SHORT CUT
สาวๆหลายคนที่รอเจ้าบ่าวจะขอก็รีบขอ ทุกวันนี้อาจเสี่ยง..หม้ายขันหมากได้ เพราะราคาทองคำไทย มีโอากาสทะลุบาทละ7หมื่น ไม่ไกลเกินเอื้อม
นาทีนี้ต้องจับตาดูราคาทองคำ นาทีต่อนาทีว่าจะขยับไปไกลได้แค่ไหน แต่...มีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสำนักมองว่าไม่เกินสิ้นปี2568 นี้อาจทะลุบาทละ 7 หมื่นบาทได้ ทั้งนี้ปัจจุบันมีนักลงทุนมากมายเข้ามาเก็งกำไรจากราคาทองคำที่ส่วนใหญ่จะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นล่าสุดราคาทองวันนี้ 20 ต.ค.68 สมาคมค้าทองคำ ได้มีการประกาศไปแล้วถึง ประกาศครั้งที่ 8 ดีดตัวร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยทองรูปพรรณขายออกบาทละ 67,000 บาท ทองคำแท่งมีราคารับซื้อในประเทศอยู่ที่บาทละ 66,100 บาท และขายออกที่ราคาบาทละ 66,200 บาท
ด้านทองรูปพรรณ 96.5 เปอร์เซ็นต์ รับซื้ออยู่ที่บาทละ 64,778.68 บาท ราคาขายออกบาทละ 67,000 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 4,266.00 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 10.55 น.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหากย้อนไปดูทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองปรับตัวขึ้นไปแล้วถึงราว 8.6% และคาดว่าจะปิดรอบสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 17 ปี นับตั้งแต่เดือนก.ย. 2008 หรือในช่วงวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐ โดยทำราคาสูงสุดทุบสถิติใหม่ทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์
ขณะที่ ‘พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า YLG ประเมินว่าทองคำยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และมีโอกาสเห็นราคาทะลุ 4,435 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือราว 78,000 บาท ภายในสิ้นปี2568 นี้ โดยคำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาทต่อดอลลาร์ และหากราคายืนเหนือระดับดังกล่าวได้มีโอกาสไปต่อถึง 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 80,000 บาทต่อบาททองคำ นับได้ว่าเป็นการปรับขึ้นอย่างมหาศาล
สำหรับใครที่ถามว่าแล้วราคาทองคำพุ่งขึ้นจากอะไร? ก็น่าจะมีจากหลายปัจจัย ดังนี้
มาฟังความเห็นเรื่องราคาทองคำ กับ ‘จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี’ นายกสมาคมค้าทองคำ ที่มองว่า ราคาทองคำที่ขึ้นแรงและเร็ว ทำให้ขณะนี้ปรับเป้าหมายใหม่ และคาดการณ์ถึงสิ้นปี 2568 ราคาทองคำโลกแตะ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาทองคำไทยมีโอกาสแตะที่บาทละ 70,000 บาท มีความเป็นไปได้เช่นกัน
โดยในปี 2569 คาดการณ์แนวโน้มยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น โดยทองคำโลกแตะ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำไทยมีโอกาสมากกว่าบาทละ 70,000 บาท สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามองคือค่าเงินบาทและสถานการณ์การเมืองไทยที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า นอกจากนี้ต้องดูปัจจัยภายนอกประเทศอย่างสงครามการค้ารัสเซียกับยูเครน รวมถึงสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน ไปด้วย
สุดท้าย ท้ายที่สุดแน่นอนว่า ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หากใครที่จะขายในช่วงราคาทองเช่นนี้ก็อาจมีกำไร ส่วนใครที่กำลังจะขอสาวแต่งงานอาจต้องหนักหน่อยในช่วงนี้ จนทำเอาโลกออนไลน์มีการแซวกันว่าจากจะขอก็รีบขอ อาจเป็นหม้ายขันหมากได้ และนอกจากนี้การที่ราคาทองคำพุ่งขนาดนี้ อาจส่งสัญญาณอะไรที่ไม่ดีกับเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก หรือเปล่า? อาจมีความเสี่ยงทั้งระดับมหภาคและต่อผู้ลงทุนรายย่อย
โดยการที่ราคาทองคำขึ้นเร็วผิดปกติอาจสะท้อนภาวะความไม่มั่นใจเนื่องจากทองพุ่งแรงมักสะท้อนว่าคนแห่หนีความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลก นั่นหมายถึงเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดจะผันผวนขึ้น และเงินไหลออกจากระบบการลงทุนปกตินักลงทุนขายหุ้น/ตราสารทุนมาซื้อทองจะกระทบตลาดทุน กดดันการเติบโตของธุรกิจ และหากค่าเงินผันผวน โดยเฉพาะบาทหากบาทอ่อนเมื่อทองขึ้นราคาทองไทยจะยิ่งพุ่งแรงกว่าโลก ทำให้ผู้นำเข้าเดือดร้อน ต้นทุนประเทศสูงขึ้นความร้อนแรงอาจเกิดฟองสบู่ ราคาถูกลากด้วยอารมณ์มากกว่าปัจจัยพื้นฐานถ้าแรงซื้อหมด พังได้รวดเร็วเหมือนคริปโทในบางช่วง
ส่วนความเสี่ยงของ “ผู้ซื้อรายย่อย” หากซื้อตามกระแสตอนปลายเทรนด์เจอบ่อยที่สุด ซื้อบนดอย พอราคาหยุดพุ่งก็ขาดทุนทันทีความผันผวนสูง และทองอาจเหวี่ยงวันละหลายร้อยบาท/บาททองคำในช่วงหวือหวาทองขึ้นเพราะความกลัว ไม่ใช่เศรษฐกิจดีถ้าปัจจัยเสี่ยงคลี่คลาย ราคาทองลงแรงได้เช่นกันสภาพคล่องบางช่วงทองแท่งอาจขายออกได้ช้าส่วนทองรูปพรรณเสียค่ากำเหน็จและราคาย้อนหลัง 5–10%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่องชีพจร! ราคาทองคำไทย อาจทะลุ 5 หมื่นบาท ทำนิวไฮประวัติศาสตร์
ราคาทองคำพุ่ง! เปิดข้อควรรู้ ก่อนซื้อ-ขายทอง ในช่วงนี้ต้องดูอะไรบ้าง?
ราคาทองคำวันนี้ ทองขึ้นแตะ 40,000 บาท พุ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์