svasdssvasds

เสียงชุมชนสะท้อน สิทธิที่อยู่อาศัย ถูกพรากจากโครงการพัฒนา

เสียงชุมชนสะท้อน สิทธิที่อยู่อาศัย ถูกพรากจากโครงการพัฒนา

เปิดเวที ‘New Home Near Me’ ฟังเสียงสะท้อนชุมชนที่อาจถูกไล่รื้อจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ ทั้งแลนด์บริดจ์ เหมืองแร่ และป่าคาร์บอน

SHORT CUT

  • แอมเนสตี้ ประเทศไทย จัดเวทีเสวนาชี้ให้เห็นว่า โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น แลนด์บริดจ์ เหมืองแร่ และป่าคาร์บอน กำลังคุกคาม "สิทธิในที่อยู่อาศัย" ของชุมชนหลายแห่ง
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายย้ำว่า สิทธิในที่อยู่อาศัยเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามกติกาสากล แต่กฎหมายไทยยังไม่สามารถคุ้มครองประชาชนจากการถูกไล่รื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตัวแทนชุมชนจากระนอง ภูเก็ต และแม่ฮ่องสอน สะท้อนเสียงความเดือดร้อนจากการสูญเสียที่ดินทำกิน วัฒนธรรม และความมั่นคงในชีวิต โดยขาดการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

เปิดเวที ‘New Home Near Me’ ฟังเสียงสะท้อนชุมชนที่อาจถูกไล่รื้อจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ ทั้งแลนด์บริดจ์ เหมืองแร่ และป่าคาร์บอน

7 องค์ประกอบ ‘สิทธิที่อยู่อาศัย’ ที่รัฐอาจกำลังพรากไปจากประชาชน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเวที ‘New Home Near Me’ สะท้อนภาพ "บ้าน" ที่ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่คือศักดิ์ศรีและวิถีชีวิตที่กำลังถูกคุกคามโดยโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ เปลี่ยนจากพื้นที่ปลอดภัยให้กลายเป็น "พื้นที่เสี่ยง" ของการถูกไล่รื้อ โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างและเสียงสะท้อนจากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง


 7 องค์ประกอบสิทธิที่อยู่อาศัย ที่ถูกท้าทาย

ศตพัฒน์ ศิลป์สว่าง จากแอมเนสตี้ฯ ได้สรุปหลักสากลของ "สิทธิในที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ" (Right to Adequate Housing) ซึ่งประกอบด้วย 7 องค์ประกอบสำคัญที่ชุมชนหลายแห่งในไทยกำลังขาดหายไปจากการพัฒนาที่ไม่สมดุล

  • ความมั่นคงทางกฎหมาย: การขาดเอกสารสิทธิ์ที่ชัดเจน ทำให้ชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ อยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการถูกไล่รื้อ แม้จะอาศัยอยู่มานานหลายชั่วอายุคน
  • ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม: การถูกโยกย้ายไปยังพื้นที่ใหม่ อาจสร้างภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าจะแบกรับไหว ทำให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นย่ำแย่ลง
     
  • ความเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย: การสร้างเหมืองแร่ใกล้ชุมชน หรือการถมทะเลเพื่อทำท่าเรือ ทำให้บ้านไม่ปลอดภัยจากมลพิษและภัยพิบัติอีกต่อไป
  • การเข้าถึงสาธารณูปโภค: ชุมชนที่ถูกผลักไสหรือตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล มักขาดการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น น้ำสะอาด ไฟฟ้า และโรงพยาบาล
  • การเข้าถึงได้: กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการ เด็ก และผู้สูงอายุ มักถูกละเลยในการออกแบบที่อยู่อาศัยหรือการเยียวยาที่ไม่ครอบคลุม
  • ที่ตั้ง: การย้ายที่อยู่อาศัยไปไกลจากแหล่งทำมาหากินเดิม โรงเรียน และเครือข่ายสังคม เป็นการตัดขาดรากเหง้าและสร้างต้นทุนชีวิตมหาศาล
  • ความเหมาะสมทางวัฒนธรรม: การพัฒนาที่ทำลายพื้นที่ทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของชุมชน เช่น ป่าชายเลนของชาวประมง หรือพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์ ถือเป็นการละเมิดสิทธิอย่างรุนแรง


เปิดกฎหมายสิทธิชุมชน: เมื่อการ "รับรอง" ไม่ใช่การ "คุ้มครอง"

แม้หลักการสากลจะชัดเจน แต่กฎหมายไทยยังคงมีช่องว่าง สุมิตรชัย หัตถสาร ผู้อำนวยการ CPCR ตั้งคำถามว่ากฎหมายที่ "รับรอง" สิทธิชุมชน สามารถ "คุ้มครอง" คนจนได้จริงหรือไม่ ขณะที่ ผ.ศ.เสาวนีย์ แก้วจุลกาญจน์ จาก ICJ ชี้ว่า "รัฐมองเห็นเพียงคำว่าที่อยู่อาศัย แต่ไม่มองมุมกว้างถึงคำว่าที่ดินทำกิน" ทำให้การไล่รื้อส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังสิทธิในอาหารและสิทธิในน้ำ


ด้านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติยอมรับว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและที่อยู่อาศัยจำนวนมาก และย้ำว่าการบังคับขับไล่ "ควรเป็นมาตรการสุดท้ายที่รัฐจะทำ" ไม่ใช่เครื่องมือแรกในการพัฒนา

เสียงจากแผ่นดิน: เมื่อการพัฒนาสวนทางวิถีชีวิต


เวทีเสวนาได้สะท้อนเสียงจริงจากผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เป้าหมายของโครงการขนาดใหญ่
 

  • ภูเก็ต (คาร์บอนเครดิต): พิเชษฐ์ ปานดำ ตัวแทนชาวประมง เล่าว่าป่าชายเลนที่เป็นทั้งบ้านและแหล่งทำกิน กำลังถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่โครงการ "คาร์บอนเครดิต" ซึ่งชาวบ้านมองว่าเป็นการ "ฟอกเขียว" ที่เอื้อประโยชน์ให้นายทุน แต่ลดทอนสิทธิของชุมชนในการจัดการทรัพยากรของตนเอง
  • ระนอง (แลนด์บริดจ์): รสิตา ซุ่ยยัง และ ก้อย ทะเลลึก ตัวแทนชุมชนและกลุ่มชาติพันธุ์มอแกน แสดงความกังวลว่าโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะถมทะเลกว่า 7,000 ไร่ จะทำลายระบบนิเวศ แหล่งทำมาหากิน และอาจทำให้พวกเขาต้องพลัดถิ่นโดยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน "เราปกป้องทรัพยากรเพื่อทุกคน เราต้องเสียสละให้ใคร ใครต้องมาได้ประโยชน์ในถิ่นเกิดของเรา"
  • แม่ฮ่องสอน (เหมืองแร่): วิไลพร ขยันกิจเพิ่มพูน เยาวชนเครือข่ายลุ่มน้ำลา เล่าถึงผลกระทบยาวนานกว่า 30 ปีจากเหมืองแร่ฟลูออไรด์ ทั้งฝุ่นมลพิษ สารปนเปื้อนในแหล่งน้ำ และปัญหาสังคมจากแรงงานข้ามชาติ ซึ่งทำลายความอุดมสมบูรณ์และความปลอดภัยของหมู่บ้านไปจนหมดสิ้น

มุมมองจากเวทีนี้สรุปได้ว่า ชุมชนไม่ได้ปฏิเสธการพัฒนา แต่คัดค้าน "ความเจริญที่ไม่สมเหตุสมผล" และไม่เคารพสิทธิมนุษยชน การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเริ่มต้นจากการรับฟังเสียงของประชาชน เพราะท้ายที่สุดแล้ว "ประชาชนคือหัวใจของการพัฒนาประเทศ"
 

related