สหรัฐฯ ประท้วง "No Kings" ต่อต้านทรัมป์ ใช้อำนาจในทางมิชอบ

เมื่อวันเสาร์ ที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา มีชาวอเมริกันจากทั่วสหรัฐฯ ออกมารวมตัวกันชูป้ายส่งเสียงตะโกนบริเวณไทม์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้ เพื่อร่วมเดินขบวนประท้วงที่เรียกว่า "No Kings" (ไม่เอาพระราชา) โดยมีจุดประสงค์ในการต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

หลายคนพากันชูป้ายข้อความที่เขียนว่า "ต่อต้านพวกฟาสซิสต์ผู้ทรยศ" และ "ไม่มีมงกุฎ ไม่มีกษัตริย์" เพื่อสื่อถึงทรัมป์ที่มีพฤติกรรมการใช้อำนาจแบบเผด็จการ วางตัวเหมือนเป็นพระราชาของประเทศมากกว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน เคยมีการประท้วง "No Kings" ระลอกแรก ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5 ล้านคน โดยเป็นการประท้วงอย่างสันติเพื่อประกาศว่า "อเมริกาไม่มีกษัตริย์" ทั้งยังตรงกับวันเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของกองทัพ ซึ่งตรงกับวันเกิดปีที่ 79 ของทรัมป์พอดีด้วย ทำให้ผู้จัดการประท้วงประเมินว่าในครั้งนี้ก็มีผู้เข้าร่วมหลายล้านคนเช่นกัน

พวกเขาอ้างถึงความไม่พอใใจที่มีต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ เช่น การกักตัวผู้อพยพที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง การลดทรัพยากรด้านการศึกษาของรัฐบาลกลาง การขัดขวางมาตรการปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมและข้อกังวลอื่นๆ

ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ต่างออกมาประณามเหตุการณ์นี้ว่าเป็น "การชุมนุมแสดงความเกลียดชังอเมริกา" และอ้างว่าเป็นการถ่วงเวลาการปิดทำการของรัฐบาลกลางให้ยืดเยื้อออกไปอีกซึ่งอาจมีพรรคเดโมแคตรอยู่เบื้องหลัง

ด้านผู้จัดงานโต้แย้งว่าพรรครีพับลิกันที่อยู่ในอำนาจต้องรับผิดชอบต่อการปิดรัฐบาลที่เกิดขึ้น และการประท้วงของพวกเขานับเป็นการประท้วงอย่างสันติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อต่อต้านการใช้อำนาจเกินขอบเขตของระบอบการปกครองนี้