SHORT CUT
ย้อนคดี "เจ๊ปอง" พร้อมแกนนำพันธมิตรฯ รวม 4 คน นำผู้ชุมนุมบุกสถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ก่อนศาลฎีกาพิพากษา
ย้อนเหตุการณ์ภายหลังการเลือก ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ผลปรากฏว่า พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งเป็นแกนนำจัด ตั้งรัฐบาลสำเร็จ ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาทำงานบริหารประเทศ โดยมีเงื่อนไขว่ารัฐบาลนายสมัครต้องไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและสื่อสาร มวลชนทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
เมื่อรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชเข้ามาบริหารประเทศได้ระยะเวลาหนึ่ง ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ได้แทรกแซงการสื่อสารมวลชน รวมทั้งกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 26 ส.ค. 2551 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกสถานีโทรทัศน์ NBT ถ.วิภาวดีรังสิต โดยอ้างว่าต้องการทวงคืนสื่อของรัฐที่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ได้พังประตูรั้วเข้ามาภายในตัวสถานี ขณะนั้นทางจิรายุ ห่วงทรัพย์ และบุ๋ม ปนัดดา กำลังจัดรายการข่าวเช้าอยู่ ส่งผลให้ต้องยุติรายการกลางคัน โดยผู้ประกาศและพนักงานบางส่วนต้องรีบอพยพหนีออกจากสถานี
ต่อมาอัยการ ยื่นฟ้อง 85 การ์ดพันธมิตรฯ กลุ่มนักรบศรีวิชัย ต่อศาลอาญา ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ กรณีปี 2551 ชุมนุมบุกเข้าไปในที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ NBT (ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแล้ว 17 พ.ย.57 ให้จำคุก คนละ 3-8 เดือน มีจำเลยบางคนรอลงอาญา
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก น.ส.อัญชะลี, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ให้จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา เหตุร่วมกันกระทำความผิด ในลักษณะเป็นหัวหน้าและเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ ในการกระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร ฐานร่วมกันทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ฐานร่วมกันบุกรุก และฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น
ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย. 2568) ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น.
โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด
น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก หรือ เจ๊ปอง หนึ่งในจำเลย เปิดใจก่อนรับฟังคำพิพากษาของศาลในชั้นฎีกาว่า ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็น้อมรับ เพราะที่ผ่านมาเราและทีมทนายความทำดีที่สุดแล้ว เพื่อบอกความจริงว่าเราทำอะไรและไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อส่วนรวมและสาธารณะ โดยไม่ได้รับอะไรจากสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งตนเองก็ต่อสู่กับระบอบทักษิณมาเกือบ 20 ปีแล้ว