เงื่อนไขในสัญญาเป็นอย่างไร? อ่านสัญญาให้ละเอียดถี่ถ้วนทุกบรรทัดก่อนลงชื่อ เพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไขการชำระคืน ค่าปรับ และข้อกำหนดอื่นๆ รวมถึงเงื่อนไขเบื้องต้นต่างๆ เช่น จำนวนเพื่อนใน Facebook ที่ผู้ให้บริการบางรายกำหนด

4.เมื่อผ่อนครบแล้ว กรรมสิทธิ์เป็นของเราหรือไม่? ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเมื่อผ่อนชำระครบตามสัญญาแล้ว โทรศัพท์จะเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ ไม่ใช่เพียงการเช่าใช้

5.หากผิดนัดชำระหนี้จะเกิดอะไรขึ้น? สอบถามผู้ให้บริการโดยตรงว่าหากผิดนัดชำระ และมีเงื่อนไขอย่างไร มีระบบล็อกเครื่องหรือไม่ หากมีการล็อกเครื่อง ควรตรวจสอบข้อมูลจากผู้ให้บริการอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การทำความเข้าใจเงื่อนไข สอบถามข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตและมีความโปร่งใส จะช่วยปกป้องคุณจากดอกเบี้ยที่สูงเกินจริงและกลโกงต่างๆ การรู้เท่าทันและตัดสินใจอย่างรอบคอบ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเทคโนโลยีได้อย่างไร้กังวล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ผ่อนมือถือกับร้านค้า ข้อควรรู้ก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์

• ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดคนละ 20 ปี

• “บิ๊กโจ๊ก” ลุยปราบนายทุนดอกเบี้ยโหดภาคเหนือ ยึดทรัพย์ 250 ล้านบาท [คลิป]