svasdssvasds

"สีหศักดิ์" ฟ้อง UN โต้กัมพูชาเล่นบทเหยื่อ ไทยยืนหยัดปกป้องอธิปไตย

"สีหศักดิ์" ฟ้อง UN โต้กัมพูชาเล่นบทเหยื่อ ไทยยืนหยัดปกป้องอธิปไตย

"สีหศักดิ์" โต้กลับ "กัมพูชา" กลางเวที UN แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ละเมิดข้อตกลงไม่หยุดหย่อน บิดเบือน-ล้อเลียนความจริง

SHORT CUT

  • นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ UN โต้แย้งกัมพูชาที่พยายามแสดงตนเป็น "เหยื่อ" และบิดเบือนข้อเท็จจริง
  • ไทยชี้ว่าเหยื่อที่แท้จริงคือทหารไทยที่บาดเจ็บจากทุ่นระเบิด เด็กนักเรียน และพลเรือนที่ถูกโจมตีด้วยจรวดของกัมพูชา
  • ฝ่ายไทยกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นผู้ริเริ่มความขัดแย้งและยั่วยุอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งโดรนสอดแนมล้ำแดน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
  • ประเทศไทยยืนยันจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างมั่นคง แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
  • ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจา และเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพแทนการเผชิญหน้า

"สีหศักดิ์" โต้กลับ "กัมพูชา" กลางเวที UN แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ละเมิดข้อตกลงไม่หยุดหย่อน บิดเบือน-ล้อเลียนความจริง

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ สมัยที่ 80 ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเน้นย้ำถึงความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และเรียกร้องให้กัมพูชายุติการยั่วยุอย่างต่อเนื่อง

โดยนายสีหศักดิ์ ได้ย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ และภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และย้ำความสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมเสนอว่า ควรมีการพัฒนาระบบสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประเทศกำลังพัฒนาด้วย

นายสีหศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสรุปและแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เป็นผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ 2 ประเทศ เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ ''ครอบครัวอาเซียน'' เดียวกัน

นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ในการอภิปรายครั้งนี้ ตนตั้งใจที่จะอภิปรายในสิ่งที่แตกต่างและเป็นเชิงบวก เพื่อสะท้อนความหวังสำหรับอนาคต แต่ตนกลับต้องแก้ไขคำอภิปรายใหม่ เพราะการอภิปรายที่น่าผิดหวังจากฝ่ายกัมพูชา ที่ยังคงนำเสนอตัวเองว่า ''เป็นเหยื่อ'' ครั้งแล้วครั้งเล่า และพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง

เชื่อมั่นว่า ทุกคนจะรับทราบว่า ''ใครคือเหยื่อที่แท้จริง'' เพราะพวกเขาเหล่านั้น คือ ทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด, เด็ก ๆ ที่โรงเรียนถูกถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ที่กำลังจับจ่ายซื้อของอยู่ในร้านค้า แต่กลับถูกโจมตีด้วยจรวดของกัมพูชา

และเมื่อวานนี้เอง ตนเองได้พบกับฝ่ายกัมพูชาในที่แห่งนี้ และได้พูดคุยกันถึงเรื่องสันติภาพ การเจรจา ความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการเน้นย้ำอีกครั้งในภายหลังที่ การประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการ 4 ฝ่าย ที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา ซึ่งฝ่ายไทยขอขอบคุณนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่มุ่งมั่นเพื่อสันติภาพ ​แต่น่าเสียดายในสิ่งที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวในวันนี้ กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้กล่าวไว้เมื่อวานในที่ประชุมโดยสิ้นเชิง ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ซึ่งข้อกล่าวหานั้นห่างไกลจากความจริง จนเป็นการล้อเลียนความจริง

 

นายสีหศักดิ์ ยังย้ำว่า ​ตั้งแต่แรกเริ่มฝ่ายกัมพูชา ได้เป็นผู้ริเริ่มความขัดแย้ง โดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทชายแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และทำให้กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น และก็เป็นเช่นนี้อีกครั้งในเช้านี้ ซึ่ง​หมู่บ้าน ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างถึงชาวกัมพูชาที่ถูกขับไล่ (บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว) นั้น ตนขอยืนยันว่า อยู่ในดินแดนของไทย ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ในปี 1970 ประเทศไทย ได้ตัดสินใจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เปิดพรมแดนให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนซึ่งหลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของพวกเขา ได้มาพักพิงในประเทศไทย จากการตัดสินใจของฝ่ายไทยด้วยความเมตตา และคำนึงหลักการด้านมนุษยธรรม ซึ่งตนเองเมื่อครั้งเป็นนักการทูตใหม่ ๆ ก็ได้เห็นด้วยตาตัวเอง และ​แม้ว่า สงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลง และที่พักพิงถูกปิด แต่หมู่บ้านของชาวกัมพูชา ก็ได้ขยายตัวมาตลอดต่อเนื่องหลายทศวรรษ ซึ่งแม้ว่า ประเทศไทยจะประท้วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชา กลับเพิกเฉยละเลยต่อคำประท้วงเหล่านั้น ในการแก้ไขการรุกล้ำนี้

นายสีหศักดิ์ ยังระบุอีกว่า เมื่อกัมพูชากลับคืนสู่สันติภาพ ด้วยข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี 1991 ไทยก็ได้ช่วยสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชา เพื่อรักษาสันติภาพ ทั้งการสร้างบ้าน สร้างถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เพราะนี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 

นายสีหศักดิ์ ยังยอมรับว่า ข้อตกลงการหยุดนั้นอ่อนไหวมาก แต่ก็จะต้องดำเนินการให้ได้ผลจากความมุ่งมั่น และดำเนินการอย่างจริงใจ และยังเป็นที่น่าเสียใจว่า การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา ทั้งการระดมพลเรือนกัมพูชา รุกอธิปไตยไทย และการยิงยั่วยุเข้ามายังฝ่ายไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้บ่อนทำลายสันติภาพ และเสถียรภาพตามแนวชายแดน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ทหารกัมพูชายิงใส่ทหารไทยที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดน และล่าสุดเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทหารไทยยังคงตรวจพบโดรนสอดแนมของกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนอธิปไตยไทย ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันดังนั้น การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ที่บรรลุในที่ประชุมพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้รับการยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชาชุดต่างๆ 

นายสีหศักดิ์ ยังขอให้ประชาคมโลกเชื่อมั่นอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัยได้เลยว่า ประเทศไทย ยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอด และจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพต่อไป และจะทำทุกวิถีทาง เพื่อหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหากับกัมพูชา

ประเทศไทย จะยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย พร้อมยังขอเรียกร้องให้กัมพูชา ให้ความร่วมมือในการแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาอย่างสันติในกลไกที่มีอยู่ และ 2 ประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ในฐานะเพื่อนบ้าน ฝ่ายไทยต้องขอถามฝ่ายกัมพูชาว่า ฝ่ายกัมพูชา ปรารถนาจะเลือกเส้นทางใด จะเป็นเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือหรือเส้นทางแห่งสันติภาพ และความร่วมมือ แต่ประเทศไทยขอยืนยันว่า ''ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ'' และฝ่ายกัมพูชามีเจตนาที่แท้จริง ที่จะร่วมเส้นทางกับประเทศไทยในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่

นายสีหศักดิ์ ยังยืนยันว่า สำหรับประเทศไทยแล้ว การเจรจา ความไว้วางใจ และความสุจริตใจไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือหนทางที่ประเทศไทย จะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ มีส่วนร่วมกับพันธมิตรในอาเซียน และชาติอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพที่ยั่งยืน และมีความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

อย่างไรก็ตามระหว่างการอภิปรายของนายสีหศักดิ์ ได้มีเสียงปรบมือจากที่ประชุมเป็นระยะ ๆ เช่น ในระหว่างการกล่าวถึงครอบครัวอาเซียน, การกล่าวถึงสถานการณ์บ้านหนองจาน และหนองหญ้าแก้ว ที่ประเทศไทยเคยให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกัมพูชาขณะเกิดสงครามกลางเมือง รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือจากประเทศไทยในการช่วยสร้างบ้าน สร้างถนน และโรงพยาบาล หลังสงครามการเมืองของกัมพูชาสงบลง

ทั้งนี้ ในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ ยังได้เข้าร่วมการหารือ 4 ฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ มาเลเซีย ไทย และกัมพูชา ตามข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่มีความพยายามส่งเสริมบรรยากาศที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ซึ่งการหารือในครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยที่ไม่มีข้อผูกมัดหรือเงื่อนไขใด ๆ สำหรับการหารือ และเป็นโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นต่อทิศทางการดำเนินการต่อไปเพื่อลดความตึงเครียดและเพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด

โดยฝ่ายไทย มองว่า การหารือในครั้งนี้ เป็นการวัดความจริงใจ ที่จะแก้ไขปัญหา โดยจุดมุ่งหมายสำคัญของฝ่ายไทย คือความมั่นคงปลอดภัยตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา และเพื่อความชัดเจนในการเดินหน้าต่อไป

ที่มา : เนชั่นทีวี 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related