SHORT CUT
คณะกรรมการโนเบลมอบรางวัลสันติภาพ 2568 แก่ ‘มาเรีย คอรีนา มาชาโด’ ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา สัญลักษณ์การต่อสู้กับเผด็จการ ขณะที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ พลาดหวังอีกครั้ง
วันนี้ (10 ตุลาคม 2568) คณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์ได้ประกาศผลรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2568 ณ กรุงออสโล ซึ่งมีผู้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้รวม 338 ราย แบ่งเป็นบุคคล 244 ราย และองค์กร 94 แห่ง
โดยผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้คือ 'นางมาเรีย คอรีนา มาชาโด' (María Corina Machado) นักการเมืองหญิงและผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญของเวเนซุเอลา วัย 58 ปี จากการต่อสู้อย่างสันติและไม่ย่อท้อเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศ
คณะกรรมการโนเบลยกย่องมาชาโดในฐานะผู้ "รักษาเปลวไฟแห่งประชาธิปไตยท่ามกลางความมืดมิด"
และมอบรางวัลให้สำหรับ "การทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเธอในการส่งเสริมสิทธิประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวเวเนซุเอลา และสำหรับการต่อสู้ของเธอเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ยุติธรรมและสันติ"
มาชาโด หรือที่รู้จักในนาม "สตรีเหล็กแห่งเวเนซุเอลา" คือสัญลักษณ์ของการยืนหยัดต่อต้านระบอบอำนาจนิยมของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร
แม้จะเผชิญกับการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง การคุกคาม และต้องหลบซ่อนตัวนานกว่า 14 เดือน เธอยังคงใช้สันติวิธีเป็นอาวุธสำคัญ โดยเน้นย้ำว่าการต่อสู้ของเธอใช้เพียง "ความจริงและเอกสารเลือกตั้ง ไม่ใช่ปืนหรือกองกำลัง" จนกลายเป็นผู้นำทางศีลธรรมที่กล้าหาญของประเทศ
ในขณะเดียวกัน การประกาศผลครั้งนี้ก็ได้ดับความหวังของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พลาดรางวัลนี้ไปอีกหนึ่งปี แม้เขาจะกล่าวอ้างหลายครั้งว่าสมควรได้รับรางวัลจากการเป็นผู้หยุดสงครามได้ถึง 8 ครั้ง รวมถึงการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสล่าสุด
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโนเบลชี้แจงว่าผลงานของทรัมป์ยัง "ไม่ยั่งยืน" พอที่จะนำไปสู่ "สันติภาพถาวร" และที่สำคัญคือคณะกรรมการได้ตัดสินใจเลือกผู้ชนะรางวัลประจำปี 2568 ไปแล้วหลายวัน ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้
ที่มา : REUTERS