svasdssvasds

สินบนคอลเซ็นเตอร์ 40 ล้าน ผิด ม.157? จนท.รัฐพบแล้วไม่ดำเนินการผิดหรือไม่

สินบนคอลเซ็นเตอร์ 40 ล้าน ผิด ม.157? จนท.รัฐพบแล้วไม่ดำเนินการผิดหรือไม่

หลัง "ไชยชนก" เปิดเผยว่าถูกเสนอสินบน 40 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่รัฐรับรู้เรื่องการเสนอสินบนแต่ไม่แจ้งความในทันทีเข้าข่ายความผิด ม.157 หรือไม่

SHORT CUT

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี (ไชยชนก ชิดชอบ) เปิดเผยว่าถูกเสนอสินบน 40 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อแลกกับการไม่ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว
  • มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่เจ้าหน้าที่รัฐรับรู้เรื่องการเสนอสินบนแต่ไม่แจ้งความในทันที อาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
  • คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรหลายชุดกำลังติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ โดยได้เชิญรัฐมนตรีเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความโปร่งใส

หลัง "ไชยชนก" เปิดเผยว่าถูกเสนอสินบน 40 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่รัฐรับรู้เรื่องการเสนอสินบนแต่ไม่แจ้งความในทันทีเข้าข่ายความผิด ม.157 หรือไม่

วันนี้ 9 ตุลาคม 2568 คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอี) สภาผู้แทนราษฎร มีการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าหน้าที่รัฐในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และกรณีมีการเสนอสินบน 40 ล้านบาทให้ละเว้นการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยได้เชิญนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง แต่เจ้าตัวไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมตามกำหนด

นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ประธานกมธ.ดีอี กล่าวว่า ได้เชิญรัฐมนตรีมาชี้แจง เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้มีมูลจริง จากข้อมูลที่คณะกรรมาธิการติดตามมากว่า 4-5 ปี ซึ่งนำไปสู่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ พร้อมยืนยันว่า ตัวละครทั้งหมดมีอยู่จริง และกรรมาธิการจะออกหนังสือเชิญอีกครั้ง เพื่อให้รัฐมนตรีมาชี้แจงต่อสาธารณะ

ย้อนรอยสินบนสแกมเมอร์ 40 ล้านบาท

ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 68 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ได้ลุกยืนอภิปรายกลางสภา หลังนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายตอนหนึ่งเกี่ยวกับ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ ยังขาดประสบการณ์ความรู้ความสามารถ ว่า

“ผมยังไม่ได้รับตำแหน่งมีคนติดต่อหาผมไม่ใช่โดยตรงผ่านเพื่อนสมาชิกที่ทราบรู้จักผมเสนอเดือนละ 40 ล้านบาทเพื่อไม่ให้จับเรื่องคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์ ทำให้สงสัยประเพณีปฏิบัติของรัฐมนตรีกระทรวงดีอีเป็นอย่างไรผมปฏิเสธไปแล้ว”

ต่อมานายไชยชนก ได้สั่งการให้ นายพชร อนันตศิลป์  ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ทำหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งได้สั่งการให้เร่งรัดสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี สินบน “สแกมเมอร์ 40 ล้าน” ข้อสั่งการดังกล่าวส่งผลให้นายพชร อนันตศิลป์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ โดยปลัดดีอีฯ ทำหน้าที่เป็นประธาน

 

หลังจากนั้นวันที่ 6 ต.ค. 2568 นายไชยชนก เข้าแจ้งความกับกองปราบปราม หลังการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า มีผู้มาติดสินบน 40 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ให้เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ โดยต้องการให้ตำรวจกองปราบฯ ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

"โรม" เตรียมแฉ "รัฐ-เอกชน" เอี่ยว "เว็บพนันฟอกเงิน"

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน กมธ. มีวาระพิจารณาติดตามปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย โดยเตรียมเชิญ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาชี้แจงกรณีถูกเสนอสินบนเดือนละ 40 ล้านบาท แลกกับการไม่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะเกี่ยวพันโดยตรงกับทุนเทาที่กำลังพยายามยึดประเทศไทย ผ่านการฟอกเงินและการแทรกซึมในกลไกรัฐ

ปัญหาการฟอกเงินมีความซับซ้อนสูง ใช้นอมินีและบริษัทบังหน้าเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ รัฐบาลที่ผ่านมามักเน้นเพียงบัญชีม้า–ซิมม้า แต่ไม่ได้ทำลายโครงสร้างจริงของอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งต้องเริ่มจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเครือข่ายฟอกเงินขนาดใหญ่

นายรังสิมันต์ ยอมรับว่ามีเอกสารความยาว 48 หน้า ที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของรัฐ–เอกชน และบุคคลทางการเมืองบางส่วนกับขบวนการฟอกเงิน พร้อมระบุว่า กมธ.จะเชิญ นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าชี้แจงในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เนื่องจากพบความเชื่อมโยงบางประการในเครือข่ายดังกล่าว
 


 

นายรังสิมันต์ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ แต่เกี่ยวพันกับความมั่นคงและความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชาที่ซับซ้อน เพราะทุนสีเทาบางกลุ่มมีผลประโยชน์ร่วมกับกลุ่มอำนาจในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ามองอย่างเป็นธรรม จะเห็นว่าปัญหาไทย–กัมพูชา ไม่ได้มีแค่เรื่องเขตแดน แต่เป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและทุนสีเทา ซึ่งบางส่วนเชื่อมโยงกับบริษัทพลังงานข้ามชาติ อย่างกรณีบางจาก–เชฟรอนที่นายวิโรจน์อภิปรายไว้ก่อนหน้า

นายรังสิมันต์ ย้ำว่ากรรมาธิการไม่ต้องการทำลายใคร แต่ต้องการความจริง เพื่อปกป้องประเทศจากเครือข่ายฟอกเงินขนาดใหญ่ที่ “ฝังตัวอยู่ในทุกอณูของอำนาจรัฐ” พร้อมเผยว่าเอกสารบางส่วนเป็นราชการ และบางส่วนเป็นของเอกชนที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วว่ามีน้ำหนักทางหลักฐาน

ชี้ปมสินบน 40 ล้าน เสี่ยง ผิด ม.157

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้แถลงถึงกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยได้ตั้งข้อสงสัยต่อท่าทีของนายไชยชนกในประเด็นสินบน 40 ล้านบาทด้วยว่า หากรัฐมนตรีรับรู้ว่ามีการกระทำที่ไม่โปร่งใสทำไมถึงไม่แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือ ป.ป.ช. ในทันที

การที่รัฐมนตรีรับรู้ข้อมูลทุจริตแล้วไม่แจ้งความอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 อย่างไรก็ตามการที่นายไชยชนกตั้งคณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงเป็นประธานตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ตนตั้งข้อสังเกตว่าปลัดกระทรวงอาจไม่กล้าตรวจสอบรัฐมนตรีและ สส. ที่อยู่ในซีกรัฐบาล พร้อมระบุว่าไม่ต้องการให้การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นเพียงการสร้างประเด็นทางการเมืองเท่านั้น

ด้านนายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข อดีตบรรณาธิการบริหารประชาไท และนักวิเคราะห์ในช่องวอยซ์ทีวี ได้วิเคราะห์ประเด็นสินบน 40 ล้านบาทของนายไชยชนก ชิดชอบ โดยระบุว่า การที่รัฐมนตรีรับรู้ข้อมูลทุจริตแล้วไม่แจ้งความอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และถ้าไม่ปราบสแกมเมอร์ หรือพนันออนไลน์ยังมีอยู่ภายใน 4 เดือน อาจหมายถึงการรับเงิน 40 ล้านด้วยหรือไม่ 

ขณะที่ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่าน X โดยระบุว่า “เห็นท่าน รมต.ดีอี ป้ายแดง อภิปรายว่ามีคนกล้าเสนอเงินถึง 40 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อแลกกับการไม่จับและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยท่านก็ตั้งคำถามว่า นี่เป็น “ประเพณีปฏิบัติ” ตั้งแต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่

ดิฉันในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ขอชี้แจงว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย ไม่เคยปรากฏกรณีที่มีผู้ใดติดต่อรัฐมนตรีของพรรคเราเพื่อเสนอสินบน เพราะแนวทางของเรามีจุดยืนชัดเจนในการปราบปรามอาชญากรรมและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันมาโดยตลอด

อยากย้อนถามกลับไปยังท่านรัฐมนตรีว่า เหตุใดพอพรรคของท่านเพิ่งมาเป็นแกนนำรัฐบาลไม่กี่วัน ถึงได้มีคนกล้ารีบติดต่อหาท่านเพื่อเสนอเงินเร็วเพียงนี้ หรือเป็นเพราะพรรคของท่านมีภาพลักษณ์ที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพเข้าใจไปว่า มีช่องทางในการพูดคุยเรื่องที่ผิดกฎหมายเช่นนี้ได้ ใช่หรือไม่? “ประเพณีปฏิบัติ” ที่ท่านกล่าวมา ดิฉันกังวลใจว่ามันอาจกำลังจะเริ่มขึ้นในรัฐบาลชุดนี้มากกว่าหรือไม่คะ

ที่สำคัญ การที่มีคนพยายามติดต่อเสนอเงินเช่นนี้ ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ฐาน “ให้สินบนเจ้าพนักงาน” ท่าน รมต.ป้ายแดงจึงยิ่งต้องพิสูจน์ความจริงใจ ด้วยการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่ใช่เพียงใช้เวทีของสภาเพื่อโยนคำถามให้พรรคอื่นเสียหาย

มาตรา 157 คืออะไร?

มาตรา 157 คือหนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งบัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

related